|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
โรงงานคัดแยกขยะเพื่อรีไซเคิลวงษ์พาณิชย์ แม้ว่าจะดำเนินงานมา 35 ปี แต่องค์กรแห่งนี้มองตัวเองว่าเป็นเพียง "มดงาน" ที่อาศัยเครือข่ายธุรกิจในวงการเดียวกันพึ่งพากันจึงทำให้วงษ์พาณิชย์เติบใหญ่มาถึงทุกวันนี้
สมไทย วงษ์เจริญ วัย 55 ปี เล่าประวัติการต่อสู้ด้านการเรียนและธุรกิจให้ผู้จัดการ 360 ํ ฟังว่าในขณะนั้นเขาเรียนจบเพียงมัธยม 3 จากอำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร และไม่ได้เรียนต่อ แต่สนใจที่จะทำมาค้าขายมากกว่า จึงเริ่มจากขายหนังสือพิมพ์ ลอตเตอรี่ ยา เสื้อผ้า ค้าขายเปลี่ยนสินค้าไป-มาอยู่หลายครั้ง แต่ไม่ประสบความสำเร็จในการทำงาน
จนกระทั่งมาทำธุรกิจรับซื้อของเก่า ในตอนแรกซื้อ-ขายได้น้อยเพราะคนจะไม่ขายของเก่ากิน จึงได้ใช้กุศโลบายของแลกของ เช่น นำขนม ถ้วย ชาม กะละมังไปแลก ทำให้มีรายได้ 400 บาท ซึ่งเท่ากับราคาทองคำ 1 บาท เขามองว่าเป็นรายได้ดีจึงเริ่มทำอย่างจริงจัง
สมไทยกลับมาเรียนต่อเมื่อปี 2522 พร้อมกับย้ายมาอยู่ที่จังหวัดพิษณุโลกและทำงานไปด้วย เขาเรียนการศึกษานอกโรงเรียนจนจบมัธยมศึกษาปีที่ 6 และเรียนต่อปริญญาตรี ภาคเสาร์-อาทิตย์ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
จากธุรกิจห้องแถวเล็กๆ ขยายธุรกิจจนเติบโตในปัจจุบัน มีโรงงานคัดแยกขยะเพื่อรีไซเคิลบนเนื้อที่ 12 ไร่ จังหวัดพิษณุโลก
ด้วยความรู้ ความชำนาญ 35 ปีที่อยู่ในวงการธุรกิจขยะรีไซเคิล ทำให้สมไทยถ่ายทอดประสบการณ์ที่ผ่านมาด้วยการเขียนหนังสือการคัดแยกขยะ ธนาคารขยะแห่งแรกของประเทศไทย
ประสบการณ์การทำงานที่มีจึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาให้กับ สำนักงาน UNDP นครเวียงจันทน์ ประจำสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ด้านการจัดการขยะรีไซเคิล ในปี 2546
แม้ว่าสมไทยจะมีประสบการณ์ในการทำงานมานาน และรอบรู้เรื่องขยะรีไซเคิล แต่วงษ์พาณิชย์ในสายตาของผู้ประกอบการธุรกิจรายใหญ่ ยังถือว่าวงษ์พาณิชย์เป็นรายเล็ก ซึ่งเขาก็ตระหนักในเรื่องนี้เป็นอย่างดี เพราะมองว่าธุรกิจวงษ์พาณิชย์คือมดงาน เป็นส่วนหนึ่งของฟันเฟืองธุรกิจรีไซเคิลในประเทศไทย
ดังนั้น การสร้างธุรกิจเพียงบริษัทเดียวไม่สามารถอยู่รอดได้ และการสร้างเครือข่ายจึงเป็นสิ่งจำเป็น
การเพิ่มยอดจำนวนสาขาเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างเครือข่าย มีรูปแบบเป็นใยแมงมุม ทำงานร่วมกันในรูปแบบความผูกพัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แตกต่างจากการสร้างเครือข่ายของต่างประเทศที่มีเงื่อนไขและข้อปฏิบัติที่ยุ่งยาก
การเพิ่มพันธมิตรของวงษ์พาณิชย์เป็นไปในรูปแบบการขยายสาขามี 4 ประเภท 1. สาขาวงษ์พาณิชย์ ซึ่งวงษ์พาณิชย์เป็นผู้ลงทุนเองทั้งหมด 2. ร่วมลงทุน 3. แฟรนไชส์ 4. ศิษย์วงษ์พาณิชย์
เงื่อนไขที่วงษ์พาณิชย์จะไปร่วมลงทุน จะต้องเป็นธุรกิจขนาดใหญ่และลงทุนเทคโนโลยีขั้นสูงและใช้ทุนมาก ส่วนแฟรนไชส์จะอนุญาตให้ติดป้ายวงษ์พาณิชย์ และไม่เสียค่าธรรมเนียม แต่ต้องมาเรียนหลักสูตรธุรกิจรีไซเคิลที่เปิดสอน
สำหรับศิษย์วงพาณิชย์ เจ้าของธุรกิจจะเปิดร้านโดยใช้ชื่อของตัวเอง ไม่สามารถใช้โลโกของวงษ์พาณิชย์
การเปิดสาขากว่า 400 แห่ง พร้อมสร้างพันธมิตร สมไทยมองว่าเป็นการสร้างมดงานหลายๆ ตัวจนสามารถสร้างอาณาจักรให้กลุ่มวงษ์พาณิชย์ได้ในปัจจุบัน
หลักสูตรการเรียนของสมไทยนอกจากจะให้ความรู้วงจรธุรกิจรีไซเคิลอย่างเปิดเผย ในอดีตผู้ประกอบการบางรายมักจะปิดบังและบอกว่าเป็นความลับ ทำให้เขามีลูกศิษย์กว่า 6 พันคนที่มาเรียนหลังจากที่ได้เปิดสอนมาเป็นเวลา 8 ปี
สำหรับคนที่มาเรียน เริ่มตั้งแต่ไม่มีการศึกษาไปจนถึงนักธุรกิจระดับปริญญาเอก และชาวต่างชาติเดินทางมาจากหลายแห่ง เช่น ภาคเอกชน หน่วยงานราชการรวมไปถึงกลุ่มเอ็นจีโอ
หลักสูตรเปิดสอนมีตั้งแต่ 5 วันและ 7 วัน เริ่มสอนตั้งแต่ความรู้พื้นฐาน การคัดแยกขยะขายได้ และขายไม่ได้ สอนวิธีวิเคราะห์ตลาด ข้อมูลข่าวสาร ระบบบริหารจัดการ
นอกจากนี้ยังได้สอนเทคนิคการคัดเลือกสินค้า เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้ขายได้ประโยชน์มากขึ้น เช่น เศษกระดาษ ถ้าขายปกรวมสมุดจะขายได้กิโลกรัม 1 บาท แต่ถ้าฉีกปกหน้ามันออก และแยกขายสมุดด้านในเพียงอย่างเดียวจะขายได้ในราคากิโลกรัมละ 6 บาท เทคนิคเหล่านี้สมไทยบอกว่าจะสอนโดยไม่ปิดบัง
และยังได้เปรียบเทียบให้เห็นต้นทุนขยะรีไซเคิลกับวัตถุดิบใหม่ เช่น การผลิตขวดเบียร์ใช้วัตถุดิบใหม่ทั้งหมดต้นทุนราคา 9 บาท ในขณะที่ต้นทุนขวดเบียร์รีไซเคิลมีราคา 2 บาท จึงเป็นโอกาสของผู้ทำธุรกิจรีไซเคิล
หลังจากที่ลูกศิษย์จบการเรียนจะมีส่วนหนึ่งกลายไปเป็นสาขาของวงษ์พาณิชย์ ทำให้การซื้อขายน่าเชื่อถือกว่าซื้อจากคนภายนอกที่อาจปลอมปน
ด้วยบุคลิกที่เปิดเผยและเป็นกันเอง จึงทำให้สื่อสิ่งพิมพ์และโทรทัศน์เข้าถึงตัวได้ง่าย บวกกับการเปิดเผยข้อมูลการทำธุรกิจขยะและเปิดให้เยี่ยมชมโรงงานอย่างไม่ปิดบัง จึงทำให้สมไทยกลายเป็นโลโกนักธุรกิจรีไซเคิลจวบจนทุกวันนี้
|
|
|
|
|