|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ก่อนอื่นเราจำเป็นต้องยอมรับอย่างหน้าชื่นตาบานเสียก่อนว่า มนุษย์กับลิงนั้นมีบรรพบุรุษร่วมกัน หรือพูดง่ายๆ ว่า มนุษย์นั้นมีวิวัฒนาการมาจากลิง มนุษย์มีวิวัฒนาการแยกออกจากลิงเมื่อใด และก้าวล้ำลิงไปแค่ไหน ได้พยายามศึกษากันมานานแล้ว แต่ยังมีช่องว่างที่ไม่สามารถอธิบายได้อยู่หลายช่วงตอน ตามหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ค้นพบจากหินฟอสซิล จากชั้นหินชั้นดินทางธรณีวิทยา จากร่องรอยและชิ้นส่วนต่างๆ ในถ้ำ อาจสรุปได้ว่า มนุษย์เริ่มแยกจากลิงมาเมื่อ 2-3 ล้านปีก่อน เกิดวิวัฒนาการจากลิงเล็กมาเป็นลิงใหญ่ จากลิงใหญ่กลายมาเป็นมนุษย์ลิงและมนุษย์ปัจจุบัน ทุกวันนี้ทั้งมนุษย์และลิง ก็จะยังคงมีวิวัฒนาการต่อไปอีกเรื่อยๆ
เราน่าจะคอยระวังไว้ด้วยว่า จากนี้ไปลิงอาจจะมีวิวัฒนาการที่สูงขึ้น ในขณะที่มนุษย์อาจมีวิวัฒนาการที่เสื่อมลงก็เป็นได้
มนุษย์แตกต่างจากลิงอย่างไร
ทั้งลิงและมนุษย์ จัดอยู่ในกลุ่มใหญ่ เดียวกัน เรียกว่า primates ซึ่งมีการแบ่งชนชั้นกันดังนี้
ลิง (monkeys หรือ non-human primates) ได้แก่ ลิงทั่วไปที่เราเห็นอยู่ทั่วไปทุกวันนี้ รวมทั้งลิงโบราณที่เคยมีชีวิต อยู่เมื่อ 2 ล้านปีก่อน ในครั้งนั้นลิงโบราณ ที่เป็นบรรพบุรุษของพวกเรานี้ อาศัยอยู่ใน ทวีปแอฟริกา เชื่อกันว่าแอฟริกาในยุคโน้น เป็นพื้นที่ป่าเขียวขจีมีพืชพันธุ์ ธัญญาหารและน้ำอุดมสมบูรณ์
ลิงใหญ่ (apes) คือลิงที่มีวิวัฒนา-การสูงกว่าลิงธรรมดา มีสมองใหญ่กว่าสัตว์อื่นเมื่อเทียบกับขนาดของลำตัว ได้แก่ ลิงชิมแปนซี ลิงอุรังอุตัง ลิงกอริลลา ลิง ใหญ่สามารถกำมือ แบมือ งอนิ้วได้ มันจึงใช้มือทำอะไรได้หลายอย่าง เช่น จับเห็บ หยิบก้อนหินขว้างใส่สัตว์อื่น หยิบกิ่งไม้มาแหย่รังแมลง เอาเศษหินมากะเทาะเปลือกถั่ว
ส่วนชะนี หรือ gibbons เป็นลิงที่จัดอยู่ในระดับต่ำกว่า apes เล็กน้อย พฤติกรรมของมันจะอยู่กันเป็นคู่ผัวตัวเมีย อย่างซื่อสัตย์ ห่วงใยซึ่งกันและกันและสามารถร้องได้ด้วยเสียงใกล้เคียงกับมนุษย์ ปัจจุบันลิง apes กำลังสูญพันธุ์ไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอุรังอุตังและกอริลลา อุรังอุตังซึ่งอาศัยอยู่ในเกาะสุมาตรา และเกาะชวาของประเทศอินโดนีเซีย กำลังเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์เป็นอย่างมาก เพราะมันเคลื่อนไหวได้ช้าๆ อย่างสุขุมรอบคอบ จึงไม่ทันต่ออันตรายรอบด้าน ป่าอันเป็นถิ่นอาศัยของมันถูกทำลายไปแล้ว 80% ในช่วงเวลาเพียง 20 ปี ด้วยอะไรที่มนุษย์เรียกว่าการพัฒนา
ส่วนชิมแปนซี นับเป็นสัตว์ที่มี DNA ใกล้เคียงกับมนุษย์มากที่สุด ยังคงอาศัยอยู่ในทวีปแอฟริกา ความที่เป็นลิงใหญ่ที่ปรับตัวได้เก่งที่สุด เคลื่อนไหวได้ว่องไว เอาตัวรอดเก่ง ทำให้มันมีประชากร มากกว่าอุรังอุตังและกอริลลา
มนุษย์ลิง หรือ Homonids จากลิงใหญ่ (apes) ก็กลายมาเป็นมนุษย์ลิง (homonids) มนุษย์ลิง คือมนุษย์ในช่วงเปลี่ยนถ่ายจากลิงใหญ่มาเป็นคน ที่เคยมีตัวตนอยู่ในช่วง 1-2 ล้านปีก่อน กว่าจะมาเป็นมนุษย์ปัจจุบัน มนุษย์ลิงได้ผ่านวิวัฒนาการมาสองช่วง ระยะแรกจัดเป็นพวก homo erectus ระยะหลังคือ homo sapiens พวก homo sapiens นี้แหละที่กล่าวได้เต็มปากว่าเป็นบรรพบุรุษของมนุษย์ ปัจจุบัน ลักษณะที่ร่วมกันมาจนถึงปัจจุบัน ตั้งแต่ apes มาจนถึงคน คือการชอบอยู่ร่วมกันเป็นสังคม และการรู้จักปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป ใครก็ตาม ที่มีคุณสมบัติทั้งสองอย่างนี้รับรองได้ว่า เอาตัวรอดไปได้ดีเป็นแน่
กว่าจะมาเป็นมนุษย์ได้ มิใช่ง่ายๆ Homonids ต้องผ่านวิวัฒนาการ อพยพย้ายถิ่นฐานมาหลายครั้ง ใช้ระยะเวลาวิวัฒนาการที่ค่อนข้างยาวนาน 1-2 ล้านปี นักชีววิทยาจัดให้ Homonids ในช่วงแรกอยู่ใน species ที่เรียกว่า homo erectus ด้วยเกิดการเปลี่ยนแปลงหลักๆ คือ การเปลี่ยนรูปร่างลักษณะจากความเป็นลิงมาเดินสองขา หลังค่อยๆ ตั้งตรงขึ้นๆ แขนสั้นขึ้นขายาวขึ้น ส่วนวิวัฒนาการในช่วงหลังที่เปลี่ยนมาเป็น homo sapiens นั้นจะเป็นไปในทางที่พัฒนาสมองและความสามารถต่างๆ เพิ่มขึ้น โดยมีสัดส่วนของสมองใหญ่ขึ้นเมื่อเทียบกับน้ำหนักตัว มีไหวพริบรู้จักแก้ไขปัญหา (intelligence) มีการเปลี่ยนแปลงใกล้ความเป็นคนขึ้น ในช่วงนี้มีอะไรเกิดขึ้นมากมาย ที่เรายังไม่สามารถศึกษาได้ชัดเจนนัก เท่าที่ผ่านมานักมานุษยวิทยาได้ศึกษาจากลักษณะโครงกระดูก กะโหลกที่ขุดพบเป็นหลักและใช้รังสีประเมินอายุ แต่ปัจจุบันวิทยาการก้าวหน้าขึ้น เราสามารถศึกษาได้จากรหัส DNA เทียบกับมนุษย์ปัจจุบัน ทำให้ความเร้นลับต่างๆ เผยออกมาได้อีกมาก
อะไรที่ทำให้เกิดวิวัฒนาการ
ปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดการก้าวออกจากการเป็นลิงมาสู่การเป็นมนุษย์นั้น เนื่องมาจากการปรับตัว (adaptation) ด้วยเหตุหลักๆ สองสามประการ คือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ แหล่งอาหาร และการเปลี่ยนไปโดยธรรมชาติจากการคัดเลือกผู้ที่เข้มแข็งให้คงอยู่ (natural selection) สันนิษฐานกันว่าเมื่อ 1-2 ล้านปีก่อน ทวีปแอฟริกาอันเป็นแหล่ง กำเนิดดั้งเดิมของพวกลิงเล็กลิงใหญ่ทั้งหลาย เกิดภาวะโลกร้อน (ทำนองเดียวกับ ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน) จึงเกิดการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศขนานใหญ่จากป่าเขียวขจีที่มีพืชพันธุ์ธัญญาหารอุดมสมบูรณ์ กลายมาเป็นทุ่งหญ้าซาวันนาที่แห้งแล้งอย่างที่เราเห็นอยู่ทุกวันนี้ พวกลิงทั้งหลายที่กินผลไม้จึงต้องมีการปรับตัวกันไปคนละทิศละทาง บ้างเคลื่อนไหวได้ง่ายขึ้นเร็วขึ้น บ้างฉลาด ขึ้น บ้างก็หากินเก่งขึ้น ความสามารถในการปรับตัวนี้แหละที่ขับเคลื่อนให้เกิดวิวัฒนาการครั้งใหญ่
วิวัฒนาการจาก apes สู่คน เกิดขึ้น 2 รูปแบบ อันแรกคือ การลุกขึ้นเดินสองขา หลังตรงขึ้น โครงสร้างของกระดูก ที่บริเวณต้นคอและก้นกบเปลี่ยนไป ทำให้ จุดศูนย์ถ่วงของร่างกายถ่ายน้ำหนักลงสู่เท้า สองข้าง ทั้งนี้ทำให้ร่างกายใช้พลังงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อันที่สองคือการมีสัดส่วนของสมองต่อขนาดของร่างกายใหญ่ขึ้น มีไหวพริบในการรู้จักแก้ปัญหา ทั้งสองอย่างนี้เป็นไปเพื่อการเอาตัวรอด
Homo erectus ก้าวพ้นจากความเป็น apes เมื่อประมาณ 1.7 ล้านปีที่แล้ว เมื่อสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไป แหล่งผลไม้ลดลง ก็เริ่มเคลื่อนย้ายออกจากทวีปแอฟริกา พวกหนึ่งไปทางยุโรป พวกหนึ่งไปทางเอเชีย ตะวันออก และอีกพวกหนึ่ง ไปไกลถึงเกาะชวา ในครั้งกระโน้นระดับน้ำทะเลต่ำกว่าปัจจุบัน เกาะชวาเชื่อมต่อกับผืนแผ่นดินมาเลเซียและไทย ส่วนพวกที่ขึ้นไปทางยุโรปต้องผจญกับสภาพ อากาศหนาว กลายมากินเนื้อมากขึ้นแทนที่จะกินผลไม้แบบเดิม ทำให้โครงสร้างของร่างกายแตกต่างไปจาก พวกที่ไปยังเอเชียตะวันออก และตะวันออกเฉียงใต้
พวก homonids ที่ขึ้นไปยังยุโรป ต่อมากลายเป็นมนุษย์ Neandertals ซึ่งอยู่ในระดับวิวัฒนาการที่สูงกว่า homo erectus แต่ ต่ำกว่า homo sapiens Neandertals มีชีวิตอยู่ในช่วงสองแสนปีก่อน อาศัยอยู่ในถ้ำ จึงเรียกว่า caveman มีโครงกระดูกแตกต่างไปจากพวก homonids ที่แหล่ง อื่นๆ ในขณะที่พวกที่ไปอยู่ในประเทศจีนและเกาะชวา อินโดนีเซีย ก็ได้พัฒนามาเป็น homo sapiens ที่ค้นพบได้ล่าสุดก็เมื่อ 25,000 ปีมานี้เอง Neandertals มีระบบสังคม มีการอยู่เป็นครอบครัว เลือก ที่จะอยู่ในถ้ำแทนที่จะอยู่ในป่าและเปลี่ยน พฤติกรรมการบริโภคจากการกินพืชผลไม้มากินเนื้อสัตว์
เนื่องจากโครงร่างของ Neandertals แตกต่างจากมนุษย์ปัจจุบันอย่างเห็น ได้ชัด มีตัวใหญ่กว่ามนุษย์ปัจจุบัน มีกะโหลกหนา คิ้วใหญ่ และช่วงบ่ากว้างหนา นักมานุษยวิทยาไม่สามารถชี้ชัดไปได้ว่า Neandertals เป็นสายพันธุ์ที่พัฒนาต่อเนื่องมาเป็น homo sapiens หรือไม่ หรือ เป็นสายพันธุ์ที่แตกต่างและสูญหายไปจาก การถอดรหัส DNA จากซากที่ค้นพบได้ (เพราะเนื้อเยื่อถูกรักษาสภาพไว้ในถ้ำในเขตหนาว) พบว่ามนุษย์ Neandertals มีผิวขาวกว่ามนุษย์ในยุคเดียวกัน ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าอาศัยอยู่ในบริเวณที่มีแสงแดด น้อย วิวัฒนาการในช่วงนี้ยังเป็นที่สงสัยอยู่ หลายขั้นตอน แต่ที่แน่ๆ คือ Neandertals มีถิ่นอาศัยอยู่ในเขตอากาศหนาวของยุโรปและบางส่วนของเอเชียเท่านั้น มีการพบซาก ฟอสซิลในเยอรมนี เบลเยียม สเปน อิตาลี และฝรั่งเศส จนถึงอุซเบกิซสถาน และไม่พบในเอเชียเขตร้อนเลย
นักวิทยาศาสตร์มีความเห็นแต่เพียงว่า Neandertals เป็นมนุษย์ลิงในช่วงเปลี่ยนถ่ายจาก homo sapiens ยุคเริ่มต้นและยุคปัจจุบัน ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นบรรพบุรุษของชาวยุโรปหรือไม่
มนุษย์ลิงที่ร่วมสมัยกับ Neandertals ส่วนหนึ่งไปอยู่ทางภาคตะวันออกของจีน อีกส่วนหนึ่งไปทางอินโดนีเซียแถบเกาะชวา ที่พบบนเกาะชวาเป็นซากที่มีวิวัฒนาการล่าสุด เมื่อ 25,000 ปีมานี้เอง ส่วนฟอสซิลจากจีน มีอายุในช่วง 40,000 ปี มีโครงร่างคล้ายคลึงกับมนุษย์ปัจจุบันมากกว่าที่พบในยุโรปและแหล่งอื่น และไม่ได้มีลักษณะที่บ่งบอกว่าเป็นบรรพบุรุษของคนเอเชียโดยเฉพาะ จึงเชื่อกันว่ามนุษย์ในยุคโน้นมีการอพยพโยกย้ายกันไปมา หลักฐานหลายๆ อย่างในช่วงนี้ แสดงว่ามนุษย์ เริ่มพัฒนาเข้าสู่ modern human มีการอพยพเคลื่อนย้ายข้ามทวีปไปมาอย่างต่อเนื่อง ปะปนกันจนกลายเป็นเผ่าพันธุ์ homo sapiens sapiens ในปัจจุบัน อย่างไรก็ดี นักมานุษยวิทยายังต้องการหลักฐานเพื่อศึกษาเติมเต็มช่องว่างในส่วนนี้อยู่อีกมากอะไรที่ทำให้มนุษย์เป็นมนุษย์
แล้วมนุษย์มีลักษณะใดเล่าที่เหนือกว่าสัตว์โลกอื่นๆ:- จิตสำนึก การรู้จักเรียนรู้และการเลียนแบบ การนึกถึงคนอื่น การสอนคนอื่น การปรับตัว
เผ่าพันธุ์มนุษย์ในยุคปัจจุบันจัดอยู่ในกลุ่ม homo sapiens sapiens โดยนับ ตั้งแต่ 40,000 ปีก่อนหรือจากโครงสร้างที่ใกล้เคียงกับมนุษย์ปัจจุบัน การก้าวขึ้นมาเป็นมนุษย์ที่แตกต่างจากสัตว์นั้น พิจารณาจากการเริ่มมีพิธีกรรม มีขนบธรรมเนียมประเพณี เห็นได้จากการฝังศพ แต่สิ่งที่บ่งบอกความเป็นมนุษย์ที่แท้จริงคือ จิต สำนึก หรือจิตใจที่รู้จักผิดชอบชั่วดี ความสามารถในการเข้าใจจิตใจของผู้อื่นและไม่เบียดเบียนกัน ผู้ใดที่คอยเบียดเบียนผู้อื่น หรือหาช่องทางโกหกหลอกลวงผู้อื่น นับว่ายังมีจิตใจเป็นสัตว์อยู่โดยแท้ นอกจากนั้นก็คือความฉลาด ความมีไหวพริบ รู้จักประดิษฐ์สิ่งของเครื่องใช้ ส่วนการรู้จักเข้าสังคมรวมกลุ่มกันก็ช่วยให้เกิดวิวัฒนาการอย่างรวดเร็ว เกิดการแข่งขันเลียนแบบ หรือร่วมมือกัน จนมาถึงยุคการเมืองที่มีการแบ่งปันผลประโยชน์กันอย่างเข้มข้น
อย่างไรก็ตาม นักสังเกตพฤติกรรมสัตว์พบว่า ในสังคมชิมแปนซีก็มีการต่อรองผลประโยชน์กันและสนับสนุนพวกเดียวกัน เช่นกัน ไม่แตกต่างไปจากสังคมมนุษย์สักเท่าใด เพียงแต่ว่าสังคมของคนนั้นมีกลยุทธ์ ที่ซับซ้อนและเข้มข้นกว่ามากเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม มักจะมีข้อโต้แย้งกันอยู่เสมอว่า จิตสำนึกหรือความรู้สึกผิดชอบชั่วดี เป็นผลสืบเนื่องมาจากวิวัฒนาการหรือไม่ หรือปรากฏขึ้นมาเองในหมู่สังคมมนุษย์ในภายหลัง ถ้าเป็นดังนั้น มันเกิดขึ้นได้อย่างไร (ข้อสงสัยนี้อาจจะต้องไปปุจฉาวิสัชนากับสมณะที่ศึกษาพระอภิธรรมปิฎก) นักวิทยาศาสตร์ (ฝรั่ง) ให้ความเห็นว่า ขนาดของสมองมิได้มีส่วนช่วยให้เกิดวิวัฒนาการในช่วงแรก ตราบใดที่เรามีอวัยวะที่ทำอะไรได้ดีอยู่แล้ว สมองจะช่วยต่อเมื่อเราอยู่ในสังคมที่ซับซ้อน ไม่มีทางเลือกที่ดีกว่า ซึ่งจะเกิดขึ้นในวิวัฒนาการช่วงหลังๆ
|
|
|
|
|