|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
มีคนพูดกันว่า เมื่อคุณเข้าไปโลดแล่นอยู่ในโลกมายาของฮอลลีวูดได้แล้ว ประกาศนียบัตรที่จะรับรองตัวคุณว่าติดอันดับหรูเลิศแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับว่า คุณได้รับเชิญให้ไปร่วมงานปาร์ตี้ของ Brent Bolthouse หรือเปล่า?
Brent Bolthouse ทรงอิทธิพลขนาดนั้นเชียวหรือ
ฉายา "ราชาแห่งชีวิตคนกลางคืนของแอลเอ" น่าจะเป็นคำตอบแจ่มชัดที่สุด
นักวางแผนงานปาร์ตี้มือทองผู้นี้มีดารานักแสดงเกรดเอชื่อกระฉ่อนโลกเป็นลูกค้ามากมาย อาทิ Drew Barrymore, Cameron Diaz และ Lindsay Lohan
แต่ยุคทองของเขาย่อมหมายถึงการทุ่มเททำงานตลอดทั้งคืนอยู่ตลอดเวลาด้วย Brent จึงเป็นคนที่ต้องการเวลาพักผ่อนขณะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีที่สุดและผ่อนคลายที่สุดในเวลาเดียว กัน นี่เป็นคำอธิบายที่ดีว่าทำไมเขาถึงเน้นเสมอว่า "บ้าน" เป็นสถานที่ที่เขาตามใจตัวเองได้มากที่สุดเท่าที่ต้องการเลยทีเดียว
บ้านในจินตนาการของ Brent ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของ Hollywood Hills เมื่อมองลงมาจะเห็นทัศนียภาพของแอลเอเต็มๆ ตาแบบสุดลูกหูลูกตาโดยมีเทือกเขา San Gabriel Mountains เป็นฉากหลังและมองเห็นไกลลิบๆ ออกไป บ้านหลังนี้ออกแบบโดยสถาปนิกอเมริกัน John Lautner ผู้ซึ่งแม้จะลาโลกไปแล้วตั้งแต่ปี 1994 แต่ก็ได้รับการยกย่องว่าเป็น "ตำนาน" ของวงการสถาปัตยกรรมคนหนึ่ง เพราะเป็นเจ้าของผลงานสไตล์โมเดิร์น โดยเฉพาะการออกแบบบ้านรูปทรงแปลกใหม่กับการใช้ผนังกระจกผืนใหญ่รอบบ้านที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์และฮือฮากันทั้งวงการเห็นจะเป็นบ้าน 8 เหลี่ยมซึ่งเป็นรูปทรงบ้านในดวงใจหลังนี้ของ Brent ด้วย เขาพูดถึงด้วยความภูมิใจว่า "ถ้าเปรียบเทียบกับมาตรฐานของแอลเอแล้ว บ้านหลังนี้ไม่ใหญ่โตอะไรเลย แต่ผลงานการออกแบบของ Lautner เป็นหลักประกันได้แน่นอนว่า คุณจะไม่มีวันรู้สึกว่าถูกขังอยู่ในบ้านแคบๆ ทึบๆ จนกลายเป็นโรคกลัวที่ปิดทึบอย่างเด็ดขาด"
ปกติแล้วงานออกแบบของ Lautner จะได้รับเสียงชื่นชมจากวงการพร้อมคำวิพากษ์วิจารณ์เสมอ แต่บ้านหลังนี้กลับผิดแผก ออกไปจะเรียกว่าเป็นแกะดำเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นงานที่ค้างเติ่งไม่สามารถสร้างให้แล้วเสร็จได้ โดยโครงการได้ยุติลงกลางคันและไม่มีวันลุล่วงตามแบบแปลนที่ Lautner ออกแบบไว้ได้เลย
ไม่มีใครล่วงรู้ได้ว่าสถาปนิกมือทองผู้นี้ขัดแย้งอะไรกับ Ben Polin เจ้าของบ้านในเวลานั้น มีแต่การคาดเดาว่าอาจเป็นเพราะ Lautner เดือดดาลที่รู้ว่า Polin มีแผนจะทาผนังไม้เรดวูด ซึ่งมีเนื้อไม้สีแดงสวยงามตามธรรมชาติอยู่แล้วให้เป็นสีขาว แถมยังจะปิดตายหน้าต่างด้านที่หันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และปูกระเบื้องทับพื้นเดิมซึ่งเป็นคอนกรีต จากนั้นก็จะทำให้พื้นดูรุงรังขึ้นด้วยการปูพรมทับลงไป ที่ Brent คิดว่าเรื่องพวกนี้น่าจะเป็นสาเหตุแห่งความขัดแย้งระหว่างสถาปนิกและเจ้าของบ้านคนเดิมเพราะเมื่อตอนที่เขาก้าวเข้ามาในบ้านหลังนี้ตอนปลายปี 2004 ทุกสิ่งทุกอย่างภายในบ้านได้รับการออกแบบตกแต่งอย่างที่ ได้กล่าวไปในข้างต้นทั้งหมด ซึ่ง Brent ให้ความเห็นสั้นๆ อย่าง ยากจะรับได้ว่า "มันดูยุ่งเหยิงไปหมด ผมรู้สึกว่าน่าละอายมากถ้าจะต้องมีบ้านสไตล์นี้"
เมื่อตกลงซื้อบ้านหลังนี้ไว้แล้ว Brent ติดต่อไปยังมูลนิธิ John Lautner Foundation เพื่อขอพิมพ์เขียว รูปถ่าย และรายละเอียดที่จำเป็นสำหรับการก่อสร้างบ้านหลังนี้ให้กลับไปอยู่ใน สภาพคล้ายคลึงกับที่ Lautner ออกแบบไว้แต่เดิมให้มากที่สุด จากนั้น Brent โละของตกแต่งภายในบ้านที่เพิ่มเติมเข้ามาเพราะ ความเข้าใจผิดออกไปทั้งหมด ลงมือศึกษาอย่างจริงจังเกี่ยวกับของในบ้านที่ติดตั้งอยู่กับที่ ลูกบิดประตูต่างๆ รายละเอียดอื่นๆ เพื่อ นำมาใช้ให้ถูกต้องตามความตั้งใจเดิมของผู้ออกแบบ รวมทั้งค้นพบวัสดุธรรมชาติที่ถือว่าเป็นเครื่องหมายการค้าของ Lautner ด้วย
จะว่าไปแล้วบ้านขนาดห้องนอนเดียวหลังนี้ถือเป็นความกล้าหาญอย่างยิ่งใหญ่สำหรับงานออกแบบเลยทีเดียว Lautner ยังอาจหาญทดลองใช้กระบวนการเชิงอุตสาหกรรมและวัสดุใหม่ๆ กับงานสร้างบ้านที่เจ้าตัวมุ่งแสวงหาหนทางปรับปรุงความเป็นอยู่ ที่ดีขึ้นมาโดยตลอด สถาปนิกผู้ล่วงลับยึดหลักปรัชญาสูงสุดคืนสู่สามัญโดยออกแบบให้ตรงกับความต้องการของมนุษย์อย่างครอบคลุมทั้งในด้านอารมณ์ จิตใจ และกายภาพ
นอกเหนือจากการทำให้ผู้พบเห็นเกิดความประหลาดใจใน สิ่งที่เห็นแล้ว Lautner ยังสร้างพื้นที่ว่างอย่างชาญฉลาด รวมทั้งบูรณาการภูมิทัศน์โดยรอบให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับงานออกแบบ โดยรวมได้อย่างน่าทึ่ง โดย Brent ชื่นชมว่า "มันน่าทึ่งมากเมื่อมอง ลงไปในรายละเอียดของผลงานของสถาปนิกผู้เข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงวิธีทำให้ตัวบ้านไร้ชีวิตจิตใจกลายเป็นบ้านที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น การได้จรดฝีเท้าเข้าไปในบ้านหลังนี้ทำให้ คนที่แสนจะยุ่งอย่างผมต้องหยุดเดินและเพลิดเพลินกับธรรมชาติที่อยู่รอบตัวด้วย ความสุขใจ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นนั้นเหมือนกับว่าบ้านหลังนี้อนุญาต ให้ผมได้มีโอกาสพักและผ่อนคลายกับเขาบ้าง มันเป็นบ้านที่โอบกอดใกล้ชิดกับธรรมชาติอย่างแท้จริงและตัวผมเองก็โชคดีที่ได้อยู่ท่ามกลางอ้อมกอดอันแนบแน่นนั้นด้วย"
ราชาแห่งชีวิตคนกลางคืนของแอลเอยังพรรณนาต่อไปว่า
"ผมถูกห้อมล้อมด้วยป่าและสัตว์ป่าซึ่งงดงามอย่างไม่น่า เชื่อว่าจะเป็นไปได้สำหรับฮอลลีวูด เมื่อตอนที่ย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ๆ ผมต้องสะดุ้งตื่นขึ้นเพราะเสียงดีดตัวขึ้นของเจ้ากวางตัวน้อยที่ซุกซนอยู่ตรงด้านนอกของหน้าต่างห้องนอนด้วยซ้ำ!"
ที่เป็นอย่างนี้เพราะร่มเงาของต้นเมเปิลและเชอร์รี่ได้กลาย เป็นทางเดินอันวิเศษสุดสำหรับสัตว์ป่าที่จะเที่ยวเล่นมาเรื่อยๆ จนถึงชายป่าซึ่งเป็นเขตบ้านของ Brent นั่นเอง
สำหรับบรรยากาศภายในตัวบ้าน พูดได้เลยว่า Brent ได้ครอบครองงานออกแบบของสถาปนิกฝีมือบรมครู ซึ่งล้วนแล้ว แต่เป็นจริงในทางปฏิบัติทั้งสิ้น วัสดุหลักที่นำมาผสมผสานและใช้ในการก่อสร้างคือ ไม้ คอนกรีต และกระจกนั้นช่วยได้มากในแง่ที่ไม่ทำให้พื้นที่ว่างแลดูเย็นเฉียบจนเกินไป ถือว่าเป็นวัสดุในอุดมคติสำหรับงานออกแบบเลยทีเดียว แต่ถ้าพิจารณา ในแง่ของการเป็นฉากหลังสำหรับอยู่อาศัยก็จำเป็นต้อง ทำให้แลดูอุ่นขึ้นกว่านี้ วิธีแก้ไขก็คือ การใช้ไม้สนสีแดงเป็นผนังบ้านและใช้คอนกรีตทำพื้นซึ่งถือว่าสมบูรณ์แบบมาก ในแง่ของการมีสีเป็นกลางและเหมาะกับเฟอร์นิเจอร์ เดนมาร์กสไตล์โมเดิร์นเอามากๆ
ในฐานะที่เป็นราชาคลับในแอลเอ Brent ย่อมไม่อยากให้บ้านของเขาเต็มไปด้วยแขกจากฮอลลีวูดที่เฮโลมาร่วมงานปาร์ตี้เป็นแน่ หากแต่ชอบงานสังสรรค์ขนาดเล็กกับคนไม่กี่คนมากกว่า เขาให้ข้อคิดว่า
"การได้สร้างบ้านของตัวเองและมีโอกาสแสดงออกถึงสิ่งที่คุณโปรดปราน รวมทั้งได้แบ่งปันความลับเล็กๆ น้อยๆ กับเพื่อนไม่กี่คนว่า แท้จริงแล้วคุณเป็นคนยังไงน่ะ ถือว่าเป็นความสุขอย่างที่สุดเชียวล่ะ"
|
|
|
|
|