เมื่อสู้เจียว แซ่ตั้ง วางมือจากกิจการค้าไม้ที่ขาดทุนบักโกรกแล้วปล่อยให้อิ่มช้วน
แซ่ตั้ง ลูกชายคนโตเข้าบริหารงานแทน นั่นเป็นรากฐานของการก่อร่างสร้างตัวของอาณาจักร
"มั่นคงเคหะการ" ให้เป็นที่เลื่องลือในธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง-บ้านจัดสรร-ที่ดินในกาลต่อมา
อิ่มช้วน แซ่ตั้ง ผันตัวเองมาเป็นชวน ตั้งมติธรรม ตั่วเฮียของครอบครัวที่รู้รสชาติความโชคร้ายในเรื่องการศึกษา
จึงให้การสนับสนุนน้อง ๆ ทุกคนให้ได้มีโอกาสร่ำเรียนในชั้นที่สูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ประทีป ตั้งมติธรรม น้องคนที่สองของตระกูลที่หอบหิ้วเอาปริญญาโทสถาปัตยกรรม
(เกียรตินิยม) สาขาเคหะการจากมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา เขากลับมาร่วมงานกับพี่ชายในปี
พ.ศ. 2516 อันเป็นปีเดียวกันกับการก่อตั้งโรงงานกระเบื้อง "ไดมอนด์ซีรามิค"
ประทีปได้ชื่อว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการวางแผนและการกะเก็งที่ดินอย่างชนิดหาตัวจับยาก
ผลสำเร็จของโครงการหมู่บ้านชวนชื่นหลาย ๆ โครงการ ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาเป็นกำลังสำคัญ
ประศาสน์ ตั้งมติธรรมน้องคนสุดท้องที่ห้อยท้ายปริญญาเอก สาขาการเงินจากมหาวิทยาลัยฮาวาย
สหรัฐอเมริกา โดยที่ก่อนหน้านี้เขาได้รับทุนจากรัฐบาลญี่ปุ่นให้ทำการวิจัยเกี่ยวกับสถาบันการเงินที่มหาวิทยาลัยโกเบมาแล้ว
ประศาสน์กลับมาร่วมสังฆกรรมธุรกิจของครอบครัวในปี พ.ศ. 2527 ซึ่งเป็นปีที่กิจการต่าง
ๆ ของเครือมั่นคงเคหะการพุ่งขึ้นจุดสูงสุด เขาถูกวางให้เป็น "คีย์"
ที่ควบคุมดูแลด้านการเงิน ซึ่งมีข่าวค่อนข้างจริงจังว่าด้วยความเชื่อมั่นในสติปัญญาของน้องชายคนนี้มาก
ชวนเคยวิ่งเต้นที่จะของไลเซนสถาบันการเงินแห่งหนึ่งมาทำ อีกนัยหนึ่งเพื่อให้ธุรกิจนั้นครบวงจรอีกด้วย
ในสายตาของคนทั่วไปที่เห็นความสมานรักใคร่กันเป็นอย่างดีทั้งในเรื่องส่วนตัวและการทำงานแล้วต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า
"คงอีกไม่นานปีมั่นคงเคหะการก็จะสามารถยึดหัวหาดในสายธุรกิจที่ขจับอยู่อย่างเป็นหนึ่งผู้เดียวได้แน่นอน"
วิเคราะห์กันด้วยเหตุผลในทุก ๆ ด้านก็น่าจะเป็นจริงอย่างนั้น "ตังมติธรรม"
มีในสิ่งที่หลายตระกูลไม่มี ชวน-มุมานะขยันขันแข็งละเอียดรอบคอบประสบการณ์โชกโชน
ประทีป-เฉียบคมในเรื่องการวางแผนการก่อสร้าง-การตลาด ประศาสน์-ลึกซึ้งในเรื่องการเงิน
เพียงเท่านี้ก็สามารถปิดรูรั่วได้อย่างเหมาะเจาะเสียแล้ว
แต่ก็นั่นแหละสี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง "ตั้งมติธรรม"
เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา ๆ ครอบครัวหนึ่งจะไม่มีวันพลาดกับเขาบ้างเชียวหรือ!!?
ปี พ.ศ. 2530 เป็นปีที่มั่นคง เคหะการวางแผนงานที่จะสร้างหมู่บ้านจัดสรรปิดล้อมทั่ว
กทม. พื้นที่แจ้งวัฒนะ บางเขน ก็เป็นอีกทำเลหนึ่งที่ถูกหมายตา กาลเวลาในครั้งนั้นประทีปวนเวียนวนสำรวจที่ดินในย่านดังกล่าวอย่างขมีขมัน
เขาพินิจพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบมากที่สุดแล้วก็ตัดสินใจกว้านซื้อที่ดินจำนวน
200 กว่าไร่
โครงการบ้านจัดสรรชวนชื่นที่แจ้งวัฒนะ บางเขน นั้นก็โอฬารริกไม่แพ้ชวนชื่นพาร์ควิลด์ที่สร้างชื่อเสียงให้กับมั่นคงฯ
ไม่น้อยกว่ากันมากนัก เพราะที่นี่จะมีทั้งสวนสาธารณะและทะเลสาบขนาดใหญ่ พร้อมสิ่งอำนวยความสุขครบครัน….มั่นคง
ๆ มั่นใจมากที่จะเปิดตัวโครงการนี้ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว
ทว่าโดยไม่เจตนาโชคร้ายพลันมาเยือนมั่นคงฯ เมื่อทราบภายหลังว่าที่ดินซึ่งซื้อเอาไว้นั้นล้วนเป็น
"ที่ดินตาบอด" ทั้งสิ้น ทำให้การสร้างบ้านจัดสรรเจอปัญหาหญ้าปากคอกที่ว่า
ไม่สามารถหาทางเข้าออกให้กับลูกบ้านได้
ไม่ว่าจะเจรจาขอซื้อที่ดินจากเจ้าของรายไหนต่างเซย์โนกันไปเสียทั้งหมด!!!
เรื่องของเรื่องก็เห็นไม่มีอะไรมากไปกว่า เป็นการโก่งราคาให้เศรษฐีต้องชอกช้ำใจกันเล่น
ๆ!!
แรก ๆ มั่นคงฯ เองก็ไว้ลายในความยิ่งใหญ่ของตนที่จะไม่ยอมถูกลบเหลี่ยมอย่างง่าย
ๆ แต่เมื่อนานวันเข้าเริ่มมองเห็นว่าขืนปล่อยให้โครงการนี้เนิ่นนานออกไปคงมีแต่ทางเสียสถานเดียว
ในที่สุดจึงต้องจำใจจ่ายเงินซื้อที่ดิน เพื่อเปิดตาในราคาที่ถูกคนอื่นกำหนดอย่างจำยอม
กระนั้นก็ตามยังมีเสียงพูดมากว่า ทางเข้า-ออกหมู่บ้านแห่งนี้ที่กว้าง 4-6
เมตรดูแล้วพิการยังไงก็ไม่รู้
เพราะการกะเก็งที่ผิดพลาดอย่างมหันต์ในครั้งนี้ ทำให้คนเก่งอย่างประทีปถึงกับปวดใจอยู่ลึก
ๆ และมีข่าวกระเซ็นกระสายตามมาภายหลังว่า ความสามัคคีที่เคยมีในหมู่พี่น้อง
3 คนเริ่มถึงการณ์ที่จะแปรเปลี่ยนไปเสียแล้ว
"ไม่ใช่มีเรื่องนี้เรื่องเดียว หากยังมีเรื่องการบริหารภายในเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยอีกเพราะเป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่า
ชวนค่อนข้างจะบริหารแบบเก่า ๆ ขณะที่น้องทั้ง 2 คนเป็นคนหัวสมัยใหม่ เรื่องปลีกย่อยอย่างการให้ข่าวก็เคยมีปัญหา"
แหล่งข่าวทั้งในบริษัทมั่นคงฯ และคนในวงการต่างก็ยืนยันกับ "ผู้จัดการ"
เป็นเสียงเดียวกัน
เหตุการณ์เริ่มผันเปลี่ยน…คนก็ย่อมที่จะมีสิทธิผันแปร???
ว่าไปแล้วในพี่น้องทั้ง 3 คนนี้ต่างก็มีดีที่จะเอาตัวรอดกันได้อย่างสบาย
ๆ ในเกมธุรกิจ ซึ่งบางทีบางคนอาจนึกอยากแยกตัวออกมาเป็น "ไท" พิสูจน์ความสามารถของตัวเองให้เป็นที่ประจักษ์
ดังนั้นอาจไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ถ้าวันหนึ่งจะพบข่าวว่า 1 ใน 3 พี่น้อง "ตั้งมติธรรม"
ประกาศขอแยกทางกันเดินที่เคยร่วมกันมาเสียแล้ว…
ไม้ยังต่างปล้อง พี่น้องยังต่างใจ มันก็เป็นเรื่องธรรมดา ๆ???