Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน24 กันยายน 2546
SGFแกร่งขายหุ้นเพิ่มทุนให้เปาโลฯโบรกแนะขายทิ้ง/ราคาเกินพื้นฐาน             
 


   
search resources

นครหลวงไทย, บล.
เปาโล เมดิค
สยามเจเนอรัลแฟคตอริ่ง, บมจ.
ภัทรินท์ ธนานาถ
วิชัย ทองแตง




ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ SGF ชี้กิจการจะได้รับผลดีจากการขายหุ้นเพิ่มทุนให้เปาโล เมดิค จำนวน 15 ล้านหุ้น ที่ราคา 4.45 บาท/หุ้น ระบุสมเหตุสมผล ซึ่งจะเพิ่มความแข็งแกร่งโครงสร้างทางการเงิน-เพิ่มศักยภาพในการ ดำเนินธุรกิจทั้งธุรกิจแฟกตอริ่งและบริการสินเชื่อลีสซิ่งในกลุ่มลูกค้าใหม่ๆที่เป็นพันธมิตรของกลุ่มเปาโล เมดิค ซึ่งมีวิชัย ทองแตง เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โบรกฯแนะขายทำกำไร หลังราคาหุ้น SGF วิ่งเกินปัจจัยพื้นฐานและราคาขายหุ้นเพิ่มทุน

นางสาวภัทรินทร์ ธนานาถ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ นครหลวงไทย จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินอิสระในการแสดงความเห็นเกี่ยวกับการที่บริษัท เปาโล เมดิค จำกัด ขอผ่อนผันการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ ทั้งหมดของบริษัท สยามเจเนอรัลแฟค ตอริ่ง จำกัด (มหาชน) (SGF) ว่าที่ปรึกษาฯ มีความเห็นว่ากิจการจะได้รับผลดีจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน และให้สิทธิในการซื้อหุ้นที่เหลือจากการเสนอขายผู้ถือหุ้นเดิมแก่ผู้ขอผ่อนผัน

เนื่องจากกิจการจะสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งโครงสร้างทางการเงินโดยการลดภาระหนี้สิน และเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจทั้งธุรกิจแฟกตอริ่งและบริการสินเชื่อลีสซิ่งในกลุ่มลูกค้าใหม่ๆที่เป็นพันธมิตรของกลุ่มบริษัท เปาโล เมดิค ที่มีผลประกอบการที่ดี ซึ่งจะส่งผลให้กิจการมีอัตราการเติบโตของผลประกอบการในอนาคตอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ฐานะทางการเงินของกิจการที่มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนที่ลดลงจากการเพิ่มทุนครั้งนี้จะช่วยเพิ่มความสามารถในการหาแหล่งเงินทุนใหม่ที่มีต้นทุนต่ำในอนาคตเพื่อใช้ขยาย ธุรกิจของกิจการอีกด้วย

ดังนั้น จึงมีความสมเหตุสมผลของการที่บริษัท เปาโล เมดิค จำกัด จะเข้าซื้อหุ้นของกิจการจำนวน 15 ล้านหุ้น ในราคา4.45 บาทต่อหุ้น และมีโอกาสที่จะถือหุ้นของกิจการในอัตราส่วนเกิน 25% ของจำนวนหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมด จากการซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ เหลือจากการจองซื้อตามสิทธิที่จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญเดิม อัตราส่วน 2 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่

ราคาซื้อของผู้ขอผ่อนผันเมื่อเปรียบเทียบกับการประเมินมูลค่าหุ้นโดยวิธีต่างๆเห็นได้ว่า การประเมิน โดยวิธีมูลค่าหุ้นตามบัญชี และวิธีเปรียบเทียบตลาด P/E มีราคาประเมินต่ำกว่า ราคาซื้อของผู้ผ่อนผัน ยกเว้นวิธีเปรียบเทียบตลาด P/BV มีราคาประเมินสูงกว่า แต่ทั้งนี้เนื่องจากบริษัทมีผลขาดทุน สะสมอยู่ จึงทำให้อัตราส่วนตลาด P/BV มีมูลค่าสูงกว่าความเป็นจริงส่งผลให้มูลค่าหุ้นจากการคำนวณสูงตามไปด้วย

โดยเงินทุนใหม่เข้ามาคิดเป็นมูลค่ารวมถึง 66.75 ล้านบาท จะนำระหนี้เงินกู้เดิม อันจะช่วยลดภาระดอกเบี้ยของกิจการได้ส่วนหนึ่ง ทั้งนี้เพราะหากเป็นการเสนอขายในราคาตลาดกิจการอาจจะไม่สามารถหาผู้ลงทุนเข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุนได้ในคราวเดียวกัน

ความเคลื่อนไหวของ SGF วานนี้ ปิดตลาดที่ 14.30 บาท เพิ่มขึ้น 1.20 บาท เปลี่ยนแปลง 9.16% มูลค่าการซื้อขาย 395.43 ล้านบาท

ด้านบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง กล่าวว่า สาเหตุที่ราคาหุ้น SGF ปรับขึ้นมาแรง และมีมูลค่าการซื้อขายหนาแน่น เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเล่นเก็งกำไรจากการเปลี่ยนกลุ่มผู้ถือหุ้น ใหญ่เป็นกลุ่มบริษัทเปาโล เมดิค ซึ่งนาย วิชัย ทองแตง ทนายความของพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ถือหุ้นหลัก ประกอบกับบริษัทจะมีเงินทุนใหม่เข้ามาจำนวนมาก ทำให้บริษัทสามารถล้างขาดทุนสะสมได้สำเร็จ

"นักลงทุนส่วนใหญ่ที่เข้ามาเก็งกำไร เพราะเชื่อมั่นว่าผู้ร่วมทุนรายใหม่ จะมีศักยภาพในการบริหารงาน แต่ราคาหุ้นในกระดานเวลานี้ถือว่าแพงเกิน ปัจจัยพื้นฐานของบริษัท และสูงกว่าราคาหุ้นเพิ่มทุน จึงแนะนำให้นักลงทุนที่มีหุ้นตัวนี้ขายทำกำไรเมื่อราคาหุ้นปรับขึ้นมาสูงมาก และรอดูความชัดเจนของแผนการบริหารงานหลังจากที่เปลี่ยนกลุ่มผู้บริหารใหม่ก่อนจะเข้าลงทุน หลีกเลี่ยงการเก็งกำไร"

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us