ศรีไทยฯจับมือปตท.เคมิคอลร่วมวิจัยและพัฒนาโครงการผลิตทุ่นพลาสติกรักษ์น้ำหรือดอกลิลลี่น้ำ หวังเจาะตลาดสหรัฐฯ-ออสเตรเลีย ชี้เป็นโครงการที่จะช่วยลดการระเหยของน้ำจากแสงอาทิตย์ได้ถึง 80% มั่นใจผลิตเชิงพาณิชย์ได้กลางปีหน้า

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าภายหลังการลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกันเรื่องความร่วมมือเพื่อพัฒนาและส่งเสริมอุตสาหกรรมพลาสติกไทยกับบริษัท ปตท.เคมิคอล จำกัด (มหาชน)วานนี้ (31 ส.ค.)ว่าในเบื้องต้นทั้งสองบริษัทมีความสนใจที่จะศึกษาโครงการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทุ่นพลาสติกรักษ์น้ำหรือดอกลิลลี่น้ำ ซึ่งเป็นตัวช่วยป้องกันการระเหยของน้ำที่เกิดขึ้นได้ถึง 80% โดยปตท.เคมิคอลจะเป็นผู้พัฒนาวัตถุดิบที่ใช้ทำตัวทุ่นพลาสติก ซึ่งอยู่ระหว่างการวิจัยและพัฒนาคาดว่าจะได้แล้วเสร็จกลางปี 2553

ขณะนี้โครงการดังกล่าวได้มีการวิจัยและพัฒนาคืบหน้าไปแล้ว 80% โดยมีการทดลองบ้างแล้วแต่ติดปัญหาอย่างตัว หากแล้วเสร็จก็คงต้องมีการจดสิทธิบัตรร่วมกันทั้งสิทธิบัตรการออกแบบ สิทธิบัตรเทคโนโลยีและสิทธิบัตรวัตถุดิบ ส่วนการร่วมทุนจัดตั้งบริษัทฯนั้นยังไม่มีการหารือรายละเอียด แต่หากมีการลงทุนศรีไทยฯจะใช้เงินค่าเครื่องจักร 70-80 ล้านบาท ส่วนตลาดที่สำคัญ คือสหรัฐฯ ออสเตรเลีย และตะวันออกกลาง โดยมูลค่าตลาดสูงมาก การลงนามบันทึกความเข้าใจครั้งนี้ถือเป็นการร่วมมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อสนับสนุนและช่วยเหลือในด้านต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดต้นทุน เสริมสร้างความมั่นคงในการประกอบธุรกิจและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน เนื่องจากปัจจุบันการแข่งขันในตลาดโลกมีความรุนแรงมากขึ้น หากผู้ประกอบการไม่มีศักยภาพเพียงพอก็จะต้องปิดตัวไป

ในช่วงที่ผ่านมาศรีไทยฯให้ความสำคัญในการพัฒนาสินค้าใหม่ โดยมีการปรับปรุงเครื่องจักรใหม่หมดในช่วง 2ปี(2551-2552 )เป็นวงเงินถึง 1.2 พันล้านบาท เช่น การฉีดพร้อมพิมพ์ลายิในบรรจุภัณฑ์พร้อมในเวลาเดียวกัน (In Mold Lable) เช่นแก้วน้ำและถังใส่ป๊อบคอร์นในโรงหนังเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ล่าสุดบริษัทฯได้รับรางวัลชนะเลิศBest of Product Family จากIMDA AWARDS สหรัฐอเมริกา

ทั้งนี้บริษัทฯเตรียมนำระบบดังกล่าวไปใช้กับถังสีที่เดิมใช้ระบบซิลสกีนในอีก 2เดือนข้างหน้านี้ การผลิตฝาจุกพลาสติกขวดPET ที่เบาที่สุดในโลก และการผลิตกล่องใส่ซีดีเพลง เป็นต้น ในปีนี้ศรีไทยฯคาดว่าจะมียอดขายตามเป้าหมายที่ตั้งไว้รวม 5.1 พันล้านบาท โดยครึ่งปีแรกมียอดขายเพียง 45%ของยอดขาย แต่เชื่อว่าครึ่งปีหลังจะดีกว่า ขณะที่กำไรสุทธิ์ปีนี้จะสูงกว่าปีที่แล้ว โดยคาดว่าจะมีอัตรากำไรเบื้องต้นไม่น้อยกว่า 20%

นายวีระศักดิ์ โฆสิตไพศาล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.เคมิคอล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปีนี้ยอดการใช้เม็ดพลาสติกในประเทศไม่ได้ลดลง แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวก็ตาม อีกทั้งจีนยังมีการนำเข้าสูงกว่าปีก่อนด้วย ทำให้ราคาเม็ดพลาสติกาขณะนี้อยู่ที่ 1,200 เหรียญสหรัฐ/ตัน หากปีหน้าราคาน้ำมันดิบเฉลี่ย 70 เหรียญสหรัฐ ราคาเม็ดพลาสติกก็จะอยู่เหนือ 1,000เหรียญสหรัฐ/ตัน แม้ว่าจะมีกำลังการผลิตใหม่จากตะวันออกกลางและจีนก็ตามในปีหน้าบริษัทฯคาดว่าจะมีรายได้ทะลุเกิน 1แสนล้านบาท เนื่องจากมีกำลังการผลิตจากโรงเอทิลีนแครกเกอร์อีก 1 ล้านตัน รวมทั้งมีกำลังการผลิตเม็ดพลาสติกเพิ่มขึ้นทั้งHDPE LLDPE และLDPE ซึ่งบางโครงการจะแล้วเสร็จในปลายปีนี้