เอไอเอสโชว์ศักยภาพเครือข่ายและเทคโนโลยี GPRS สำหรับการสื่อสารแบบนอนวอยซ์ รองรับบริการแข่งเดือด โดยเลือกและเน้นพื้นที่ที่มีศักยภาพเป็นหลัก ยันครอบคลุมทั่วประเทศ
และให้บริการทั้งประเภทพรีเพดและโพสต์เพด ย้ำการทำตลาดต้องค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช่ดังและแรงแบบพลุ
ล่าสุดจับมือททท.ประกวดภาพถ่ายสถานที่ท่องเที่ยวผ่าน MMS
นายสุวิทย์ อารยะวิไลพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักธุรกิจการให้บริการเสริม บริษัท แอดวานซ์
อินโฟร์ เซอร์วิส หรือเอไอเอส เปิดเผยถึงกลยุทธ์เกี่ยวกับเทคโนโลยีจีพีอาร์เอสว่า
การลงเทคโนโลยีจีพีอาร์เอสบนโครงข่ายมือถือ เอไอเอสได้เลือกลงในลักษณะของ Strategy
Location หรือพื้นที่ที่มีศักยภาพ มีการใช้งานหนาแน่น ส่วนพื้นที่ที่มีการใช้งานไม่มากก็ลงเช่นกันแต่ลดขนาดช่องสัญญาณลงไป
ทั้งนี้ การลงจีพีอาร์เอสของเอไอเอสจะแยกจากบริการเสียงหรือวอยซ์ เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้าในการสื่อสาร
อย่างในพื้นที่กรุงเทพฯ เอไอเอสลงจีพีอาร์เอสจำนวน 4 ช่องสัญญาณ จังหวัดที่มีการใช้งานมากลงไว้
3 ช่องสัญญาณ รองลงไปก็ลงไว้ 2 ช่องสัญญาณ และจังหวัดละ 1 ช่องสัญญาณทั่วประเทศ
"การลงจีพีอาร์เอสเราไม่ได้แค่บอกว่าลงทั่วประเทศ เพราะมัน simple หรือง่ายไป
แต่เราลงแบบเน้นและเนียน" นายสุวิทย์กล่าวและว่าการให้บริการนอนวอยซ์ผ่านเทคโนโลยีประเภทนี้
โดยเฉพาะเรื่องของเอ็มเอ็มเอสต้องทำแบบค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งกลยุทธ์ของเอไอเอสคือการมุ่งเน้นการให้ความรู้กับตลาดและผู้บริโภคเป็นหลัก
โดยผ่านการจัดกิจกรรมในลักษณะต่างๆ แต่จะไม่เน้นการทำโปรโมชั่นที่หวือหวาชั่วครั้งชั่วคราว
"บริการเราเตรียมที่จะออกอีกมาก เพื่อรองรับการแข่งของนอนวอยซ์ ที่แนวโน้มจะรุนแรงมากขึ้น
แต่เราคงไม่เน้นทำโปรโมชั่นที่ดังและแรงเหมือนพลุ"
ล่าสุดเอไอเอสได้ร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดโครงการประกวด
Unseen Thailand MMS Photo Contest โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้ใช้คนไทยเที่ยวเมืองไทยให้มากขึ้น
ประกอบกับเป็นช่วงเทศกาลท่องเที่ยวช่วงปิดเทอม และวันหยุดจากการจัดประชุมเอเปก
ทำให้คนไทยมีโอกาสได้หยุดพักผ่อนไปท่องเที่ยวแล้วส่งภาพเอ็มเอ็มเอสกลับเข้ามาประกวดด้วย
สำหรับกติกาการประกวดนั้น ผู้ที่ใช้บริการจีเอสเอ็ม แอดวานซ์ และวัน-ทู-คอล!
ที่เครื่องลูกข่ายรองรับเทคโนโลยีจีพีอาร์เอส และเอ็มเอ็มเอส สามารถถ่ายภาพสถานที่ท่องเที่ยวที่ประทับใจ
หรือสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่น่าสนใจในเมืองไทยที่เดินทางไปพบ ซึ่งเอไอเอสได้ทำป้ายแสดงบริเวณแหล่งท่องเที่ยวที่มีเครือข่ายจีพีอาร์เอสที่สามารถส่งเอ็มเอ็มเอสได้
พร้อมส่งข้อความระบุสถานที่ จังหวัดของภาพ และตั้งชื่อภาพ จากนั้นส่งเป็นเอ็มเอ็มเอสไปที่หมายเลข
9970
หากภาพที่ส่งเข้าไปประกวดมีความสวยงาม ชัดเจน มีความคิดสร้างสรรค์ และองค์ประกอบของภาพความสมบูรณ์ครบถ้วน
ก็มีสิทธิ์เป็นผู้ชนะเลิศได้รับรางวัล โดยมีการแบ่งเกณฑ์การตัดสินออกเป็น 4 ภาคคือ
ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ ตามสถานที่ในภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวด และแบ่งรางวัลออกเป็นภาค
ภาคละ 4 รางวัลคือ รางวัลที่ 1 เงินสด 5 หมื่นบาท พร้อมโทรศัพท์มือถือโนเกีย 6600
1 เครื่อง มูลค่า 1.9 หมื่นบาท รางวัลที่ 2 เงินสด 3 หมื่นบาท พร้อมมือถือโนเกีย
3100 1 เครื่อง มูลค่า 8,500 บาท และรางวัลชมเชย 2 รางวัล รางวัลละ 1 หมื่นบาท
ภาพถ่ายที่ส่งเข้าประกวดครั้งนี้ เอไอเอสจะนำเสนอให้ชมทางเว็บไซต์ ส่วนภาพที่ผ่านการคัดเลือกสามารถชมได้ที่
www.mobilelife.co.th หรือทางมือถือผ่าน wap.mobileLIFE.co.th ตั้งแต่วันที่ 25
ก.ค.-31 ต.ค.นี้ และจะมีการประกาศผลผู้ที่ได้รับรางวัลในวันที่ 14 พ.ย. 2546
ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการนอนวอยซ์ของเอไอเอสที่เป็นเอสเอ็มเอสประมาณ 80-90 ล้านครั้งต่อเดือน
ส่วนเอ็มเอ็มเอสประมาณ 2 แสนครั้งต่อเดือน