|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
โบรกฯคาด 3 Gแจ้งเกิดได้ในปีนี้ เชื่อส่งผลดีทั้งอุตสาหกรรมทำให้ต้นทุนถูกลง ดีแทคได้เปรียบต้นทุนค่าจ่ายสัมปทานลดมากสุด ส่วนภาพรวมธุรกิจผลประกอบการไตรมาส 3 ทรงตัวได้ส่วนไตรมาส4 จะเข้าไฮซีซั่น
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์จาก บริษัทหลักทรัพย์(บล.) ทรีนีตี้ กล่าวว่า ปัจจัยความชัดเจนการประมูลใบอนุญาต 3G บนคลื่นความถี่ใหม่ 2.1 GHz ของ กทช.ถือว่าเป็นข่าวเชิงบวกกับหุ้นกลุ่มสื่อสารมาก โดยเฉพาะหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการใช้ใบอนุญาต 3G มากที่สุดอย่างหุ้น บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) มองว่าได้ประโยชน์สูงสุดจากการใช้ใบอนุญาต 3G เพราะต้นทุนจากการจ่ายสัญญาสัมปทานลดลงเกือบ 15% เมื่อเทียบกับปัจจุบัน และยังมีฐานการเงินที่แข็งแกร่ง อีกทั้งยังสามารถกู้ยืมเงินเพื่อมาลงทุนได้ถึงแม้ไม่มีพันธมิตรก็ตาม
ส่วนหุ้น บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) ต้นทุนการจ่ายสัมปทานลดลง 14.6% และมีแนวโน้มแสดงผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2552 ที่ดี เนื่องจากรายได้ส่วนใหญ่มาจาก กทม. ปริมณฑลและหัวเมือง จึงได้รับผลจากลูกค้าในภาคเกษตรที่รายได้ชะลอต่ำ ราคาหุ้นในปัจจุบันมี EV/Subscriber ที่ยังต่ำ หากมีการเข้าร่วมถือหุ้นโดยพันธมิตรต่างชาติเชื่อว่าน่าจะทำให้ราคาหุ้น สะท้อนมูลค่าที่แฝงอยู่ในบริษัทมากขึ้น จึงมีมุมมองบวกต่อการลงทุน 3G และเรื่องพันธมิตร
ขณะที่ บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) มองว่ามีต้นทุนจากการจ่ายสัมปทานลดลงเพียง 13% เมื่อเทียบจากปัจจุบัน ซึ่งถือว่าน้อยสุดในกลุ่ม แม้ว่าฐานะการเงิน และโอกาสที่จะประมูลใบอนุญาต 3G จะมีความเป็นไปได้สูงกว่า DTAC และ TRUE ก็ตาม
ดังนั้นจึงแนะนำ ซื้อ หุ้นในกลุ่มมือถือ โดยเลือกหุ้น DTAC เป้าหมาย 46 บาท และ TRUE เป้าหมาย 3 บาทเป็นหุ้นเด่น รองลงมาเป็นหุ้น ADVANC เป้าหมาย 101 บาท
ด้านบทวิเคราะห์หลักทรัพย์จาก บล. กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุว่ามีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มสื่อสารซึ่งประกอบธุรกิจโครงข่าย โทรศัพท์เคลื่อนที่ หลังจากเรื่องของใบอนุญาต 3 Gเริ่มมีความคืบหน้า และคาดแนวโน้มผลการดำเนินงานของกลุ่มแตะจุดต่ำสุดแล้ว
สำหรับการเปิดประมูลใบอนุญาตภายในไตรมาส 4/2552 หรือไตรมาส 1/2553 จะเป็นประโยชน์กับทุกบริษัทเอกชนในด้านโอกาสลดต้นทุนต่อหน่วยในระยะยาวเมื่อ เปรียบเทียบกับสัญญาสัมปทานปัจจุบัน โดยปัจจัยดังกล่าวจะเป็นปัจจัยบวกหลักต่อหุ้นสื่อสารที่ประกอบธุรกิจโครง ข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่
ทั้งนี้ คาดว่า หุ้น DTAC จะมีโอกาสลดต้นทุนต่อหน่วยมากที่สุดเมื่อได้รับใบอนุญาต 3 G ซึ่งหากมีความชัดเจนบนสมมติฐานความเป็นไปได้ 30-50% ที่จะเริ่มบริการ 3 G ภายใต้ใบอนุญาตใหม่ภายในครึ่งหลังของปี 2553 ฝ่ายวิจัยได้ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายใหม่เป็น 42.50 บาท จากปัจจุบันราคาเป้าหมายที่ราคา 37 บาท
สำหรับ หุ้น ADVANC ฝ่ายวิจัยประเมินว่ามีฐานะทางการเงินแข็งแกร่งที่สุดและให้อัตราเงินปันผล ตอบแทน 7.2% ขณะที่ใบอนุญาต 3 Gมีความชัดเจนขึ้นในสมมติฐานเดียวกันผ่ายวิจัยได้ปรับราคาเป้าหมายใหม่เป็น 115 บาทจากปัจจุบันที่ให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ราคา 105 บาท
ขณะที่ TRUE ให้คำนำซื้อเก็งกำไร หลังจากประเมินว่า แนวโน้ม EBITDA จะฟื้นตัวโดดเด่นในปีนี้และการคาดหมายสรุปพาร์ตเนอร์ใหม่หลังบริษัทมีใบ อนุญาต 3Gขึ้น และหลังจากบริษัทได้ใบอนุญาต 3 Gฝ่ายวิจัยได้ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายใหม่เป็น 3.72 บาทจากปัจจุบันให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ราคา 2.80 บาท
สำหรับไตรมาส 3/2552 ฝ่ายวิจัยคาดกำไรของบริษัทผู้ประกอบการบริษัทต่างๆ จะสามารถรักษาผลประกอบการไตรมาส 3/2552 ให้ทรงตัวระดับเดิมได้ และคาดว่า อุตสาหกรรมจะฟื้นตัวจากผลบวกของช่วงเทศกาลและการท่องเที่ยว ในช่วงไตรมาส 4/2552
นอกจากนี้ ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ไตรมาส 3 นี้ DTAC จะลดค่า IC ได้ อย่างไรก็ตาม ในทางกลับกันจะเป็นไตรมาสแรกที่รวมผลของค่าใช้จ่ายที่เพิ่มจากการย้ายสำนัก งานใหญ่เต็มไตรมาส แต่สำหรับ TRUE คาดว่ามีแนวโน้มกำไรสุทธิก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีและค่าเสื่อม (EBITDA) ดีขึ้นในไตรมาส 3/2552 จากช่วงไฮซีซั่นของ True Visions ทั้งจากโปรแกรมฟุตบอล English Premier League และ AF6 รวมถึงผลของแพกเกจ high-end ใหม่ของธุรกิจ บรอดแบนด์ด้วย
|
|
|
|
|