บอร์ด 124 คอมมิวนิเคชั่นส ให้แตกพาร์เหลือหุ้นละ 10 สต. พร้อมออกวอร์แรนต์ใหม่ 22.50 ล้านหุ้นแจกฟรีให้ผู้ถือหุ้นเดิม อัตราส่วน 2 หุ้นเดิมต่อ 1 วอร์แรนต์ และออกหุ้นใหม่รองรับการใช้สิทธิจำนวนเท่ากัน อีกทั้ง ตั้งบริษัทย่อย 2 แห่งรุกธุรกิจประชาสัมพันธ์ เพื่้อความคล่องตัวในการให้บริการป้องกันความขัดแย้งในการรับงานจากลูกค้า

นางสาวกันยามาส มาลีถาวรกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน บริษัท 124 คอมมิวนิเคชั่นส จำกัด (มหาชน) (PR124 ) แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 5/2552 เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2552 ว่าบอร์ดอนุมัติการเปลี่ยนแปลงมูลค่าของหุ้นสามัญที่ตราไว้ (Par Value) จาก 1 บาทต่อหุ้น เป็น 0.10 บาทต่อหุ้น โดยทุนจดทะเบียนของบริษัทจะคงเดิมคือ 45 ล้านบาท โดยการแตกหุ้นสามัญของบริษัทจาก 45 ล้านหุ้น พาร์ละ 1 บาท เป็น 450 ล้านหุ้น พาร์ละ 0.10 บาท

หลังจากนั้นให้ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ (วอร์แรนต์ )ที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทครั้งที่ 1 ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท (Right Offering Warrants) 22,500,000 หน่วย (225,000,000 หน่วย หากได้รับการอนุมัติการเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้จากที่ประชุมผู้ถือหุ้น) ในอัตราส่วนหุ้นสามัญ 2 หุ้นต่อวอร์แรนต์ 1 หน่วย ในราคาเสนอขายที่ 0 บาท โดยกำหนดราคาใช้สิทธิของวอร์แรนต์ 2 บาทต่อหุ้น และจะเหลือ 0.20 บาทหลังปรับพาร์ใหม่แล้ว

นอกจากนี้บอร์ดยังอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 45 ล้านบาท เป็น 67.50 ล้านบาท โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของหุ้นสามัญ 22.50 ล้านบาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิของผู้ถือวอร์แรนต์ที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 1

นอกจากนี้บอร์ดยังให้จัดตั้ง 124 Communications Consulting Co., Ltd.เพื่อประกอบธุรกิจประชาสัมพันธ์ และบริษัท เวิร์กฮาร์ท จำกัด เพื่อประกอบธุรกิจสื่อโฆษณา ซึ่งทั้ง2บริษัทจะมีทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท จำนวน 5 ล้านหุ้น พาร์ละ 1 บาท และ PR124 จะถือหุ้น 100% ซึ่งการปรับโครงสร้างองค์กรสามารถให้บริการต่างๆ แก่ลูกค้าได้อย่างหลากหลาย มีความคล่องตัวในการให้บริการป้องกันความขัดแย้งและข้อจำกัดในการรับงานจากลูกค้าที่อาจเกิดขึ้น

กำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2552 ในวันที่ 2 ตุลาคม 2552 และกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1 / 2552 ในวันที่14 กันยายน 2552 และให้รวบรวมรายชื่อตาม ม.225 ของพรบ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์โดย วิธีปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 15 กันยายน 2552