Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTVผู้จัดการรายวัน2 กันยายน 2552
สคิบรอกองทุนเฟ้นผู้ถือหุ้นใหม่ ยันไม่กระทบธุรกิจมั่นใจสินเชื่อโต6%-เร่งขายNPL             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารนครหลวงไทย

   
search resources

ธนาคารนครหลวงไทย, บมจ.
ชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์
Banking and Finance




สคิบชี้ขั้นตอนขายหุ้น ต้องรอให้กองทุน-ที่ปรึกษาทางการเงินคัดเลือกผู้สนใจก่อน จึงจะเข้าตรวจสอบทรัพยสิน ฟุ้งมีผู้สนใจมากกว่า 5 ราย แต่น่าจะผ่านการคัดเลือกแค่ 3 ราย คาดเห็นภาพชัดขึ้นช่วงปลายปี ยันไม่กระทบการดำเนินธุรกิจยังคงเป้าสินเชื่อโต 6% พร้อมจับมือเอไอเอออก SCIB Platinum Savings 21/7 เป็นประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ ชำระเบี้ยประกันชีวิต 7 ปี ให้ความคุ้มครองชีวิตสูงถึง 210 % ของทุนประกันภัยนาน 21 ปี ตั้งเป้าเพิ่มเบี้ยเดือนละ 100 ล้าน

นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน)(SCIB)เปิดเผยถึงกรณีการขายหุ้นของธนาคารที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและ พัฒนาระบบสถาบันการเงิน(กองทุน)ถืออยู่จำนวน 47.58% ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)จะตรวจสอบหนังสือ เห็นชอบที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังส่งมา หลังจากนั้นจึงส่งกลับมาที่กองทุนเพื่อดำเนินการจัดตั้งที่ปรึกษาทางการเงิน คัดเลือกผู้ที่สนใจแล้วจึงเข้ามาหารือกับธนาคารในการตรวจสอบสินทรัพย์ต่อไป ซึ่งแต่ละขั้นตอนจะใช้เวลาประมาณ 4-6 สัปดาห์ หรือมากกว่านั้นหากมีผู้สนใจเข้าซื้อหุ้นของธนาคารหลายราย จึงยังไม่สามารถกำหนดได้ชัดเจนว่าสรุปผลได้เมื่อใด แต่คาดว่าปลายปีนี้น่าจะเห็นรายชื่อผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจากที่ปรึกษาทาง การเงิน ซึ่งไม่น่าจะเกิน 3 ราย เนื่องจากขั้นตอนดังกล่าวค่อนข้างยุ่งยากและใช้เวลามาก

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าผู้ถือหุ้นใหม่จะสถาบันการเงินสัญชาติใด ควรจะมีคุณสมบัติที่เกื้อหนุนการดำเนินธุรกิจของธนาคารด้วย ไม่ว่าจะเป็นการมีองค์ความรู้ที่จะช่วยเสริมศักยภาพการแข่งขันในอนาคตให้กับ ธนาคารได้ รวมถึงเสริมความแข็งแกร่งด้านไอที และมีฐานลูกค้าที่จะเพิ่มปริมาณธุรกิจให้กับธนาคารด้วย โดยขณะนี้ราคาหุ้นตามมูลค่าทางบัญชีของธนาคารอยู่ในระดับ 19.30 บาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงก่อนหน้าเนื่องจากมีกำไรสะสมเพิ่มเข้ามาจากในช่วงครึ่ง ปีแรก

"ตอนนี้คงจะยังไม่ใช่หน้าที่ของธนาคารที่จะทำอะไรในขณะนี้ และธนาคารยังไม่เคยเจรจากับใคร ต้องรอให้เสร็จขั้นตอนจากทางคลังและกองทุนก่อน แล้วก็ไม่ทราบรายชื่อหรือจำนวนผู้ที่สนใจ แต่เท่าที่ฟังข่าวมีมากกว่า 5 ราย โดยขั้นตอนต่างๆก็จะเป็นแบบเดียวกับที่ขายหุ้นของธนาคารไทยธนาคาร แต่ช่วงเวลาขณะนี้ค่อนข้างดีกว่าจึงเชื่อจะมีผู้สนใจจำนวนรายมากกว่า อย่างไรก็ตาม ขณะนี้การดำเนินธุรกิจของธนาคารก็ยังคงเป็นไปตามปกติ ควบคู่ไปกับการพัฒนาองค์กรให้พร้อมรับมือกับการดำเนินธุรกิจในรูปแบบใหม่ๆ"

ส่วนเข้าถือหุ้นของกลุ่มทุนธนชาตนั้น ปัจจุบันกลุ่มดังกล่าวมีสัดส่วนการถือหุ้นรวมประมาณเกือบ 14% โดยกลุ่มเอ็มบีเค-TCAP ถือ 9% และกลุ่มนวาสโกเทียถืออยู่ 4.9%

สำหรับการปล่อยสินเชื่อของธนาคารปีนี้นั้น เชื่อจะยังคงเติบโตได้ตามเป้าหมายคือ 6% คิดเป็นวงเงินสุทธิ 18,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ธนาคารมีสินเชื่อคงค้างที่ระดับ 270,000 ล้านบาท โดยเชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะมียอดเบิกจ่ายสินเชื่อเพิ่ม ตามภาวะเศรษฐกิจที่ค่อยๆฟื้นตัวขึ้น รวมถึงธนาคารอยู่ระหว่างดำเนินการขายหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล )จำนวน 7,000-10,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสรปุได้ในไตรมาส 4 และทำให้เอ็นพีแอลของธนาคารลดลงต่ำกว่า6% จากปัจจุบันที่อยู่ในระดับ 8%

นอกจากนี้ ล่าสุดธนาคารได้ร่วมกับ บริษัท อเมริกันอินเตอร์แนชชั่นแนลแอสชัวรันส์ จำกัด (เอไอเอ ประเทศไทย) นำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตโครงการ SCIB Platinum Savings 21/7 เป็นประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ ชำระเบี้ยประกันชีวิต 7 ปี ให้ความคุ้มครองชีวิตสูงถึง 210 % ของทุนประกันภัยนาน 21 ปี โดยผู้ถือกรมธรรม์จะได้รับผลประโยชน์เงินคืนรายงวดปีละ 2% ของทุนประกันภัย ตั้งแต่สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 2-14 และรับเงินคืนรายงวดสูงถึง 30% ของทุนประกันภัยตั้งแต่สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 15-21 แบบประกันชีวิตดังกล่าวเหมาะกับลูกค้าของธนาคารที่มองหาทางเลือกในการวางแผน ทางการเงินอย่างมั่นคง นอกจากนี้ธนาคารยังได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย SCIB Platinum Savings 21/7 by SCIB heart มอบโชคลุ้นรับรางวัลทองคำแท่งและสร้อยคอทองคำ น้ำหนักรวม 40 บาท จำนวน 23 รางวัล มูลค่ากว่า 6 แสนบาท ซึ่งกิจกรรมส่งเสริมการขายนี้เป็นสิ่งที่ตอกย้ำถึงแผนในการขยายธุรกิจบริการ ประกันชีวิตผ่านธนาคาร รวมทั้งเป็นการเพิ่มฐานลูกค้าในธุรกิจแบงก์แอสชัวรันส์ของปีนี้ด้วย

ทั้งนี้ ธนาคารตั้งเป้าเบี้ยประกันในปีนี้ไว้ประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยในส่วนของ SCIB Platinum Savings 21/7 น่ามียอดเบี้ยประกันเข้ามาเดือนละไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาทในช่วงที่เหลือของปีนี้   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us