บล.เคจีไอ ตั้งเป้ามูลค่าให้ยืมหุ้นปีนี้แตะ 3 หมื่นล้านบาท หลัง8 เดือนแรกมี มูลค่า 1.8 -2 หมื่นล้านบาท เหตุดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นสูงแล้ว และเตรียมปรับตัวลดลง หนุนนักลงทุนหันยืมหุ้นขายชอร์ตทำกำไรมากขึ้น พร้อมออกโครงการ “ชอร์ตหุ้นเพื่อน้อง” นำเงินบริจาคการกุศลหวังกระตุ้นยอดธุรกรรม ส่วนแผนของDW ตัวใหม่ต้องชะลอออกไป หลังภาวะหุ้นดีขึ้น และก.ล.ต.อยู่ระหว่างแก้เกณฑ์ให้เข้าเทรดได้เลยโดยไม่ต้องไอพีโอ คาดชัดเจนธันวาคมนี้
2 แห่ง ผู้บริหาร แจง ก.ล.ต.อยู่ระหว่างแก้เกณฑ์เทรดดีดับบิวเร็วขึ้น พร้อมชะลอแผนออกตัวที่ 3
นางสาวนฤมล อาจอำนวยวิภาส ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายธุรกิจตราสารอนุพันธ์ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KGI เปิดเผยว่า ยอดการยืมและให้ยืมหุ้นในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นมาก เนื่องจากภาวะตลาดหุ้นไทยขณะนี้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นสูง จึงเชื่อว่าตลาดหุ้นจะมีการปรับตัวลดลงซึ่งทำให้มีนักลงทุนเข้ามายืมหุ้น เพื่อไปทำการชอร์ตเซลมากขึ้นเพื่อทำกำไร จากภาวะตลาดที่จะมีความผันผวนสูง
ทั้งนี้ จึงทำให้คาดว่าปีนี้ บล.เคจีไอ จะมียอดการให้ยืมหุ้นอยู่ 25,000-30,000 ล้านบาท หรืออาจจะมากกว่ายอดการให้ยืมของบริษัทในปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ 30,000 ล้านบาท โดยในช่วง 8 เดือนปีนี้บริษัทมียอดการให้ยืมหุ้นอยู่ที่ 18,000 ล้านบาท และมีมูลค่าการให้ยืมคงค้างอยู่ที่ 2,000 ล้านบาท โดยในครึ่งปีแรก(ม.ค.-มิ.ย.52 บริษัท มียอดการให้ยืมหุ้นแก่นักลงทุนมูลค่ารวม 12,947.35 ล้านบาท หรือคิดเป็น 60% ของตลาดรวมที่มีมูลค่าการชอร์ตเซล 20,947.32 ล้านบาท
“ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทมองว่ามูลค่าการยืมหุ้นจะมากขึ้นกว่าช่วงครึ่งปี แรก เพราะ ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นสูง จึงทำให้มีความเสี่ยงที่จะมีการปรับตัวลดลงมาก และนักลงทุนจึงจะหันมายืมหุ้นเพื่อไปชอร์ตเซล ซึ่งขณะนี้มีนักลงทุนได้เข้ามาเปิดบัญชีการยืมหุ้นกับบริษัทต่อเนื่อง จึงทำให้บริษัทคาดว่าบริษัทจะมียอดการให้ยืมหุ้นปีนี้สูงกว่าปีที่ผ่านมา จากที่ภาวะตลาดหุ้นไทยปีนี้เหวี่ยงตัวแรง ”นางสาวนฤมล กล่าว
ปัจจุบันบริษัทมีนักลงทุนบุคคลธรรมดาที่มีการยืมหุ้นจำนวน 353 บัญชี และมีการยืมหุ้นสม่ำเสมอ 30% หรือประมาณ 100 บัญชี และคาดว่าในช่วงที่เหลือปีนี้จะมีนักลงทุนเข้ามาเปิดบัญชียืมหุ้นมากขึ้น เพื่อทำกำไร และป้องกันความเสี่ยง จากภาวะตลาดหุ้นที่จะมีผันผวน ขณะที่ผู้นำหุ้นมาให้ยืม คือ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.)และบริษัทประกันนำหุ้น ห็มีการให้ยืมหุ้นมากขึ้น ซึ่งขณะนี้มีมูลค่ารวม 10,000 ล้านบาท
โดยเป็นหุ้นที่อยู่ใน SET 50 กองทุนเปิด MTRACK ENERGY ETF หรือ ENGY และ กองทุนเปิด ไทยเด็กซ์ เซ็ท 50 อีทีเอฟ หรือ TDEX
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้มีการชวนนักลงทุนเข้าร่วมโครงการ “ED Charity Project 2:ชอร์ตหุ้นเพื่อน้อง” เพื่อรวบรวมเงินบริจาคจากลูกค้าบุคคลธรรดาที่มีการทำธุรกรรมSBL สมทบทุนสถานสงเคราะห์เด็กอ่อนปากเกร็ด และมูลนิธิช่วยคนปัญญาอ่อนแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และเป็นการส่งเสริมการทำธุรกรรมSBLให้เพิ่มมากขึ้น โดยยอดการยืม 1 ล้านบาท คิดเป็นเงินบริจาค 100 บาท ซึ่งได้เริ่มโครงการนี้ตั้งแต่ 3 กันยายน- 30 พฤษจิกายนปีนี้
นางสาวนฤมล กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะเดียวกันเมื่อภาวะตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ก็ทำให้บริษัทต้องมีการเลื่อนการออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (DW) ตัวที่3 ของปีนี้ออกไปก่อน จากปีนี้ที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์อ้างอิงหุ้นบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และขณะนี้ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อยู่ระหว่างการแก้เกณฑ์การออกเสนอขายDW ให้สามารถซื้อขายบนกระดานหุ้นได้ทันที โดยไม่ต้องเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO)ทำให้มีความสะดวกรวดเร็วและไม่มีความเสี่ยงในเรื่องราคาระหว่างการเปิด จองไอพีโอ ซึ่งคาดว่าเกณฑ์ใหม่นี้จะมีผลประกาศบังคับใช้ได้ในเดือนธันวาคม
“ก.ล.ต.อยู่ระหว่างแก้เกณฑ์เสนอขายDW ให้สามารถซื้อขายบนกระดานหุ้นได้ทันที ทำให้ลดระยะเวลาในการเข้าซื้อขาย และป้องกันความผันผวนของราคาหุ้น ซึ่งในต่างประเทศการออกDWจะเป็นไดเรคลิสต์ติ้งหมดแล้ว ”นางสาวนฤมล กล่าว
|