|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
คลังเผยส.ค.ขาดดุลงบประมาณ 4 หมื่นล้านบาท ส่งผล 11 เดือนแรกขาดดุลรวมเกือบ 4 แสนล้าน หรือ4.5% ของจีดีพี ขณะที่เม็ดเงินคงคลังสิ้นส.ค.อยู่ที่ระดับ 2.71 แสนล้านบาทสะท้อนความมั่นคงทางการคลังของรัฐบาล
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเศรษฐกิจมหภาค ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังได้ เปิดเผยว่า ฐานะการคลังเดือนส.ค.52 รัฐบาลมีรายได้นำส่ง 1.01 แสนล้านบาท ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว เนื่องจากการจัดเก็บภาษีได้ลดลงตามการหดตัวของเศรษฐกิจ สำหรับภาษีที่จัดเก็บได้ลดลงมากเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีเบียร์ อากรขาเข้า และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา นอกจากนั้นการจัดเก็บรายได้ของส่วนราชการอื่นก็ลดลงมากเช่นเดียวกัน
ขณะที่การเบิกจ่ายเงินงบประมาณทั้งสิ้น 1.42 แสนล้านบาท เป็นรายจ่ายประจำ 1.19 แสนล้านบาท รายจ่ายลงทุน 1.72 หมื่นล้านบาท โดยการเบิกจ่ายเงินงบประมาณที่สำคัญในเดือนนี้ ได้แก่ รายจ่ายเงินอุดหนุนให้กระทรวงศึกษาธิการจำนวน 5.27 พันล้านบาท และรายจ่ายให้กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจำนวน 3.9 พันล้านบาท นอกจากนั้นในเดือนนี้ได้มีการเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อชดใช้เงินคงคลังอีกจำนวน 1.91 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้จากรายได้นำส่งคลังและการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาลข้างต้น ส่งผลให้ดุลเงินงบประมาณในเดือนส.ค.52 ขาดดุล 4 หมื่นล้านบาท เมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่เกินดุล 2.34 หมื่นล้านบาท ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการรับชดใช้เงินคงคลัง 1.91 หมื่นล้านบาท และรายได้จากส่วนเกินพันธบัตร 2.1 พันล้านบาท ทำให้รัฐบาลขาดดุลเงินสด 1.69 หมื่นล้านบาท
สำหรับฐานะการคลังในช่วง 11 เดือนแรกปีงบประมาณ 52 รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 1.22 ล้านล้านบาท เนื่องจากการจัดเก็บภาษีของ 3 กรมหลักที่ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาษีมูลค่าเพิ่ม อากรขาเข้า ภาษีสรรพสามิตรถยนต์ และภาษีเงินได้นิติบุคคล นอกจากนั้นการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจก็ลดลงด้วยเช่นเดียวกัน
ดุลการคลังรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดขาดดุล 3.95 แสนล้านบาท โดยเป็นการขาดดุลเงินงบประมาณ 4.9 แสนล้านบาท ส่วนดุลเงินนอกงบประมาณเกินดุลจำนวน 9.56 หมื่นล้านบาท ซึ่งมีสาเหตุหลักจากการออกพันธบัตรตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน ฯ จำนวน 5 หมื่นล้านบาทเพื่อสมทบเงินคงคลัง และได้รับรายได้จากการชดใช้เงินคงคลังจำนวน 4.66 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ รัฐบาลได้บริหารเงินสดให้สอดคล้องกับความต้องการใช้เงิน รวมทั้งสร้างความมั่นคงของฐานะการคลัง จึงได้ชดเชยการขาดดุลดังกล่าวด้วยการออกพันธบัตร ตั๋วสัญญาใช้เงิน และตั๋วเงินคลังรวม 4.37 แสนล้านบาท ส่งผลให้ดุลเงินสดเกินดุล 4.2 หมื่นล้านบาท และเงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนส.ค.52 มีจำนวน 2.71 แสนล้านบาท
|
|
|
|
|