ธนาคารเอกชนในรัสเซียทั้งท้องถิ่นและต่างชาติต่างกำลังขยายธุรกิจลูกค้ารายย่อยกันยกใหญ่
สาขาใหม่ๆ ของธนาคารทั้งเจ้าถิ่นและต่างชาติหลายสิบแห่งต่างทยอยเปิดขึ้นรอบๆ
กรุงมอสโกและเมืองอื่นๆ ซ้ำยังให้บริการใหม่ๆ ที่ชาวรัสเซียไม่เคยได้รับมาก่อน
เช่น ธนาคาร 24 ชั่วโมงและสินเชื่อบุคคลแบบไม่มีหลักประกัน
การขยายตัวของธุรกิจการธนาคารลูกค้ารายย่อยครั้งนี้ นอกจากจะเป็นเพราะว่าเศรษฐกิจรัสเซียขณะนี้เริ่มสดใสและมีเสถียรภาพมากขึ้นแล้ว
ยังเป็นเพราะรัสเซีย กำลังจะออกกฎหมายใหม่ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ขยายการรับประกันเงินฝากให้ครอบคลุมถึงเงินฝากในธนาคารเอกชนด้วย
โดยเงินฝากไม่เกิน 620 ดอลลาร์ จะรับประกันทั้ง 100% และเงินฝากไม่เกิน 3,720
ดอลลาร์ จะรับประกัน 75% จากเดิมที่รัฐจะรับประกันแต่เงินใน Sberbank ซึ่งเป็นธนาคารของรัฐที่มีอยู่เพียงแห่งเดียวในรัสเซียเท่านั้น
ซึ่งเป็นมรดกตกทอดมาแต่ยุคโซเวียต และครองตลาดเงินฝากลูกค้ารายย่อยด้วยส่วนแบ่งตลาด
68%
ในขณะที่การธนาคารลูกค้าองค์กรมีสัญญาณว่ามาร์จินจะหดตัวลง และจะเผชิญกับการแข่งขันที่สูงขึ้น
ปริมาณเงินฝากลูกค้ารายย่อยในธนาคารเอกชนของรัสเซียกลับเติบโตขึ้นเรื่อยๆ
โดยยอดเงินฝากลูกค้ารายย่อยพุ่งขึ้นไปสู่ระดับ 40.1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่ายอดเงินฝากในปี
2001 ถึงสองเท่า จะมียกเว้นก็แต่ Sberbank ที่ส่วนแบ่งตลาดเงินฝากลูกค้ารายย่อยกลับลดต่ำลงเรื่อยๆ
จาก 75% ในปี 2000 เหลือ 68% ในปัจจุบันและคาดว่าจะลดลงเหลือ 63% ภายในปี
2005
แต่ไม่ว่าจะเป็น Alfa Bank แบงก์เอกชนเจ้าถิ่นที่กำลังมาแรงที่สุดในตลาดลูกค้ารายย่อย
หรือคู่แข่งสัญชาติเดียวกันอย่าง Rosbank และ MDM Bank ต่างก็ต้องเผชิญการแข่งขันจากแบงก์
ต่างชาติที่พากันตบเท้ารุกเข้าตลาดลูกค้ารายย่อยกันอย่างคึกคัก Societe Generale
(SG) แบงก์สัญชาติฝรั่งเศสมีแผนจะเปิดสาขาหนึ่งแห่งในกรุงมอสโกในฤดูใบไม้ร่วงปีนี้
และจะเปิดเพิ่มอีก 5 แห่งภายในสิ้นปีนี้ ในขณะที่ Citibank ธนาคารลูกค้ารายย่อยที่ใหญ่ที่สุดในโลกของสหรัฐฯ
ได้เปิดสาขาแรกในกรุงมอสโกไปแล้วในเดือนธันวาคมปีกลาย ส่วนแบงก์ Raiffeisen
ของออสเตรียมีเครือข่าย 6 สาขาและกำลังจะเพิ่มอีก 3 สาขา เพื่อรุกธุรกิจลูกค้ารายย่อยในรัสเซียเช่นกัน
ด้วยเหตุที่คนรัสเซียยังเอาเงินเพียง 33% ของเงินออมทั้งหมดที่มีมาฝากธนาคาร
จึงยังมีโอกาสอีกมากที่ธนาคารจะหาลูกค้าใหม่ได้ง่าย ธนาคารต่างชาติเหล่านี้กำลังสร้างสีสันให้แก่ชีวิตชนชั้นกลางรัสเซีย
ด้วยบริการที่แปลกใหม่สำหรับพวกเขา เช่น ธนาคารออนไลน์ที่ผนวกด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูลเป็นเลิศ
"ประเทศรัสเซียได้พัฒนามาถึงจุดที่เราสามารถจะทำธุรกิจที่มีกำไรได้ ด้วยการเสนอบริการแก่ลูกค้าชนชั้นกลาง"
Didier Alix แห่ง SG กล่าว
นอกจากเงินฝากจะขยายตัวแล้ว การมีรายได้ที่สูงขึ้นบวกกับความต้องการบริโภคที่เพิ่มขึ้นของชนชั้นกลางรัสเซีย
ส่งผลดันยอดสินเชื่อบุคคลให้สูงขึ้นเช่นกัน ธนาคาร Russian Standard ธนาคารท้องถิ่นแห่งแรกที่เชี่ยวชาญเรื่องสินเชื่อผู้บริโภค
ปล่อยสินเชื่อไปแล้วเป็นจำนวนถึง 410 ล้านดอลลาร์นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 1999
ส่วนแบงก์ Raiffeisen ก็ปล่อยสินเชื่อรายย่อยไปแล้ว 90 ล้านดอลลาร์ สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และสินเชื่อที่อยู่อาศัยก็พุ่งสูงขึ้นเช่นกัน
ทั้งนี้ ยอดสินเชื่อคงค้างของลูกค้ารายย่อยพุ่งแตะระดับ 6.45 พันล้านดอลลาร์ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
จากที่เคยอยู่ในระดับเพียง 1.02 พันล้านดอลลาร์เท่านั้น ในปี 2000 "คนรัสเซียได้เปลี่ยนความคิดไปแล้ว
ตอนนี้พวกเขาไม่กลัวหนี้สินและมีความสุขที่จะขอสินเชื่อ" Alexander Koloshenko
หัวหน้าส่วนลูกค้ารายย่อยของ Raiffeisen กล่าว
การปล่อยสินเชื่อเป็นธุรกิจที่มีกำไรสูงในรัสเซีย มาร์จินที่ได้จากการปล่อยสินเชื่อลูกค้ารายย่อยที่นี่สูงกว่าถึงสองเท่าของมาร์จิน
ที่ได้จากการปล่อยสินเชื่อในจำนวนเงินต้นที่เท่ากันในยุโรปตะวันตก อัตราดอกเบี้ยเงินฝากสกุลรูเบิลอยู่ที่
5% กว่าเท่านั้น ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยอยู่ที่ประมาณ
20% แต่อุปสรรค ใหญ่ของผู้มาใหม่ โดยเฉพาะธนาคารต่างชาติคือการกระจายของสาขาที่น้อยกว่าธนาคารเจ้าถิ่น
Citibank ซึ่งมีเพียงสาขาเดียว ต้องอาศัยพึ่งพิงธนาคารทางโทรศัพท์ ธนาคารทางอินเทอร์เน็ต
เครือข่ายตู้ ATM ตามปั๊มน้ำมัน BP ซึ่งตั้งอยู่รอบๆ เมืองหลวงและการเป็นพันธมิตรกับแบงก์ท้องถิ่น
แต่ก็ยังยากจะแข่งขันกับธนาคารเจ้าถิ่นได้
จะได้หรือไม่ได้ก็เป็นเรื่องที่ต้องดูกันต่อไป แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ชนชั้นกลางของรัสเซียได้หันไปซบอกธนาคารเอกชนเรียบร้อยแล้ว
แปลและเรียบเรียงโดย เสาวนีย์ พิสิฐานุสรณ์
linpeishan@excite.com
BusinessWeek/September 1, 2003