Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTVผู้จัดการรายวัน10 กันยายน 2552
BLSเซ็งบทสรุปค่าคอมม์บันไดติงทำรายได้บล.ทรุด-นักลงทุนเปลี่ยนพฤติกรรม             
 


   
www resources

โฮมเพจ หลักทรัพย์บัวหลวง, บมจ.

   
search resources

หลักทรัพย์ บัวหลวง, บมจ.
Funds




บล.บัวหลวง ชี้ หลัง ก.ล.ต.ยืนยันใช้ค่าคอมมิชชันขั้นบันไดแบบเดิม จะทำให้ภาพรวมรายได้ธุรกิจโบรก-เกอร์หด 10-15% โดยเฉพาะโบรกฯ ที่มีฐานลูกค้ารายใหญ่จะลดลงถึง 25-30% อีกทั้งส่งผล ให้นักลงทุนปรับพฤติกรรมการเทรด หรือยกเลิกบัญชีที่มีอยู่หลายแห่ง ยืนยัน บล.ทุกแห่ง เห็นพ้องแบบใหม่ และไม่ได้ร้องขอให้เลื่อน เปิดเสรี ด้าน 'พิเชษฐ' เล็งกระตุ้นลูกค้าลงทุน ผ่านบริษัทมากขึ้น โดยการหันไปให้คำแนะนำ การลงทุน 'เอ็กซ์คลูซีฟเวลท์' ฟุ้ง 8 เดือนสร้าง ผลตอบแทนสูงถึง 23%

นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการ ผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ BLS เปิดเผยว่า ส่วนตัว มองว่าจากการที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กำหนดให้คิดอัตราค่าธรรมเนียมการซื้อขาย ขั้นบันไดเดิมนั้น จะส่งผลกระทบทำให้ภาพรวม รายได้ของ บล.จะลดลงเฉลี่ย 10-15% จากค่าคอมมิชชันปัจจุบันที่ 0.25% ของมูลค่าการ ซื้อขาย แต่หาก บล.ใดมีฐานลูกค้าเป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่มีการซื้อขายต่อวัน 20 ล้านบาท จะทำให้รายได้ลดลง 25-30% ส่วน บล.ที่มีฐานลูกค้ารายย่อยที่มีการซื้อขายต่อวัน 1-2 ล้านบาทจะทำให้รายได้ลดลง 5-10%

นอกจากนี้ เรื่องดังกล่าวจะทำให้นักลงทุน ที่มีการเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นกับโบรกเกอร์หลายรายนั้นอาจมีการหันมาเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์รายเดียว แต่ก็จะมีนักลงทุนบางส่วนที่ต้องการได้ข้อมูลการซื้อขายที่หลากหลายนั้นก็จะยังคงเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์หลายรายอยู่ แต่จะมีการหันมาเทรดกับโบรกเกอร์รายเดียวต่อวัน จากเดิมที่กระจายการเทรดกับหลายโบรกเกอร์ เช่น จากเดิมเทรดกับโบรกเกอร์ 2 แห่ง แห่ง ละ 3 ล้านบาทต่อวัน เปลี่ยนมาเทรดกับโบรก-เกอร์รายเดียวภายใน 1 วัน หรือเปลี่ยนเป็นบล.ละ 1 สัปดาห์

'เรื่องการปรับค่าคอมมิชชันขั้นบันไดใหม่นั้น ที่ประชุมของสมาคมโบรกเกอร์ สมาชิกทุกแห่งมีมติเอกฉันท์ให้มีการปรับใหม่ ไม่มี บล.รายใดคัดค้านเลย ซึ่งเราไม่ได้ต้องการให้มีการเลื่อนเปิดเสรี แต่ขอให้มีการปรับ ค่าคอมมิชชันขั้นบันไดให้มีความเหมาะสมเท่านั้น ซึ่งการใช้ค่าคอมมิชชันขั้นบันได ตามประกาศเดิมนั้นจะทำให้โบรกเกอร์ลดลงแน่นอน แต่จะลดลงเท่าไรนั้นขึ้นอยู่กับฐาน ลูกค้าของ บล.แต่ละแห่ง หากใครมีฐานลูกค้ารายใหญ่ที่เทรดต่อวัน 20 ล้านบาทก็จะลดลงมากกว่า บล.ที่มีฐานลูกค้ารายย่อย' นายพิเชษฐ กล่าว

สำหรับการที่ ก.ล.ต.หนุนให้โบรกเกอร์มีการหารายได้จากธุรกิจอื่นๆ มากขึ้นโดยลดการ พึ่งพาค่าคอมมิชชันนั้น ที่ผ่านมาโบรกเกอร์ ทุกแห่งมีการปรับตัว เช่น การทำธุรกิจอนุพันธ์ ฯลฯ นั้นรายได้ยังไม่มากนัก เพราะเป็นช่วงเริ่มต้นและจะต้องมีการลงทุนเพิ่ม ซึ่งกว่าที่โบรกเกอร์จะมีรายได้และกำไรที่ดีจะต้องใช้เวลาประมาณ 2 ปีกว่าจะทำรายได้กลับบริษัท และทางโบรกเกอร์ไม่ได้ขอให้มีการเลื่อนเปิดเสรี แต่ขอให้มีการปรับค่าคอมมิชชันขั้นบันไดให้เหมาะสมกับภาวะตลาดเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ บล.บัวหลวงนั้นยืนยันว่าได้รับผลกระทบจากเรื่องดังกล่าวไม่มากนัก เพราะบริษัทมีฐานลูกค้ารายใหญ่ที่มีมูลค่าการซื้อขาย 20 ล้านบาทต่อวันไม่มากนัก ซึ่งฐานลูกค้าของบริษัทส่วนใหญ่จะมีการเทรดอัตราค่าคอมมิชชันขั้นบันไดที่ 1 และ 2 ที่มีการ เทรดไม่เกิน 1 ล้านบาท และมากกว่า 1 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 10 ล้านบาท

นายพิเชษฐกล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทได้มีการให้บริการเป็นที่ปรึกษาการลงทุนในรูปแบบ 'เอ็กซ์คลูซีฟเวลท์ แก่ลูกค้าในลักษณะแนะนำการลงทุนและการจัดพอร์ตการลงทุนเพื่อ ที่จะให้ได้ผลตอบแทนที่ดี ซึ่งจากการที่บริษัทมีการแนะนำลูกค้าในการจัดพอร์ตในสัดส่วน ลงทุนในหุ้น 39% ลงทุนในตั๋วเงินคลัง 18% พันธบัตรระยะกลาง 3-4 ปี 10% พันธบัตรระยะยาว 7-10 ปี 4% ลงทุนหุ้นกู้เอกชนที่มีอันดับเครดิต BBB+ ขึ้นไป 9% ทองคำ 7% สินค้าโภคภัณฑ์ 6% และกองทุนอสังหาริมทรัพย์ 5% ซึ่งจากการจัดพอร์ตดังกล่าวทำให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนช่วง 8 เดือน (1 ม.ค.-31 ส.ค.) อยู่ที่ 23%

โดยจากการให้คำปรึกษาในการจัดพอร์ต การลงทุนนั้นขณะนี้มีนักลงทุนบุคคล และบริษัทนิติบุคคลให้ความสนใจเข้ามาปรึกษากับ ทางบริษัทเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และทาง บล.บัวหลวงจะร่วมมือกับธนาคารกรุงเทพ ซึ่งเป็นผู้ถือ หุ้นใหญ่ของบริษัท ในการแนะนำลูกค้าให้ บล.บัวหลวงมากขึ้น และผ่านมาทางบริษัทได้ มีการให้คำแนะนำเจ้าหน้าที่ของธนาคารในการแนะนำสินค้าการลงทุนเพื่อให้เจ้าหน้าที่ของธนาคารไปแนะนำลูกค้าของธนาคารกรุงเทพ ซึ่งจะทำให้บริษัทมีฐานลูกค้ามากขึ้นในการ เข้ามาลงทุน และทำให้บริษัทมีรายได้เข้ามาชดเชยรายได้ค่าคอมมิชชันที่ลดลงในอนาคต ที่จะมีการใช้ค่าคอมมิชชันขั้นบันได

'การให้บริการเอ็กซ์คลูซีฟเวลท์แก่ ลูกค้าเป็นเพียงการให้คำแนะนำเท่านั้นไม่ได้บริหารเงินให้กับลูกค้า แต่บริษัทจะได้รายได้จากการที่ลูกค้ามีการเทรดผ่าน บล.เท่านั้น' นายพิเชษฐ กล่าว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us