|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ธปท.เผยเศรษฐกิจไทยมีสัญญาณดีขึ้น ส่งผลเงินทุนจากต่างประเทศเริ่มไหลเข้าต่อเนื่อง ระบุตั้งแต่ต้นปีมียอดไหลเข้าแล้ว 3 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนไหลออก 1.4 แสนล้านบาท แนะภาคธุรกิจปรับตัวรองรับความผันผวนเกิดขึ้น เผยหลังผ่อนเกณฑ์ลงทุนมีบริษัทขนาดใหญ่ 3 แห่งลงทุนต่างประเทศแล้ว 210 ล้านดอลล์ พร้อมเตรียมผ่อนเกณฑ์เพิ่ม หวังขจัดอุปสรรคลงทุน
นางสุชาดา กิระกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ไม่ได้ส่งสัญญาณอย่างที่ธนาคารพาณิชย์มองว่าขณะนี้ธปท.เริ่มจะอุ้มเรื่องเงินบาทไม่ไหวแล้ว ซึ่งไม่เกี่ยวกับการรับไม่ไหว แต่ธปท.อยากจะให้ประชาชนปรับตัวรองรับความผันผวนที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต เพราะไม่รู้ว่าอีก 2-3 ไตรมาสข้างหน้าจะเป็นอย่างไรต่อไป โดยหากสัญญาณเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้นอาจมีเงินทุนไหลเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้นได้
ทั้งนี้ แม้ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมามีเงินทุนไหลออกไป โดยเฉพาะตลาดหุ้น แต่เมื่อถึงไตรมาสที่ 2 และ 3 โดยมีเงินทุนไหลเข้าสุทธิอยู่ แต่ไม่มากนัก ทำให้นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันสะสมมีเงินทุนไหลเข้าสุทธิ 3 หมื่นล้านบาท เทียบกับทั้งปี 51 เป็นเงินทุนไหลออก 1.4 แสนล้านบาท
“เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นในขณะนี้ไม่ได้เกิดจากเงินทุนจากต่างประเทศไหลเข้ามา แต่เกิดจากการเกินดุลบัญชีเดินสะพัด โดยในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา ไทยเกินดุลกว่า 1 หมื่นล้านเหรียญ โดยเป็นผลจากการส่งออก แม้ส่งออกหดตัวแต่น้อยกว่าการนำเข้า ขณะที่เงินทุนไหลเข้าตลาดหุ้นแค่พันกว่าล้านเหรียญ ส่วนเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ(FDI) ยังคงไหลออก โดยเฉพาะการลงทุนในพันธบัตรเกาหลี”
เล็งแก้กฎหมายผ่อนคลายกฎเพิ่ม
ผู้ช่วยผู้ว่าการ ธปท.กล่าวว่า หลังจากที่ธปท.ได้มีการผ่อนคลายเกณฑ์การลงทุนในต่างประเทศและการทำธุรกรรมอนุพันธ์เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีบริษัทขนาดใหญ่ขอไปลงทุนต่างประเทศ 2-3 ราย เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 210 ล้านเหรียญสหรัฐ และบางบริษัทมีการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเข้ามาเรื่อยๆ รวมถึงบางบริษัทยังติดขัดเรื่องการขออนุญาตคณะกรรมการอยู่ ซึ่งอาจมีการประชุมเป็นรายไตรมาส ทำให้ต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง
“ผ่านมาแบงก์ชาติมีการเปิดช่องให้มีการลงทุนในต่างประเทศเยอะแล้ว และในต่อไปจะผ่อนคลายอย่างอื่นมากขึ้น โดยเฉพาะเกณฑ์ที่เป็นอุปสรรคที่มีภาคธุรกิจหรือบริษัทต่างๆ สอบถามเข้ามามาก ซึ่งเราจะค่อยๆ ปลดล็อกออกไปให้ ส่วนเรื่องเกณฑ์ใหม่ที่จะผ่อนคลายให้แก่นักลงทุนต่างชาตินั้นต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง เพราะต้องใช้เวลาในการแก้ไขกฎหมาย”
ไทยได้จัดสรร802ล้านSDR
นางสุชาดา กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการประชุมประเทศ G20 ได้มีการหารือร่วมกันในการเข้าไปช่วยเหลือวิกฤต โดยการเพิ่มบทบาทกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ให้มีมากขึ้นผ่านจัดสรรสิทธิพิเศษถอนเงินทั้งสิ้น 283 พันล้านSDR ให้แก่ประเทศสมาชิกของ IMF ตามสัดส่วน ซึ่งในส่วนของไทยได้รับเป็นวงเงิน 802 ล้านSDR หรือประมาณ 1,250 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้ทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ วันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น และคาดว่าในวันนี้(9ก.ย.)จะได้รับสัดส่วนเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย
ทั้งนี้ สกุลเงิน SDR ประกอบไปด้วยสกุลเงินหลัก 4 สกุล คือ เงินดอลลาร์สหรัฐ ยูโร เยนญี่ปุ่น และปอนด์สเตอร์ลิง ซึ่งการจัดสรรเงินสกุล SDR ให้แก่ประเทศสมาชิกครั้งนี้ เพื่อช่วยเหลือประเทศต่างๆ โดยเฉพาะประเทศขนาดเล็กที่ขาดมีปัญหาขาดสภาพคล่องไม่ว่าจะเกิดจากการส่งออกหด เศรษฐกิจแย่ ทำให้มีความจำเป็นต้องใช้เงินตราต่างประเทศสามารถนำ SDR นี้มาแลกกับประเทศอื่นๆ ได้ และมั่นใจว่าไม่กระทบเงินบาทให้แข็งค่าและนโยบายการบริหารอัตราแลกเปลี่ยนของไทย
|
|
|
|
|