|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ตลาดหลักทรัพย์ประกาศให้ เอส.อี.ซี. ออโต้เซลส์ เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน เหตุไม่นำส่งงบการเงินสิ้นปี 51 ล่าช้าเกินกว่า 180 วันตามเกณฑ์ พร้อมแขวนป้าย NC เพิ่มอีกเริ่ม 2 ก.ย.นี้เป็นต้นไป หลังก่อนหน้าติด SP แล้ว จี้ให้เร่งนำส่งงบก่อน 1 มี.ค.53 ก่อนดำเนินการตามเกณฑ์
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แจ้งว่า ตามที่ตลาดหลักทรัพย์ได้กำหนดนโยบายการประกาศรายชื่อบริษัทจดทะเบียนที่ต้อง แก้ไขคุณสมบัติในการเป็นบริษัทจดทะเบียน กรณีบริษัทจดทะเบียนนำส่งงบการเงินล่าช้าเกินกว่า 180 วัน เพื่อส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียนเร่งปรับปรุงระบบการควบคุมภายในและระบบ บัญชี รวมทั้งกระบวนการจัดทำรายงานทางการเงินอย่างมีประสิทธิผล โดยตลาดหลักทรัพย์จะประกาศรายชื่อบริษัทจดทะเบียนที่นำส่งงบการเงินล่าช้า เป็นเวลานานติดต่อกันมากกว่า 180 วัน ซึ่งบริษัทดังกล่าวจะต้องแก้ไขคุณสมบัติในการเป็นบริษัทจดทะเบียนดังกล่าวมิ ฉะนั้นอาจถูกเพิกถอนหลักทรัพย์จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนตามความในข้อ 9 (3) และ 9 (5) แห่งข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การเพิกถอนหลักทรัพย์จดทะเบียน พ.ศ. 2542 นั้น
โดย ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2552 ปรากฏว่า บริษัท เอส.อี.ซี. ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) (SECC) ยังมิได้นำส่งงบการเงินประจำปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2551 ต่อตลาดหลักทรัพย์ซึ่งล่าช้าเกินกว่า 180 วัน และเพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตามความในข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ฉบับดังกล่าวตลาดหลักทรัพย์จึงดำเนินการดังนี้
(1) ประกาศว่าหลักทรัพย์ของ SECC เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2552 และยังคงขึ้นเครื่องหมาย SP (Suspension) ห้ามซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของ SECC และขึ้นเครื่องหมาย NC (Non-Compliance) ตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2552 เพื่อกำกับไว้ให้ผู้ลงทุนทราบว่าหลักทรัพย์ของบริษัท เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน
(2) SECC สามารถดำเนินการให้เหตุแห่งการเพิกถอนหมดไป โดยเร่งนำส่งงบการเงินดังกล่าวโดยเร็วและไม่เกินกว่า 180 วัน นับแต่วันประกาศเข้าเกณฑ์อาจถูกเพิกถอน โดย SECC สามารถขอให้ตลาดหลักทรัพย์พิจารณาพ้นเหตุแห่งการเพิกถอนเมื่อ SECC สามารถส่งงบการเงินภายในเวลาที่กำหนด 2 งวดติดต่อกันภายหลังที่ได้นำส่งงบการเงินงวดที่ล่าช้า และรายงานของผู้สอบบัญชีต้องไม่เป็นรายงานประเภทใดประเภทหนึ่งดังนี้
2.1 ผู้สอบบัญชีเสนอรายงานแบบมีเงื่อนไขเกี่ยวกับบริษัทจดทะเบียนมีข้อบกพร่องใน ระบบควบคุมภายในหรือระบบบัญชีไม่สมบูรณ์ หรือบริษัทจดทะเบียนไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักการบัญชีที่รับรองโดยทั่วไป
2.2 ผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงิน กรณีถูกจำกัดขอบเขตการตรวจสอบโดยการกระทำหรือไม่กระทำของบริษัทหรือผู้บริหาร
2.3 ผู้สอบบัญชีแสดงความเห็นว่างบการเงินไม่ถูกต้อง
ทั้งนี้ หาก SECC ไม่สามารถแก้ไขเหตุแห่งการเพิกถอนให้หมดไป กล่าวคือไม่สามารถนำส่งงบการเงินประจำปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2551 ต่อตลาดหลักทรัพย์ ได้ภายใน 180 วัน หรือภายในวันที่ 1 มีนาคม 2553 ตลาดหลักทรัพย์อาจพิจารณาเพิกถอนหลักทรัพย์ของ SECC จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน
อนึ่ง ตลาดหลักทรัพย์ได้ แขวนเครื่องหมาย SP (Suspension) หุ้น SECC เนื่องจากไม่ส่งงบการเงินงวดสิ้นปี 51 ตั้งแต่การซื้อขายรอบเช้าวันที่ 3 มีนาคม 52 มาก่อนหน้านี้แล้ว และ SECC ยังขอผ่อนผันกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ( ก.ล.ต. ) ไม่ต้องจัดให้ผู้สอบบัญชีตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (special audit) เนื่องจากขณะนี้ SECC ต้องจัดทำงบการเงินประจำปี 51 โดยมีผู้สอบบัญชีตรวจสอบและให้ความเห็นแล้ว จึงผ่อนผันการจัดทำ special audit โดยมีเงื่อนไขว่า การตรวจสอบงบการเงินประจำปี 51 จะต้องครอบคลุมประเด็นที่สำนักงานได้เคยสั่งการให้ทำ special audit และให้เปิดเผยข้อเท็จ จริงและผลกระทบจากการทุจริตที่พบหรือสงสัยว่าอาจมีการทุจริตไว้ในงบการเงิน ประจำปี 51 ด้วย
|
|
|
|
|