Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTVผู้จัดการรายวัน2 กันยายน 2552
ตลท.แขวนNCหุ้นSECC เหตุเข้าข่ายเพิกถอนจี้ส่งงบก่อน1มี.ค.53             
 


   
www resources

โฮมเพจ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

   
search resources

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
Stock Exchange
เอส.อี.ซี.ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส, บมจ.




ตลาดหลักทรัพย์ประกาศให้ เอส.อี.ซี. ออโต้เซลส์ เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน เหตุไม่นำส่งงบการเงินสิ้นปี 51 ล่าช้าเกินกว่า 180 วันตามเกณฑ์ พร้อมแขวนป้าย NC เพิ่มอีกเริ่ม 2 ก.ย.นี้เป็นต้นไป หลังก่อนหน้าติด SP แล้ว จี้ให้เร่งนำส่งงบก่อน 1 มี.ค.53 ก่อนดำเนินการตามเกณฑ์

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แจ้งว่า ตามที่ตลาดหลักทรัพย์ได้กำหนดนโยบายการประกาศรายชื่อบริษัทจดทะเบียนที่ต้อง แก้ไขคุณสมบัติในการเป็นบริษัทจดทะเบียน กรณีบริษัทจดทะเบียนนำส่งงบการเงินล่าช้าเกินกว่า 180 วัน เพื่อส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียนเร่งปรับปรุงระบบการควบคุมภายในและระบบ บัญชี รวมทั้งกระบวนการจัดทำรายงานทางการเงินอย่างมีประสิทธิผล โดยตลาดหลักทรัพย์จะประกาศรายชื่อบริษัทจดทะเบียนที่นำส่งงบการเงินล่าช้า เป็นเวลานานติดต่อกันมากกว่า 180 วัน ซึ่งบริษัทดังกล่าวจะต้องแก้ไขคุณสมบัติในการเป็นบริษัทจดทะเบียนดังกล่าวมิ ฉะนั้นอาจถูกเพิกถอนหลักทรัพย์จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนตามความในข้อ 9 (3) และ 9 (5) แห่งข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การเพิกถอนหลักทรัพย์จดทะเบียน พ.ศ. 2542 นั้น

โดย ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2552 ปรากฏว่า บริษัท เอส.อี.ซี. ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) (SECC) ยังมิได้นำส่งงบการเงินประจำปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2551 ต่อตลาดหลักทรัพย์ซึ่งล่าช้าเกินกว่า 180 วัน และเพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตามความในข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ฉบับดังกล่าวตลาดหลักทรัพย์จึงดำเนินการดังนี้

(1) ประกาศว่าหลักทรัพย์ของ SECC เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2552 และยังคงขึ้นเครื่องหมาย SP (Suspension) ห้ามซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของ SECC และขึ้นเครื่องหมาย NC (Non-Compliance) ตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2552 เพื่อกำกับไว้ให้ผู้ลงทุนทราบว่าหลักทรัพย์ของบริษัท เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน

(2) SECC สามารถดำเนินการให้เหตุแห่งการเพิกถอนหมดไป โดยเร่งนำส่งงบการเงินดังกล่าวโดยเร็วและไม่เกินกว่า 180 วัน นับแต่วันประกาศเข้าเกณฑ์อาจถูกเพิกถอน โดย SECC สามารถขอให้ตลาดหลักทรัพย์พิจารณาพ้นเหตุแห่งการเพิกถอนเมื่อ SECC สามารถส่งงบการเงินภายในเวลาที่กำหนด 2 งวดติดต่อกันภายหลังที่ได้นำส่งงบการเงินงวดที่ล่าช้า และรายงานของผู้สอบบัญชีต้องไม่เป็นรายงานประเภทใดประเภทหนึ่งดังนี้

2.1 ผู้สอบบัญชีเสนอรายงานแบบมีเงื่อนไขเกี่ยวกับบริษัทจดทะเบียนมีข้อบกพร่องใน ระบบควบคุมภายในหรือระบบบัญชีไม่สมบูรณ์ หรือบริษัทจดทะเบียนไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักการบัญชีที่รับรองโดยทั่วไป

2.2 ผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงิน กรณีถูกจำกัดขอบเขตการตรวจสอบโดยการกระทำหรือไม่กระทำของบริษัทหรือผู้บริหาร

2.3 ผู้สอบบัญชีแสดงความเห็นว่างบการเงินไม่ถูกต้อง

ทั้งนี้ หาก SECC ไม่สามารถแก้ไขเหตุแห่งการเพิกถอนให้หมดไป กล่าวคือไม่สามารถนำส่งงบการเงินประจำปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2551 ต่อตลาดหลักทรัพย์ ได้ภายใน 180 วัน หรือภายในวันที่ 1 มีนาคม 2553 ตลาดหลักทรัพย์อาจพิจารณาเพิกถอนหลักทรัพย์ของ SECC จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน

อนึ่ง ตลาดหลักทรัพย์ได้ แขวนเครื่องหมาย SP (Suspension) หุ้น SECC เนื่องจากไม่ส่งงบการเงินงวดสิ้นปี 51 ตั้งแต่การซื้อขายรอบเช้าวันที่ 3 มีนาคม 52 มาก่อนหน้านี้แล้ว และ SECC ยังขอผ่อนผันกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ( ก.ล.ต. ) ไม่ต้องจัดให้ผู้สอบบัญชีตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (special audit) เนื่องจากขณะนี้ SECC ต้องจัดทำงบการเงินประจำปี 51 โดยมีผู้สอบบัญชีตรวจสอบและให้ความเห็นแล้ว จึงผ่อนผันการจัดทำ special audit โดยมีเงื่อนไขว่า การตรวจสอบงบการเงินประจำปี 51 จะต้องครอบคลุมประเด็นที่สำนักงานได้เคยสั่งการให้ทำ special audit และให้เปิดเผยข้อเท็จ จริงและผลกระทบจากการทุจริตที่พบหรือสงสัยว่าอาจมีการทุจริตไว้ในงบการเงิน ประจำปี 51 ด้วย   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us