Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTVผู้จัดการรายวัน29 กันยายน 2552
ทุ่ม8หมื่นล.ขยายเฟส2สุวรรณภูมิรับคน80ล.             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)

   
search resources

ท่าอากาศยานไทย, บมจ.
Airport




ทอท.กางแผนลงทุนสุวรรณภูมิปี 53 เร่งผุดเทอร์มินอลในประเทศวงเงิน 9,000 ล้าน ดันเฟส 2 ชงบอร์ด พ.ย.นี้ มูลค่ารวมกว่า 8 หมื่นล้าน เพิ่มขีดรับผู้โดยสารเป็น 80 ล้านคนในปี 59 พร้อมปรับแผนรุกการตลาดเพิ่มรายได้เชิงพาณิชย์เป็น 50% ภายใน 3 ปี ขณะที่ผลประกอบการปี 52 อ่วม 11 เดือนผู้โดยสารลด 12.21 % เที่ยวบินหาย 6.74%

นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. (AOT) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานของทอท.ในปี 2553 ซึ่งเป็นปีที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเปิดให้บริการขึ้นสู่ปีที่ 4 จะเร่งดำเนินโครงการขยายขีดความสามารถท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ วงเงินลงทุนประมาณ 80,000 ล้านบาท รองรับผู้โดยสารเป็น 80 ล้านคนต่อปี กำหนดแล้วเสร็จในปี 2558 -2559โดยจะเสนอคณะกรรมการทอท.ที่มีนายปิยะพันธ์ จัมปาสุต เป็นประธานพิจารณาภายในเดือน พ.ย.นี้ ก่อนที่จะเสนอแผนไปยังกระทรวงคมนาคมและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)

โดยเบื้องต้น โครงการขยายขีดความสามารถท่าอากาศยานสุวรรณภูมิปรับจากแผนการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ 2 ซึ่งคาดว่าในส่วนของอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ (Domestic Terminal)วงเงินประมาณ 9,133.52 ล้านบาทจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2556 ซึ่งจะรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มอีก 20 ล้านคนต่อปีรวมกับอาคารผู้โดยสารหลังเดิม 45 ล้านคน เป็น 65 ล้านคนต่อปี ส่วนทางวิ่ง (รันเวย์) ที่ 3และ มิดฟิลด์คองคอร์ด หรือ งานอาคารเทียบเครื่องบินหลังรอง

“แผนเดิมของเฟส 2 สศช.ให้ความเห็นชอบแล้ว ติดปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมของรันเวย์ที่ 3 แต่เพื่อไม่ให้โครงการล่าช้า ในระหว่างนี้ บอร์ดทอท.ได้เห็นชอบให้ว่าจ้างที่ปรึกษาโครงการหรือ PMC เริ่มงานออกแบบก่อสร้าง (Detail& Design)คู่ขนานไป โดยเบื้องต้นเงินลงทุนโครงการทั้งหมดจะใช้เงินรายได้ของทอท. 50% อีก50 %จะพิจารณาจาก 4 แนวทาง คือ เงินกู้ต่างประเทศ, เงินกู้ในประเทศ, ขายพันธบัตร,ขายหุ้นเพิ่มทุน เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน” นายเสรีรัตน์กล่าว

เพิ่มรายได้เชิงพาณิชย์เป็น 50%

นอกจากนี้ ทอท.จะปรับแผนเพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้จากกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวกับการบิน (Non Aero) เป็น 50% ภายใน 3 ปี (53-55) จากปัจจุบัน ทีมีรายได้ จากกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวกับการบิน 40% รายได้จากกิจกรรมด้านการบิน (Aero) 60% เช่น เพิ่มกลยุทธ์ด้านการตลาดกับร้านค้าภายในสนามบินเพื่อจูงใจให้ผู้โดยสารซื้อสินค้ามากขึ้น รวมถึง การพัฒนาพื้นที่แปลง 37 เชิงพาณิชย์

โดยเร่งดำเนินโครงการในส่วนที่ไม่กระทบต่อภาวะเศรษฐกิจ เช่น โรงพยาบาล, ศูนย์การค้าชุมชน บริเวณลานจอดระยะยาว (Long Term Parking) ส่วนโครงการที่เกี่ยวข้องกับภาวะเศรษฐกิจ เช่น โรงแรม ศูนย์การประชุม สำนักงาน จะต้องปรับปรุงผลการศึกษาใหม่ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มเปิดคัดเลือกเอกชนเข้ามาลงทุนได้ตั้งแต่ต้นปี 2553

สำหรับแผนเชิงรุกเพื่อสร้างรายได้ เบื้องต้นกำหนดไว้ 6แผน ได้แก่ 1. โครงการศูนย์การค้าชุมชน บริเวณลานจอดระยะยาว (Long Term Parking) 2.โครงการให้เอกชนร่วมทุนพัฒนาธุรกิจบนที่ดินแปลง 37 ด้านใต้จำนวน 600ไร่ เป็นศูนย์กลางธุรกิจ 3. โครงการให้เอกชนร่วมดำเนินการก่อสร้างและบริหารอาคารคลังสินค้าส่วนกลาง ด้านข้างคลังสินค้า 4 เขตปลอดอากร พื้นที่ 40,000 ตารางเมตร

สำหรับผู้ขนส่งสินค้าขนาดกลางและเล็ก และผู้ขนส่งสินค้าตามฤดูกาลและเป็นคลังสินค้าเร่งด่วน 4. โครงการศูนย์ซ่อมอากาศยาน 5. โครงการศูนย์ซ่อมรถยนต์ครบวงจร 6. โครงการผลิตน้ำประปาผิวดินเพื่อใช้และจำหน่ายให้กับผู้ประกอบการภายในสนามบิน

ย้ายแท็กซี่ลงชั้น 1 เช็คเวลาเข้าออก

นายนิรันดร์ ธีรนาทสิน ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทอท. กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2552 นี้เป็นต้นไป ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะย้ายจุดจอดให้บริการรถแท็กซี่สาธารณะจากชานชลาอาคารผู้โดยสารชั้น 2 ลงมาอยู่ชานชลาอาคารผู้โดยสารชั้น 1 เหมือนเดิม ซึ่งจะเพิ่มจำนวนคิวให้รถแท็กซี่ได้มากขึ้น กว่า 50 คัน โดยจะเร่งติดตั้งป้ายและเพิ่มเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำกับผู้โดยสารขาเข้าที่ต้องการใช้บริการ ซึ่งการปรับจุดจอดดังกล่าว เป็นผลมาจากมาตรการปราบปรามไกด์ผีแท็กซี่เถื่อน และเพิ่มป้องกันในระยะยาวจะมีการติดตั้งตู้รับบัตรผ่านสำหรับรถที่ผ่านเข้า-ออก ชานชลาชั้น 2 และ 4 ซึ่งจะบันทึกเวลาเข้าออกโดยให้จอดฟรีได้15 นาทีแรก 15 นาทีต่อไป ต้องเสีย 500 บาท 15 นาทีต่อไป อีก 500 บาท เพื่อป้องกันแท็กซี่เถื่อนเข้ามาจอดรถผู้โดยสาร โดยระบบจะติดตั้งเสร็จประมาณเดือนพ.ย.


ผู้โดยสาร 11 เดือนลดลง 12.21%

ส่วนผลประกอบการในปี 2552 นายเสรีรัตน์กล่าวว่า ในช่วง 11 เดือนแรก (ต.ค.51-ส.ค.52) ปีงบประมาณ 2552 มีผู้โดยสารรวม 33.87 ล้านคน มีจำนวนเที่ยวบิน 221,326 เที่ยวบิน และมีปริมาณสินค้าขนส่งรวมทั้งสิ้น 901,454 ตัน เปรียบเทียบช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาในส่วนของผู้โดยสารและปริมาณสินค้าปรับตัวลดลง โดยเที่ยวบินลดลง 6.74% ผู้โดยสารลดลง 12.21 % ปริมาณสินค้าลดลง 24.38 %เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย ปัญหาการเมืองในประเทศและการระบาดของไข้หวัด 2009

ส.ว.ชี้ต่างชาติไม่เข้าเหตุไม่ปลอดภัย

ในการประชุมวุฒิสภาวานนี้ ( 28 ก.ย.) นายประสงค์ นุรักษ์ ส.ว.สรรหา ได้หารือต่อที่ประชุมถึงการให้บริการของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ว่าได้รับการร้องเรียนจากเพื่อนชาวต่างชาติว่า เมื่อเดินทางมาถึงสนามบินสิ่งของในกระเป๋าสัมภาระมักถูกลักขโมยเป็นประจำ รวมถึงความไม่ปลอดภัย โดยเฉพาะผู้หญิงรู้สึกเป็นอันตรายในบริเวณชั้นล่างจนไม่กล้าลงไป ทำให้ไม่อยากมาลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ ต้องเปลี่ยนไปลงที่ประเทศอื่น เช่น ที่ประเทศเวียดนามแทน จึงอยากให้รัฐบาล และการท่าอาศยานสุวรรณภูมิ ได้แก้ไขปัญหา ไม่เช่นนั้นจะทำให้ประเทศไทยเสียภาพลักษณ์และสูญเสียโอกาสหลายอย่าง.

ตั้งงบ 100 ล้านทำพีอาร์

ทั้งนี้ในวันที่ 28 กันยายน 2552 เป็นวันครบรอบ 3 ปี ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเปิดดำเนินการ ด้วยเงินลงทุนกว่า 1.2 แสนล้านบาท ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีชื่อแรกเริ่มคือ "หนองงูเห่า" และเป็นสนามบินที่ใช้เวลาในการก่อสร้างยาวนานที่สุดแห่งหนึ่ง มีปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันมากที่สุดเช่นกัน

โดยใน ปี 2552 ทอท.ส่งท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเข้าประกวด โดยตั้งเป้าหมายว่าจะต้องเป็นท่าอากาศยานดีเด่นติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกแต่ตลอดทั้งปี สุวรรณภูมิมีแต่ปัญหา มีข่าวที่ทำลายภาพลักษณ์ จนหมดหวังที่จะติด 1 ใน 10 ของท่าอากาศยานดีเด่นของโลกตามที่ตั้งความหวังไว้แล้ว ทำได้เพียงเป็นท่าอากาศยานดีเด่นอันดับ 3 ของโลกจากการโหวตของผู้อ่านนิตยสารออนไลน์ Smarttravelasia.com และลำดับที่ 16 จากการประกาศผล World Airport Award ประจำปี 2552 ของ SKYTRAX ด้วย ขยับขึ้นจากอันดับที่ 37 เมื่อปีก่อน

ขณะเดียวกันก็ต้องเร่งปรับปรุงและยกระดับคุณภาพการบริการเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกให้เพียงพอ และที่สำคัญต้องสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการเพื่อให้เกิดความพึงพอใจอย่างสูงสุดซึ่งจะต้องจ้างที่ปรึกษาด้านการพัฒนาบริการและภาพลักษณ์มาเป็นผู้ช่วยวางแนวทางให้ วงเงิน 100 ล้านบาท

"การจัดอันดับนั้นมีหลายสถาบัน แต่ที่ ทอท.ต้องการคือ เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่เป็นเลิศด้านการบริการโดยผ่านการโหวตของผู้ใช้บริการจริงๆ จากสภาท่าอากาศยานนานาชาติ (Airports Council International) หรือ ACI ปีนี้มีปัญหามาก ปี 2553 ก็จะเป็นปีของการปรับปรุง การเตรียมความพร้อมในทุกๆ องค์ประกอบ และตั้งเป้าหมายว่าจะส่งประกวดอีกครั้งในปี 2554 เชื่อว่าน่าจะทำได้เพราะมีการวางแผนวางระบบที่เป็นมาตรฐานแบบสากล ไม่เหมือนที่ผ่านมาทำแบบไม่มีระบบ"

ปรับปรุง 'สุวรรณภูมิ' โฉมใหม่

นายเสรีรัตน์ กล่าวว่า ปัจจัยที่มีผลต่อความไม่พอใจของผู้โดยสารที่ใช้บริการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และส่งผลต่อการส่งท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเข้าประกวดเป็นสนามบินดีเด่นระดับโลก คือ การที่มีเก้าอี้ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ห้องน้ำ ความสะอาด ความสะดวกสบายในการเข้าออก การใช้บริการ ความปลอดภัย ซึ่งที่ผ่านมาได้ปรับปรุงแก้ไขมาโดยตลอด รวมถึงการจัดระบบการตรวจเอกสาร ตรวจเอกซเรย์สัมภาระผู้โดยสารใหม่ ทำให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกและเสียเวลาในการรอคิวน้อยลง

ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะแก้ปัญหาต่างๆ ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ ไม่มีร่องรอยการทุจริตคอร์รัปชันของระบอบทักษิณหลงเหลือ หรืออาจจะไม่มีวันนั้นก็ได้ ทอท.ในฐานะผู้ดูแลท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เจ้าของพื้นที่ เป็นด่านแรกที่ต้องรับผิดชอบไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แล้ว ทอท.จะปล่อยให้ก้าวเดินไปในรูปแบบเดิมๆ หรือ

เร็วๆ นี้ ทอท.จะเปิดประมูลหาผู้ให้บริการรถเข็นกระเป๋าใหม่มีแผนโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ (Domestic Terminal) แผนพัฒนาพื้นที่ แปลง 37 กว่า 1,000 ไร่เชิงพาณิชย์เป็นต้น เม็ดเงินอีกเป็นหมื่นล้านบาทที่เกิดขึ้นจากโครงการเหล่านี้จะดูแลจัดการปกป้องอย่างไรไม่ให้ฝ่ายการเมืองเข้ามาสร้างความบอบช้ำเหมือนในอดีต ยิ่งนักการเมืองยุคนี้เข้ามาเป็นใหญ่เป็นโตกันแบบโชคช่วย ไม่มีทางรู้เรื่องสนามบินดีเท่ากับ ทอท.   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us