|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เมเจอร์เริ่มถอดใจ หนังดี-โฆษณาเข้า ช่วยอะไรไม่ได้มาก คาดทั้งปีนี้รายได้ทรงตัวเท่าปีก่อน เหตุตัวถ่วงทั้งไข้หวัด 2009 และการเมือง ร่วมฉุดการเติบโต ทำคนดูผวา ไม่กล้าดูหนัง แย้งหนังดิจิตอล ไม่ช่วยอะไรมาก ต่อปีมีหนัง3Dเข้าฉายน้อย แต่อนาคตสดใส เมเจอร์ฯพร้อมลุยเปิดโรงหนังดิจิตอล 3D ต่อเนื่อง จากปัจจุบันมีโรงหนังดิจิตอลรวม 20โรง
นายอนวัช องค์วาสิฏฐ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการดำเนินงานในช่วงเวลา 8-9 เดือนที่ผ่านมา ทำให้บริษัทฯสามาระประเมินได้ว่า ปีนี้ทั้งปีบริษัทฯน่าจะมีรายได้รวมทรงตัวเท่าปีที่ผ่านมา โดยมองว่าทั้งปีจะขายตั๋วหนังได้ประมาณ 30 ล้านใบเท่าปีก่อน ถึงแม้ว่าสถานการณ์อุตสาหกรรมภาพยนตร์ในปีนี้ จะมีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ ทำเงินจากต่างประเทศเข้ามาฉายตลอดปี ซึ่งถือได้ว่าปีนี้เป็นปีที่มีหน้าหนังดีที่สุดอีกปีหนึ่ง บวกกับสื่อในโรงภาพยนตร์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องก็ตามนั้น แต่กลับไม่ช่วยให้รายได้รวมเติบโตได้
เพราะตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาประเทศไทยเจอสถานการณ์ที่ควบคุมไม่ได้อยู่ตลอดเวลาเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความวุ่นวายในช่วงสงกรานต์ และกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 ล้วนแต่เป็นปัจจัยลบที่ฉุดให้ลูกค้าชะลอการเข้ามาชมภาพยนตร์แทบทั้งสิ้น ถึงแม้ช่วงเวลานั้นจะมีภาพยนตร์ที่น่าสนใจก็ตาม
สำหรับเมเจอร์ฯ ปัจจุบันมีจำนวนสาขาทั่วประเทศกว่า 46 สาขา และมีโรงภาพยนตร์ทั้งสิ้น 372 โรง โดยในจำนวนดังกล่าว เป็นโรงภาพยนตร์ระบบดิจิตอล 20โรง และสามารถฉายภาพยนตร์ 3D ดิจิตอล ได้ 12 โรง โดยเดือนที่ผ่านมาบริษัทได้นำเอาระบบ 3D ดิจิตอล เข้าไปติดตั้งอีก 1 จอในพารากอน ทำให้ปัจจุบันพารากอนมีโรงภาพยนตร์ที่ฉายหนังระบบ3D ดิจอตอล เพิ่มเป็น 2 จอ พร้อมกันนี้เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาบริษัทยังได้นำเอาระบบ3D ดิจิตอล เข้าไปเพิ่มที่เมเจอร์ สาขาเชียงใหม่อีก 1 แห่ง
นายอนวัช กล่าวต่อว่า กระแสภาพยนตร์ 3D ดิจิตอลนั้น กำลังถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แต่ภาพยนตร์ที่จะนำมาสร้างเป็นระบบดังกล่าว จะต้องเป็นเรื่องที่มีเหตุผลที่จะทำเป็น 3D ดิจิตอลได้ ไม่ใช่ว่าจะทำได้ทุกเรื่อง เช่น ภาพยนตร์อะนิเมชั่น และแอกชั่น-ไซไฟ จะทำ3Dได้ง่ายกว่าภาพยนตร์แนวรักโรแมนติก ส่งผลให้ต่อปีมีจำนวนภาพยนตร์ที่ถูกผลิตขึ้นมาในระบบ 3D ดิจิตอลน้อยมาก โดยปีนี้มีเพียง 6-7 เรื่อง ขณะที่ปี 2553 บริษัทคาดว่าจะนำเข้ามาได้ประมาณ 10 กว่าเรื่อง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตลาดต่างประเทศที่จะผลิต ซึ่งสัดส่วนภาพยนตร์ 3D นี้ มีเพียง 3% ของอุตาหกรรมภาพยนตร์เท่านั้น
อย่างไรก็ตามกระแสภาพยนตร์ 3D กำลังมีแนวโน้มที่ดี เพราะต้นทุนการขนส่งจะถูกลง ดังนั้นอนาคตแนวโน้มที่ภาพยนตร์จะผลิตในลักษณะนี้ จะดียิ่งขึ้น ในส่วนของเมเจอร์เอง ก็พร้อมที่จะลงทุนติดตั้งจอเพื่อตอบรับเทคโนโลยีใหม่นี้อย่างแน่นอนถึงแม้ว่าการลงทุนสร้างโรงหนัง 3D ดิจิตอล จะสูงกว่า โรงหนังปกติก็ตาม ซึ่งบอกไม่ได้ว่าความเหมาะสมของการโรง 3D นี้ควรจะอยู่แค่ไหน ขึ้นอยู่กับโลเกชั่น และความต้องการของผู้ชมมากกว่า
|
|
|
|
|