|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
*การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในประเทศไทยกำลังจะเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
* ลืมไปได้เลยกับฟิกซ์ไลน์ ฮอตสปอตแบบเดิมๆ ที่ทำให้คุณต้องติดอยู่กับที่
* เกิดการรวมตัวระหว่างโลกโมบายและอินเทอร์เน็ตอย่างสมบูรณ์แบบ
* '3G' กลายเป็นกุญแจสำคัญที่ปลดพันธนาการ 'ติดปีก' โน้ตบุ๊กท่องเน็ตไร้ขีดจำกัด
แม้ว่าตัวเลขผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันมีผู้ใช้งานอยู่ประมาณ 16 ล้านคน แต่ก็ถือว่าล้าหลังกว่าประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคนี้ค่อนข้างมาก
ยิ่งตัวเลขคนใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงหรือบรอดแบนด์ที่มีอยู่เพียง 2% ของจำนวนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในประเทศ ถือเป็นตัวเลขที่น่าตกใจอย่างมาก
ทำไมคนไทยจึงเข้าถึงการใช้งานอินเทอร์เน็ตได้น้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากการพัฒนาโครงข่ายที่ไม่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้งานได้อย่างทั่วถึงในทุกจุดทั่วประเทศ
'ปัจจุบันกว่า 75% ของครัวเรือนในประเทศไทยยังไม่สามารถเข้าถึงระบบโทรศัพท์พื้นฐาน หรือฟิกซ์ไลน์' ทอเร่ จอห์นเซ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าว
และเทคโนโลยีใดจะเข้ามาช่วยให้คนไทยสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะอย่างยิ่งอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเหมือนอย่างเช่นประเทศอื่นๆ
คำตอบที่ได้จากผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่อย่างดีแทค คือเทคโนโลยี 3จี จะเข้ามาช่วยให้ข้อจำกัดต่างๆ ที่ทำให้คนไทยไม่สามารถเข้าถึงการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง สามารถที่จะเข้าถึงได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น
ยิ่งทุกวันนี้ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่นิยมใช้งานคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีการซื้อใหม่ปีละหลายแสนเครื่องต่อปี กลุ่มคนใช้โน้ตบุ๊กเหล่านี้ต้องการที่จะเข้าถึงการใช้งานอินเทอร์เน็ตแบบทุกที่ทุกเวลา จากที่ปัจจุบันต้องใช้งานผ่านฟิกซ์ไลน์ ฮอตสปอต ซึ่งไม่สะดวกต่อการใช้งานมากนัก ขาดความเป็นโมบิลิตี้อย่างแท้จริง
3จี จึงน่าที่จะเป็นคำตอบสำหรับกลุ่มผู้ใช้โน้ตบุ๊กในประเทศไทยได้ เช่นเดียวกับดีแทคที่มองกลุ่มผู้ใช้โน้ตบุ๊กเป็นคนกลุ่มแรกที่ดีแทคจะโฟกัสให้มาทดลองใช้งานเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่าย 3จีของดีแทค
'ดีแทคถือเป็นผู้ให้บริการรายแรกที่ทดสอบการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไร้สายบนระบบ 3จี ผ่านคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก' เป็นคำกล่าวของ โรอาร์ วิค แอนเดรสเซ่น รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค และว่า
ดีแทคมีความเชื่อว่ามูลค่าเพิ่มที่มาพร้อมกับ 3จี คือความสามารถในการให้ทางเลือกที่ดีกว่าแก่ผู้บริโภคในการต่อเชื่อมเข้าสู่อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง โดยไม่ถูกจำกัดด้วยพื้นที่การใช้งานบนระบบโทรศัพท์แบบมีสาย หรือระบบไว-ไฟ อีกต่อไป
ดีแทคจึงได้เปิดทดลองให้บริการ 'โมบาย อินเทอร์เน็ตบน 3จี' เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถออนไลน์ผ่านจอคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กด้วยระบบเครือข่ายไร้สายความเร็วสูง ซึ่งในช่วงแรกของโครงการนี้ พื้นที่ที่เปิดให้บริการจะครอบคลุมบริเวณจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สามย่าน สยามสแควร์ มาบุญครอง พันธุ์ทิพย์ พลาซ่า และจามจุรีสแควร์ หลังจากนั้น ดีแทคจะดำเนินการขยายพื้นที่ทดสอบการให้บริการให้ครอบคลุมพื้นที่อื่นๆ ในกรุงเทพฯ
โครงการโมบายอินเทอร์เน็ตบน 3จี ถือเป็นการทดสอบให้บริการเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูงบนโครงข่าย 3จี ให้กับผู้เข้าร่วมโครงการ 2,000 คน โดยผู้เข้าร่วมจะได้รับ 'ดีแทค แอร์การ์ด' ฟรี พร้อมแอร์ไทม์เพื่อใช้ในการต่อเชื่อมคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กในการออนไลน์บนอินเทอร์เน็ตโดยไม่คิดมูลค่าตลอดระยะเวลาการทดลอง 4 เดือน เพียงผู้เข้าร่วมโครงการเสียบดีแทคแอร์การ์ดเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ตัวแอร์การ์ดจะทำการติดตั้งซอฟต์แวร์ที่จำเป็นโดยอัตโนมัติ ผู้ใช้งานก็สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านโครงข่าย 3G ของดีแทคได้ทันที
ดีแทคโฟกัสกลุ่มเป้าหมายที่เป็นทั้งนักศึกษา คนทำงาน เจ้าของธุรกิจ และอื่นๆ ที่อยู่ในพื้นที่ตั้งแต่สามย่านจนถึงประตูน้ำ เห็นได้ชัดว่าพื้นนี้ดังกล่าวเป็นแหล่งที่เปรียบเสมือนกับศูนย์กลางของโลกโมบายและไอทีของประเทศไทย กระแสที่จะได้รับจากการใช้งานที่เกิดขึ้นในพื้นที่นี้ ย่อมเป็นสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายที่ได้รับดีแทคแอร์การ์ดไปทดลองใช้สามารถบอกต่อไปถึงกลุ่มคนรู้จักให้เข้ามาทดลองใช้ในอนาคตได้เป็นอย่างดี
ดีแทค ยังมีการเตรียมบริการตอบข้อสงสัยหรือปัญหาในการใช้บริการให้กับผู้ทดลองใช้บริการผ่านช่องทางต่างๆ รวมถึงทีมงานพิเศษของคอลเซ็นเตอร์ที่เรียกว่า 'ไฮเทค-ทีม' (Hi-tech Team) ซึ่งเป็นกลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการอบรมให้มีความรู้ในด้านอุปกรณ์ต่างๆ รวมทั้งเทคโนโลยีในเชิงลึก เพื่อให้สามารถตอบคำถาม และให้ความช่วยเหลือในการตั้งค่าอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างถูกต้องรวดเร็วตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านคอลเซ็นเตอร์ 1678 กด 34
นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาเว็บพอร์ทัลที่เรียกว่า 'startpage' (www.startpage.in.th) ที่จะทำหน้าที่เป็นด่านหน้าในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับบริการโมบายอินเทอร์เน็ตบน 3จี รวมทั้งเป็นศูนย์กลางในการรวบรวมบริการและคอนเทนต์โลกยุคใหม่ไว้อย่างครบครัน โดยจะปรากฏขึ้นบนหน้าจอครั้งแรกทุกครั้งที่มีการเชื่อมต่อการใช้งานผ่านดีแทคแอร์การ์ด และยังสามารถสอบถามข้อมูลผ่านอีเมล 3g@dtac.co.th หรือสามารถไปทดลองใช้บริการที่บูทของดีแทคได้ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และที่พันธุ์ทิพย์ พลาซ่า
ทอเร่ จอห์นเซ่น กล่าวว่า เป้าหมายหลักของการเปิดทดลองให้บริการโมบายอินเทอร์เน็ตบน 3จี ไม่ได้อยู่ที่การทดสอบประสิทธิภาพของเทคโนโลยี เพราะ 3จี เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการพิสูจน์และยอมรับในหลายประเทศทั่วโลก จุดหมายของโครงการเพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการทำงานทุกส่วนภายในองค์กรมีความพร้อมที่จะรองรับการให้บริการในเชิงพาณิชย์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เมื่อได้รับใบอนุญาตให้บริการ 3จี ที่กำลังจะมีการประมูลภายในปลายปีนี้
'ดีแทคจะสำรวจและเก็บข้อมูลทุกอย่างในการใช้งาน ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบโครงการ โดยข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้ดีแทคในฐานะผู้ให้บริการโมบายอินเทอร์เน็ตบน 3จี สามารถออกแบบสินค้าและบริการที่สามารถตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของผู้ใช้บริการเมื่อดีแทคเปิดให้บริการในเชิงพาณิชย์ในอนาคต'
ดีแทคโมบายอินเทอร์เน็ตบน 3จี คือ การร่วมมือระหว่างดีแทค และ กสท ในการทดลองให้บริการอินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูง โดยใช้เทคโนโลยี HSPA บนคลื่นความถี่ 850 เมกะเฮิรตซ์ ด้วยงบลงทุนกว่า 100 ล้านบาท โดยหัวเหว่ยเป็นบริษัทที่ดำเนินการพัฒนาโครงข่าย 3จี นี้ให้กับดีแทคในครั้งนี้ ทั้งนี้ การทดสอบจะเริ่มต้นในเดือนกันยายนจนสิ้นสุดโครงการในเดือนธันวาคมนี้
ก่อนหน้านี้ ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่อย่าง 'เอไอเอส' และ 'ทรูมูฟ' ต่างลงแรงทดสอบระบบเครือข่าย 3จี มาได้ระยะหนึ่งแล้ว ส่วนใหญ่จะเน้นการให้บริการผ่านเครื่องลูกข่ายมือถือเป็นหลัก ซึ่งจากการนำแอร์การ์ด 3จีของดีแทคไปทำการทดลองใช้งานบริเวณเซ็นทรัลเวิลด์พบว่า ความเร็วในการใช้อินเทอร์เน็ตถือว่ามีความเร็วที่สูงกว่า 'วูปเปอร์ 3จี' ที่ทางเอไอเอสเปิดให้ทดลองใช้งานอยู่ ณ บริเวณเซ็นทรัลเวิลด์เช่นกัน
ความเร็วสูงสุดที่ทางดีแทคพร้อมให้บริการโมบายบรอดแบนด์ภายใต้ชื่อโครงการ 'Revolution' อยู่ที่ 7.6 เมก แต่เมื่อใช้งานจริง ความเร็วโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 2 เมกะไบต์ ซึ่งถือว่าเป็นความเร็วที่ไม่น้อยหน้าการใช้งานผ่านบรอดแบนด์แบบมีสาย
ส่วนจำนวนข้อมูลในการใช้งาน ทางดีแทคได้จำกัดจำนวนข้อมูลในการใช้งานแต่ละเดือนอยู่ที่ 5 กิกะไบต์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ของดีแทคอธิบายว่า เป็นจำนวนที่สูงมากในการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนเครือข่าย 3จี ขนาดในประเทศที่เปิดให้บริการ 3จีแล้วอย่างประเทศมาเลเซีย แพกเกจที่ทางผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เสนอต่อผู้บริโภคสูงสุดอยู่ที่ 3 กิกะไบต์เท่านั้น
'5 กิกะไบต์ ถือว่าเหลือเฟือในการใช้งานแต่ละเดือน'
ถึงแม้การเปิดตัวในครั้งนี้ของดีแทคดูจะล่าช้ากว่าคู่แข่งรายอื่นในตลาด แต่ถ้าดูจากการเตรียมความพร้อมในทุกด้าน ถือว่า ดีแทค ตระเตรียมมาดีกว่าใคร
|
|
|
|
|