Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์21 กันยายน 2552
เกรย์มาร์เก็ตงัดกลยุทธ์ชิงยอด             
 


   
search resources

Auto Dealers




ตลาดผู้นำเข้าอิสระหรือเกรย์มาร์เก็ตคึกคักอีกระลอก เมื่อผู้เล่นรายใหญ่อย่างทีเอสแอลชูกลยุทธ์บริการหลังการขาย พร้อมมัดใจลูกค้าด้วยบริการถึงบ้าน ด้านอีตั้น อิมปอร์ท ยึดจุดแข็งจับมือพันธมิตรและการตลาดแบบCRM ดันยอดขายโต ส่วนน้องใหม่ เอ.จี.คารส์ ใช้ไม้เด็ดด้วยการส่งมอบรถทันที ไม่ต้องจอง

สงครามของเกรย์มาร์เก็ตเริ่มขึ้นอีกครั้ง เมื่อผู้เล่นรายใหญ่ต่างหันมาสร้างจุดแข็งของแบรนด์ตัวเองเพื่อดึงดูดผู้บริโภคกันใหม่ หลังจากในช่วงที่ผ่านมารูปแบบของการตลาดที่เห็นได้ชัดของตลาดนี้คือ การแข่งขันด้านความเร็วในการนำเข้ารถยนต์รุ่นใหม่ๆ รวมถึงการใช้กลยุทธ์ราคาและโปรโมชั่นต่างๆ เช่น การจับมือกับพันธมิตรทางการเงินเพื่อมอบอัตราดอกเบี้ยพิเศษ, การจดทะเบียนภายใน 48 ชั่วโมงเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า หรือการมอบประกันพิเศษ ที่ทั้งค่ายเล็ก ค่ายใหญ่ มีให้ไม่ต่างกันเท่าไร

จุดแข็งที่เกรย์มาร์เก็ตรายใหญ่ หันมาโฟกัสกันอย่างจริงจังในช่วงหลัง ก็คือ การบริการหลังการขาย รวมไปถึงการมอบสิทธิพิเศษต่างๆให้กับลูกค้า ที่เกรย์มาร์เก็ตรายใหญ่มองว่าเป็นรูปแบบที่เหนือกว่าผู้นำเข้าอิสระทั่วๆ ไปที่หวังเพียงการเสนอขายรถราคาในราคาที่ต่ำกว่า แต่ไม่มีการให้บริการหลังการขายที่จะสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อ

ค่ายทีเอสแอล ที่เพิ่งจะเปิดตัวโชว์รูมและศูนย์บริการแบบครบวงจรแห่งใหม่ย่านทองหล่อ ก็ผุดบริการ หลังการขายรูปแบบใหม่ด้วยการบริการถึงบ้านหรือDelivery services ที่จะมีพนักงานไปเช็ครถและตรวจสภาพรถให้ลูกค้าถึงที่บ้าน โดยเป็นการตรงเช็คเบื้องต้นตามมาตรฐาน 24 รายการ ซึ่งปัจจุบันได้ทดลองใช้รูปแบบนี้และพบว่ามีกลุ่มลูกค้าให้ความสนใจและรู้สึกพึงพอใจในบริการดังกล่าว เนื่องจากไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทาง

ขณะที่บริการสำหรับกลุ่มลูกค้าใหม่ ก็จะมีแพคเกจ Welcome 2 SMRT ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าที่ซื้อรถมาจากค่ายอื่นให้สามารถเข้ามาใช้บริการหลังการขายกับทีเอสแอลได้ โดยมีให้เลือก 2 แพคเกจ ได้แก่ 50,000 และ 100,000 บาท ซึ่งถือเป็นแพคเกจที่มีรูปแบบคล้ายบัตรของขวัญที่ลูกค้าสามารถเข้ามาใช้บริการ และจะทำการหักค่าใช้จ่ายผ่านบัตรตามมูลค่าจริงที่ใช้ นอกจากบริการใหม่ที่ลูกค้าจะได้รับ สิทธิประโยชน์ที่เคยมอบให้ก่อนหน้านั้นอย่าง รับประกันตัวสินค้า 3 ปี 100,000 กิโลเมตร หรือ SMRT Care ที่จะมอบโปรโมชั่นให้กับลูกค้า อาทิ เปลี่ยนไส้กรองฟรีหรือส่วนลดค่าแรงก็ยังคงอยู่

นอกจากแผนงานด้านบริการหลังการขาย ทีเอสแอลยังเตรียมขยายสาขาในรูปแบบสแตนอโลน หรือที่แยกออกจากโชว์รูม แต่จะมีลักษณะการให้บริการที่เหมือนกัน ซึ่งการเพิ่มสาขาในครั้งนี้คาดว่าจะเป็นพื้นที่กรุงเทพฯและหัวเมืองใหญ่ในปีหน้า ทั้งนี้เพื่อเป็นการรองรับกับแนวทางการบริการหลังการขายที่ทีเอสแอลได้มีการวางนโยบายภายใต้คอนเซปต์ SMRT(Smart team and Smart service)

เรียกได้ว่าแผนรุกในครั้งนี้ของทีเอสแอล ถือเป็นความพยายามในการยกระดับแบรนด์ ซึ่งจะทำให้แบรนด์เข้าสู่ผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มนิช มาร์เก็ตได้ง่ายขึ้น และทีเอสแอลคาดว่าเฉพาะกลยุทธ์บริการหลังขายนั้นจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคในการเลือกซื้อรถยนต์กับทีเอสแอล โดยคาดว่าผลจากการรุกในครั้งนี้จะทำให้ยอดขายเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ 450 คัน

ไม่เพียงแต่ทีเอสแอลเท่านั้นที่ออกมาขยับตัวเพื่อรับกับการแข่งขันที่ดุเดือด แต่ค่ายผู้นำตลาดอย่างอีตั้น อิมปอร์ท ที่มียอดขายต่อปีประมาณ 600 คัน ก็มีการนำกลยุทธ์บริการหลังการขายเข้ามาเป็นจุดเด่นและทำควบคู่ไปกับกลยุทธ์การตลาดแบบ CRM โดยได้มีการจับมือกับพันธมิตรอย่างเคทีซี ในการขยายฐานลูกค้าใหม่และมอบสิทธิพิเศษให้กับกลุ่มลูกค้า ด้วยบัตร ETON Superred 24 Card ที่จะมอบส่วนลด 15%ในการเข้าใช้บริการหลังการขายที่โชว์รูมของอีตั้น อิมปอร์ท และศูนย์ บ๊อช คาร์ เซอร์วิส รวมไปถึงส่วนลดสูงสุดกว่า 40% กับร้านค้าที่ร่วมรายการที่มีสัญลักษณ์ KTC Make Sense

นอกจากนั้นแล้วบริการที่เคยมอบให้กับลูกค้าอย่าง Eton Exclusive Care ก็เป็นอีกหนึ่งบริการที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า โดยเป็นการช่วยเหลือลูกค้าด้านต่างๆไม่ว่าจะเป็นปัญหาเกี่ยวกับรถยนต์หรือการแจ้งขอความช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง และบริการพิเศษต่างๆอาทิ จองตั๋วเครื่องบิน,โรงแรม,รถเช่า,ร้านอาหาร หรือคำแนะนำทางการแพทย์

อัจฉรีย์ ตันติยันกุล ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท อีตั้น อิมปอร์ท จำกัด กล่าวว่า บริษัทให้ความสำคัญกับการทำ CRM และการจับมือกับพันธมิตรใหม่ๆเพื่อมอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าให้มากที่สุด ซึ่งฟีดแบกหลังจากที่มีการใช้กลยุทธ์นี้เข้ามารุก ก็มีกลุ่มลูกค้าเพิ่มมากขึ้น เพราะลูกค้ามองว่าประโยชน์ที่จะได้รับคุ้มค่า ยกตัวอย่าง การจับมือกับเคทีซี ที่ลูกค้าสามารถรับคะแนนจำนวน 3 เท่าเมื่อเข้ามาใช้บริการกับอีตั้น โดยลูกค้าสามารถนำคะแนนไปแลกตั๋วเครื่องบินไปต่างประเทศ และการแลกซื้อตั๋วยังได้รับโปรโมชั่นจากการบินไทย ถือเป็นโชคหลายชั้นของลูกค้าที่จะได้รับ

ส่วนน้องใหม่ที่เพิ่งเข้ามารุกในตลาดเกรย์มาร์เก็ตอย่าง เอ.จี.คารส์ จำกัด แม้จะชื่อใหม่แต่ก็ถือว่ามีประสบการณ์ในวงการนำเข้ารถยนต์มานานกว่า 20 ปี โดยนำเอารถจากต่างประเทศเพื่อส่งต่อยังเกรย์มาร์เก็ตรายย่อย นอกจากนั้นแล้วยังบริหารแบรนด์ซันยองในประเทศไทย ซึ่งจากการคลุกคลีอยู่วงในน่าจะทำให้ เอ.จี.คาร์ส มองเห็นจุดแข็งและจุดอ่อนของตลาดนี้ โดยเฉพาะการสร้างความมั่นใจและสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้

วิรัตน์ ผลประดับ ประธานกรรมการ บริษัท เอ.จี.คาร์ส จำกัด กล่าวว่า จุดแข็งของบริษัทฯคือสามารถส่งมอบรถให้กับลูกค้าทันที่ที่ต้องการครอบครองโดยไม่ต้องสั่งจอง กลยุทธ์ดังกล่าวถือเป็นไม้เด็ดของค่าย เอ.จี.คาร์ส เพราะเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่าจะได้รับรถทันที โดยที่ไม่ต้องเสี่ยงเสียเงินจองล่วงหน้า ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯมีการนำเข้ารถยนต์หลากหลายรุ่น อาทิ เฟอร์รารี่,ปอร์เช่,แอสตัน มาร์ติน,ลัมเบอร์กินี่,เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอสแอลเค,บีเอ็มดับเบิลยู แซด4,ออดี้ ทีทีเอส,มินิ คูเปอร์ ซึ่งรถยนต์ทุกรุ่นที่นำเข้ามาผ่านการตรวจสอบด้านคุณภาพมาตรฐาน มีอุปกรณ์พร้อม

" เมื่อลูกค้าเข้ามาดูรถแล้วถูกใจก็สามารถซื้อได้เลย ดังนั้นจึงไม่มีการรับเงินจองล่วงหน้าหลายเดือน ซึ่งจะทำให้ลูกค้ากังวลใจว่าจะถูกเอาเปรียบจากผู้ขายได้ "

เรียกได้ว่าเปิดแนวรบกันครบสำหรับรายใหญ่ทั้ง ทีเอสแอลและอีตั้น อิมปอร์ท ที่แม้จะมียอดขายและภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ติดอยู่ในใจของผู้บริโภค แต่ก็ยังต้องทำตลาดเพื่อปกป้องยอดขาย ขณะที่น้องใหม่อย่างเอ.จี.คาร์ส ที่เพิ่งเข้ามาในตลาดก็มีการนำเอาจุดอ่อนของตลาดมาเป็นจุดแข็งของตัวเอง ซึ่งผลลัพธ์ของแต่ละแบรนด์จะออกมาเป็นอย่างไร ก็คงต้องติดตามกันต่อไป   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us