Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์7 กันยายน 2552
อสังหาฯ ส่งสัญญาณฟื้นตัว จับตาบ้านระดับล่างแข่งเดือด             
 


   
search resources

Real Estate




อสังหาฯ ครึ่งปีแรกเริ่มฟื้นต่อเนื่อง คาดบ้านตลาดล่างกลับมาคึกช่วงปลายปี รับกระแสปรับเกณฑ์บ้านบีโอไอ ประเมินตลาดทั้งปีทรงตัวเท่าปีที่แล้ว

ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยตัวเลขตลาดที่อยู่อาศัยว่า ในช่วงไตรมาส 2 มียอดการขอใบอนุญาตจัดสรรที่ดินทั่วประเทศรวม 55 โครงการ จำนวน 7,829 ยูนิต ลดลง 56% จากไตรมาสแรกที่มีการขอใบอนุญาตจัดสรรที่ดินรวม 17,749 ยูนิต แต่เมื่อเทียบภาพรวมครึ่งปีแรกปีนี้กับปีที่แล้ว พบว่าจำนวนโครงการลดลง 9% ส่วนจำนวนยูนิตสูงขึ้น 6% โดยในไตรมาส 2 กทม.-ปริมณฑลมีการขออนุญาตจัดสรรที่ดินเพิ่มขึ้นจาก 85 โครงการในไตรมาส 1 เป็น 90 โครงการในไตรมาส 2

เฉพาะในเขต กทม.-ปริมณฑล ไตรมาส 2 มียอดที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนจำนวน 18,906 ยูนิต เพิ่มขึ้น 8% จากไตรมาสแรก และเพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 14,186 ยูนิต บ้านแฝด 525 ยูนิต ทาวน์เฮาส์และอาคารพาณิชย์ 5,308 ยูนิต คอนโดมิเนียม 16,327 ยูนิต ส่วนภาพรวมยอดที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนครึ่งปีแรกพบว่า เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 11% โดยเป็นแนวราบประมาณ 20,000 ยูนิต แบ่งเป็น บ้านเดี่ยว 39% ทาวน์เฮาส์และอาคารพาณิชย์ 15% บ้านแฝด 1% ที่เหลือ 45% เป็นคอนโดมิเนียม โดยในส่วนของคอนโดมิเนียมครึ่งปีแรกปีนี้จำนวน 16,327 ยูนิต ถือว่าเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มีเพียง 9,000 ยูนิต ซึ่งสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ คาดว่า ในช่วงครึ่งปีหลังจะมีคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จจดทะเบียนเพิ่มอีกประมาณ 23,000 ยูนิต และจะทำให้ตัวเลขทั้งปีทรงตัวเท่ากับปี 2551

สัมมาชี้แจงตัวเลขบ้านสร้างเสร็จจดทะเบียนย้อนหลังว่า ในปี 2550 มีจำนวน 75,000 ยูนิต ปี 2551 จำนวน 82,000 ยูนิต ส่วนหนึ่งมาจากบ้านเอื้ออาทรที่สร้างเสร็จจำนวนมาก แต่ในปีนี้จะมีเข้ามาไม่มากนัก จึงคาดว่าตัวเลขในปีนี้ไม่น่าจะสูงกว่าปีที่แล้ว

ส่วนสินเชื่อที่อยู่อาศัยบุคคลทั่วไปปล่อยใหม่ครึ่งปีแรกมีจำนวน 134,683 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 3% มาจากการเติบโตของที่อยู่อาศัยในระดับกลาง-ล่าง ส่วนสินเชื่อผู้ประกอบการที่อยู่อาศัยปล่อยใหม่ พบว่าลดลง 37% เหลือ 22,842 ล้านบาท เนื่องจากสถาบันการเงินเข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่อมากขึ้น ผู้ประกอบการจึงหันไประดมทุนผ่านการออกหุ้นกู้แทน ซึ่งนิยมทำกันมากขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา และมีต้นทุนทางการเงินที่ต่ำกว่า แต่ก็ทำได้เฉพาะบริษัทใหญ่เท่านั้น โดยครึ่งปีแรกมีการออกหุ้นกู้รวม 35,110 ล้านบาท

สัมมาคาดว่า ภาพรวมตลาดในครึ่งปีหลังจะดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากผู้ประกอบการมีความมั่นใจที่จะลงทุนมากขึ้น หลังจากที่ชะลอในช่วงไตรมาสแรก และจากการปรับเงื่อนไขบ้านบีโอไอเชื่อว่าจะดึงดูดให้ผู้ประกอบการเข้ามารุกตลาดล่างมากขึ้น ทำให้ตลาดที่อยู่อาศัยระดับล่างราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทคึกคักขึ้นในช่วงปลายปี

ในขณะที่ข้อมูลจากรายงานการวิจัยคอนโดมิเนียมโฟกัส โดยบริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ เริ่มกระเตื้องขึ้น โดยในครึ่งปีแรกยูนิตที่ยังอยู่ระหว่างก่อสร้างมียอดขายแล้ว 73% ส่วนราคาขายยังมีอัตราการเติบโตเพิ่ม 4% หรืออยู่ที่เฉลี่ย 125,910 บาทต่อ ตร.ม. ซึ่งอยู่ในระดับคงที่ ส่วนตลาดพัทยาพบว่า ดีมานด์ยังหดตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มต่างชาติ ทำให้ราคาขายเฉลี่ยต่อ ตร.ม. ลดลงเหลือ 93,744 บาทต่อ ตร.ม. ซึ่งตกลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2546

ด้านตลาดคอนโดมิเนียมระดับบน ยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ ประธานเจ้าหน้าที่ บริษัท อควาเรียส เอสเตท จำกัด กล่าวว่า แม้ภาวะเศรษฐกิจจะยังไม่แน่นอน แต่ลูกค้ากลุ่ม A และ B+ จะได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ส่วนยอดขายเฉลี่ยที่ลดลง เนื่องจากมีบางโครงการพัฒนาผิดแนวทางหรือตั้งราคาสูงเกินไป แต่หากวิเคราะห์เฉพาะทำเลสุขุมวิท ตั้งแต่พร้อมพงษ์ถึงทองหล่อ พบว่ามียอดขายแล้ว 73% แต่เมื่อรวมทุกโครงการที่เปิดขายในตลาด ณ ปัจจุบันพบว่า มีซัปพลายเหลือขายรวม 25,500 ยูนิต โดยอยู่ในโซนรัชดา-พระราม 9 คิดเป็น 15% สุขุมวิท (ชิดลม-เอกมัย) 14% คอนโดมิเนียมเกรด C 46% ซึ่งมียอดขายแล้วเฉลี่ย 64% โดยลาดพร้าว สุขุมวิทตอนกลาง (พระโขนง-อ่อนนุช) มียอดขายสูงสุด

ทั้งนี้ยงยุทธเห็นสัญญาณตลาดฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 2 โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมเกรด B ตามแนวรถไฟฟ้า มียอดขายต่อเดือนเพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรก 15-20% ส่วนคอนโดมิเนียมระดับ C มียอดขายลดลง เพราะกำลังซื้อในตลาดนี้หดตัว คาดว่า ทั้งปีจะมีซัปพลายคอนโดมิเนียมใหม่เข้าสู่ตลาดประมาณ 20,000 ยูนิต จาก 65 โครงการ ลดลงจากปีที่แล้ว 7% ซึ่งครึ่งปีแรกเปิดตัวไปแล้ว 38 โครงการ รวม 12,800 ยูนิต โดยจะมีโครงการอยู่ในโซนสุขุมวิท (ชิดลม-เอกมัย) เกาะแนวรถไฟฟ้า เปิดตัวใหม่ในไตรมาส 3 อย่างน้อย 3-4 โครงการ เนื่องจากเป็นทำเลที่ยังมีกำลังซื้อ และมีศักยภาพในตลาดบ้านมือสองหรือรีเซล   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us