เศรษฐกิจจะเป็นอย่างไรก็ช่าง มีตัวอย่างการเปิดตัวสินค้าใหม่ ขยายธุรกิจของหลายแบรนด์ชั้นนำ
หนึ่งคือ 'บัตรเครดิต' ระดับสูงสุดของไทยพาณิชย์ ธนาคารได้ออกบัตรเครดิตใหม่ล่าสุด 'ไทยพาณิชย์ บียอนด์ แพลทินัม' ตอบรับความสำเร็จ ด้วยความพิเศษเหนือระดับ ภายใต้แนวคิด 'Always Upgrade'

ผู้ถือบัตรจะได้รับอภิสิทธิ์เหนือกว่าบัตรอื่น ด้วยการยกระดับสิทธิประโยชน์จากทุกการใช้จ่ายผ่านบัตร (อาทิ อัปเกรดห้องพักที่โรงแรมแมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา, อัปเกรดตั๋วเครื่องบินภายในประเทศของสายการบินไทย, อัปเกรดขนาดกาแฟสตาร์บัคส์ หรือเลือกรับบัตรออกรอบที่สนามกอล์ฟอัลไพน์ พร้อมรับคะแนนสะสมสูงถึง 4 เท่า)

และพิเศษสำหรับลูกค้า 5 ท่าน ที่มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตไทยพาณิชย์ บียอนด์ แพลทินัม สูงสุดสำหรับยอดใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2552 ถึง 31 มกราคม 2553 (ไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท) จะได้รับประสบการณ์เหนือระดับกับการเดินทางโดยเครื่องบิน AIRBUS A380 ของสายการบิน Singapore Airlines, A Class Beyond First ไป-กลับ กรุงเทพฯ-โตเกียว 1 ที่นั่งต่อ 1 ท่าน มูลค่า 196,900 บาท

'เพื่อเป็นการต่อยอดการเป็นผู้นำตลาดบัตรเครดิต ธนาคารได้พัฒนาบริการและผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มลูกค้ารายย่อย ซึ่งมีความต้องการที่แตกต่างกัน ธนาคารพบว่าลูกค้าผู้ถือบัตรแพลทินัมปัจจุบัน ต้องการสะท้อนถึงความสำเร็จ โดยให้ความสนใจกับผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นพรีเมียมซึ่งให้สิทธิประโยชน์ที่เหนือกว่า' รุ่งเรือง สุขเกิดกิจพิบูลย์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าว

สำหรับงานเปิดตัวบัตรเครดิต 'ไทยพาณิชย์ บียอนด์ แพลทินัม' ในครั้งนี้ มีผู้ที่ประสบความสำเร็จในชีวิต 100 ท่าน ให้เกียรติถ่ายทอดเรื่องราวและประสบการณ์ในงานนิทรรศการ '100 Tales of Success & Beyond' อาทิ ม.ล.คฑาทอง ทองใหญ่, นาร์ท พลวัฒน์ อนวัช องค์วาสิฏฐ์ และพอฤทัย ณรงค์เดช โดยมี กรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงาน

ทั้งนี้ ธนาคารตั้งเป้าจำนวนผู้ถือบัตรเครดิตไทยพาณิชย์ บียอนด์ แพลทินัม จำนวน 60,000 ราย ภายใน 1 ปี

สอง คือการเปิดตัวรถ อี-คลาส รุ่นใหม่ของเบนซ์ ที่ราคาเกือบ 10 ล้านบาท

'แม้ปีนี้ทั้งเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจในไทยจะประสบปัญหาวิกฤตจนทำให้ตลาดรถในไทย ช่วง 7 เดือนแรกซบเซา โดยยอดขายรถยนต์นั่งรวมขายได้เพียง 131,423 คัน ลดลงจากปีที่แล้ว 13% ขณะที่ตลาดรถหรูในช่วง 7 เดือนแรกก็ลดลง 3% แต่สำหรับยอดขายรถเบนซ์ช่วง 7 เดือนแรกกลับไปได้ดีสวนตลาด โดยมียอดขาย 2,430 คัน เพิ่มขึ้น 9% มีส่วนแบ่งในตลาดรถหรูถึง 58.2% ขณะที่ช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว มีส่วนแบ่งอยู่ที่ 52.1% โดยยอดขายส่วนใหญ่มาจากรถเบนซ์ อี-คลาส รุ่นโฉมปัจจุบัน ที่ทำยอดขายได้ถึง 1,421 คัน เพิ่มขึ้น 5.4%' อเล็กซานเดอร์ เพาฟเลอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถเบนซ์อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เปิดเผยในงานพรีวิวรถเบนซ์ อี-คลาส ใหม่ รุ่น E500

'การที่ยอดขายรถเบนซ์ในไทยเพิ่มขึ้นสวนภาวะตลาดและเศรษฐกิจโดยรวม เป็นเพราะเราเห็นว่าตลาดรถในไทยยังมีศักยภาพในการเติบโต มีช่องว่างในการทำตลาดอีกมาก ที่สำคัญเป็นเพราะเราดำเนินกลยุทธ์การตลาดและการขายในรูปแบบใหม่ๆ เพื่อกระตุ้นตลาดให้มีความคึกคัก'

ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า จากความมั่นใจในศักยภาพของประเทศไทย ทำให้บริษัทตัดสินใจเร่งเปิดตัวรถเบนซ์ อี-คลาส ใหม่ โดยขณะนี้เป็นการแนะนำหรือพรีวิวเบนซ์ อี-คลาส ใหม่ รุ่น E500 ซึ่งเป็นรถตัวท็อปของตระกูล อี-คลาส ใหม่ เป็นรถนำเข้าราคาประมาณ 10 ล้านบาท แต่สำหรับการทำตลาดอย่างจริงจังของเบนซ์รุ่นนี้จะเริ่มในปลายปีนี้ โดยช่วงแรกจะเป็นรุ่นนำเข้า ส่วนเบนซ์ อี-คลาส ใหม่ รุ่นประกอบในประเทศ จะผลิตภายในสิ้นปีนี้ พร้อมส่งมอบได้ภายในปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า ขณะนี้ยังไม่ได้ตั้งเป้าขายเบนซ์ อี-คลาส ใหม่ ในปีหน้า เพราะต้องรอดูภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยก่อน

ส่วนคอนโดตลาดบนอย่าง IDEO ก็ได้เปิดโครงการใหม่อย่างอลังการ

อนันดาฯ จัดงานเปิดจอง IDEO MORPH 38 'The Emergence of 6-D Living' นวัตกรรมที่อยู่อาศัยครบองศา มูลค่าโครงการกว่า 2,700 ล้านบาท 4-6 ก.ย.นี้ ที่ Sales Gallery เปิดขายพร้อมกันครั้งแรกทั้งตึก A และ B ด้วยโปรโมชั่นสุดพิเศษ พร้อมข้อเสนอสูงสุด และของรางวัลมากมายภายในงานนี้เท่านั้น ราคาเริ่มต้น 4.4 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขายกว่า 50% ภายในสิ้นปีนี้

บริษัท อนันดาฯ ได้จัดงานเปิดตัวโครงการ IDEO MORPH 38 อย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการจำลองแคปซูลยักษ์จำลองโมเดลห้องชุด ที่ถูกยกมาตั้งที่หน้าห้าง ดิ เอ็มโพเรียม ปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เป็นกิจกรรมที่ไม่ซ้ำแบบใคร และไม่เคยปรากฏที่ไหนมาก่อน ในครั้งนั้นถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม โดยจากการเปิดขายตึก A เพียง 3 วัน สามารถทำยอดจองสัญญาได้ถึง 60% ล่าสุดผ่าน EIA เรียบร้อยแล้ว พร้อมเดินเครื่องงานก่อสร้างวันที่ 1 กันยายน 2552 นี้

ความเคลื่อนไหวทั้งสาม สะท้อนนัยสำคัญอะไรทางธุรกิจ??


บทวิเคราะห์

การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ติดๆ กันภายในสัปดาห์นี้ ถือว่าเป็นสัญญาณบ่งชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจได้ผ่านจุดต่ำสุดไปเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าเศรษฐกิจจะฟื้นขึ้นทันทีทันใด

รัฐบาลอาจมองว่าเศรษฐกิจเป็นรูปตัว V ฝ่ายค้านมองว่าเป็นรูปตัว L แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันอาจจะเป็นรูป L ก็เป็นไปได้

ซึ่งก็หมายความว่าเศรษฐกิจจะออกหัวออกก้อยอย่างไร ไม่มีใครรู้แน่ชัด ที่พอจะฟันธงได้แล้วก็คือไม่น่าจะแย่ไปกว่านี้อีกแล้ว ดังนั้น บริษัททั้งหลายก็ต้องกันอย่างหนักหน่วงว่าถ้าเศรษฐกิจฟื้นแล้วจะกำหนดกลยุทธ์การตลาดอย่างไร

และจะรอให้เศรษฐกิจฟื้นตัวก่อนแล้วค่อยรุกอย่างเป็นระบบ เพราะหากรอให้เศรษฐกิจฟื้นตัวแล้วก็หมายความว่าทุกบริษัทก็จะลงมาเล่นเกมรุกเช่นกัน นั่นแปลว่าจะเกิดการแข่งขันอย่างรุนแรงเพื่อแย่งส่วนแบ่งตลาด

สภาพ Red Ocean ก็จะเกิดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และผู้ชนะก็คือผู้ที่กระเป๋าหนักที่สุดนั่นเอง

แต่การที่ 3 แบรนด์ดังเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในเวลาไล่เลี่ยกันนั้น ถือว่าเป็นเรื่องไม่ธรรมดา เพราะนั่นหมายความว่าบริษัทชั้นนำเหล่านี้ได้เห็นสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจแล้ว ใช่หรือไม่ แม้สัญญาณการฟื้นตัวจะยังไม่ชัดเจน แต่ตัวอย่างจากทั้งสามแบรนด์ซึ่งล้วนแต่เป็นผู้นำก็ได้บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะไปได้

เป็นที่น่าสังเกตว่าทั้งสามแบรนด์นั้นล้วนผลิตสินค้าที่จับตลาดบนทั้งสิ้น

SCB Beyond Platinum คือบัตรเครดิตระดับบนสุดตัวใหม่ของธนาคารไทยพาณิชย์ซึ่งเป็นเจ้าตลาดบัตรแพลทินัม เพราะเป็นเจ้าแรกที่ลดเงินเดือนของสมาชิกบัตรให้เหลือเพียง 50,000 บาทเท่านั้น ซึ่งเป็นฐานที่ใหญ่มากกว่าเงินเดือนระดับแสนบาทขึ้นไปเหมือนแบรนด์อื่นๆ จากนั้นไทยพาณิชย์ให้คะแนนเพิ่มเป็นสองเท่า แลกซื้อของได้มากยิ่งขึ้น

ผลก็คือ SCB Platinum การ์ด กลายเป็นผู้นำในตลาดบัตรแพลทินัมจนกระทั่งแบรนด์อื่นๆ หันมาเลียนแบบกันเป็นแถว สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือบัตรแพลทินัมกลายเป็น Commodity ชาวบ้านร้านตลาดต่างถือบัตรแพลทินัมกันเกลื่อนเมือง

Beyond Platinum จึงถูกออกมาเพื่อจับตลาดกลุ่มบนที่ไทยพาณิชย์ไม่ได้สนใจในช่วงก่อนหน้านั้น โดยผู้สมัครต้องมีเงินเดือน 100,000 บาทขึ้นไป ซึ่งก็คือกลุ่ม A+ นั่นเอง

กลุ่มนี้ไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจมากนัก

เพียงแต่การเข้าถึงกลุ่มนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะอาจจะถือบัตรของเจ้าอื่นอยู่แล้ว

ความท้าทายของ Beyond Platinum ก็คือทำอย่างไรให้กลุ่มเป้าหมายมาสมัครบัตรใบนี้ให้ตรงตามเป้า

เช่นเดียวกับเบนซ์ที่ส่ง E500 มาเพื่อหวังจะเก็บตลาดคนรวยที่ไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้สักเท่าไหร่

สังเกตได้จากการขาย E-Class ของเบนซ์ที่ขายไปได้มากมายหลายร้อยคัน ซึ่งเป็นเพราะการลดราคากระหน่ำถึงคันละ 700,000 บาท จาก 3,700,000 เหลือเพียง 3 ล้านบาทเท่านั้น

เศรษฐีไทยควักกระเป๋าแค่นี้ ไม่สะเทือน

E500 ก็ออกมาเพื่อฉกเงินในกระเป๋ากลุ่มผู้มั่งคั่งของประเทศไทยอีกรอบ และเบนซ์เชื่อว่าราคา 10 ล้านนั้น ไม่ได้แพงเกินไป เพราะตลาดคือเศรษฐีและซีอีโอ

เช่นเดียวกับ IDEO ซึ่งเปิดคอนโดมิเนียมสวนกระแส เปิด IDEO Morph 2 ราคา เริ่มต้น 4.4 ล้านบาท ก็เป็นอีกหนึ่งยักษ์ใหญ่ที่คิดว่าเศรษฐกิจยังไปได้อยู่

คอนโดที่ย่านทองหล่อ ห่างจากรถไฟฟ้าไปเพียง 300 เมตรเท่านั้น เศรษฐีย่อมแห่กันมาซื้อเพื่ออยู่เองหรือปล่อยให้เช่าก็ได้ราคา

ซึ่งก็หมายความว่าหากจับตลาดบนแล้วไซร้ ต่อให้เศรษฐกิจยังไม่ฟื้น

ก็ต้องเปิดเกมรุก