ถาวร พรประภาเป็นคนชอบอ่าน หนังสือเล่มที่เขารักและสนใจมากที่สุด ตำราพิชัยสงครามของซุนวู
เขาสามารถประยุกต์สัจธรมที่ค้นพบจากหนังสือหลายเล่มนำมาปรับใช้ในการดำเนินชีวิตและดำเนินธุรกิจได้อย่างเหมาะเจาะ
"COCKTAIL SYSTEM" ระบบบริหารงานที่ไม่รู้จะอธิบายความหมายของมันอย่างไรดี
ก็เป็นผลพวงจากการอ่านหนังสือและเรียนรู้โลกอย่างเจนจบของถาวร ถึงระบบนี้จะไม่มีเรียนในตำราเอ็มบีเอ
แต่ก็เป็นสิ่งที่ถาวรฝังใจ ภาคภูมิใจ และยึดถือระบบนี้เป็นหลักในการบริหารมาช้านาน
เป็นเขาเพียงคนเดียวที่ทำได้ในโลกนี้!!!
"อาคิดขึ้นมาเอง ไม่มีที่ไหนในโลก บางทีอาอาจจะเขียนเป็นหนังสือ"
ถาวรหรือคนที่ชอบเรียกตัวเองว่า "อา" กล่าวด้วยความยิ้มย่องในความคิดที่แสนฉลาดปราดเปรื่องของตน
ถ้าคนที่ไม่รู้จักเขาดีอาจจะบอกว่า "ถาวรสุดยอดของการเล่นลิ้นอีกแล้ว
ระบบอะไรหวาพิลึกพิลั่น นี่มันแก้ตัวน้ำขุ่น ๆ กันนี่" แต่คนใกล้ชิดเขาหลายคนบอกกับ
"ผู้จัดการ" ว่า ถาวรใช้ระบบนี้ชี้นำการปฏิบัติมาแล้วหลายสิบปี
ก่อนหน้านี้เขาเรียกขานมันว่า "COCKTAIL PARTY"
"COCKTAIL PARTY" หรือระบบที่นักข่าว "ผู้จัดการ"
คนหนึ่งให้ข้อสรุปกระชับรัดกับมันว่า "มันก็ระบบคนโน้นจิ้มที คนนั้นจิ้มทีมั่วกันไปเรื่อย
หรือไม่ก็เปลี่ยนแนวคิดไม่หยุดหย่อน" นั้นถ้าจะอรรถาธิบายกันจะๆ คงบอกได้ว่า
พื้นฐานที่มาของระบบนี้เกิดจากการผสมผสานของระบบบริหารงาน 4 ระบบ คือจีน
ญี่ปุ่น อเมริกัน และแบบไทย ๆ
หลักญี่ปุ่นที่ถาวรนำมาใช้ก็คือ การประชุม มีปัญหาข้อถกเถียงก็ให้ยุติกันในที่ประชุม
ห้ามไม่ให้นำข้อขัดแย้งใด ๆ ว่ากล่าวกันออกไป ระบบนี้ใช้ได้ผลมากเท่าไรนั้น
นุกูล-พรทิพย์-ปรีชา น่าที่จะให้คำตอบได้ดีที่สุด???
สิ่งหนึ่งที่ตกสะเก็ดมาจากการบริหารงานแบบญี่ปุ่นที่ถาวรนำมาใช้คือ การสืบค้นลงลึกถึงรายละเอียดที่น่าสนใจทุกแง่มุมไม่ว่าวันเวลาจะฉุดกระชากลากถูความเป็นหนุ่มให้หลุดลอยจากเขาไปทุกวี่วัน
ทว่าชาติมังกรรายนี้ยังคงสัมผัส DETAIL อันเป็นวัตรปฏิบัติที่ไม่เคยเสื่อมถอย
"โธ่! ใครว่าแกยินยอมมอบอำนาจให้นุกูลเต็มที่ จริง ๆ แล้วแกยังไปทำงานสั่งงานที่บริษัททุกวัน
หลายเรื่องที่ต้องให้แกมีส่วนร่วมตัดสินใจ และที่แกร้ายกว่าญี่ปุ่นก็คือ
ในญี่ปุ่นนั้นคนที่เป็น PRESIDENT อาจลงไปดู DETAIL จริงแต่ไม่สั่ง ผิดกับคุณถาวรแกสั่งเหมือนเจ๊กเจ้าของโรงงานอะไรเทือกนั้น"
คนที่รู้จักเขาดีวิจารณ์
มีเรื่องเล่าตลกเรื่องหนึ่งว่าวันหนึ่งถาวรมีกิจธุระที่มาบุญครองตอนบ่ายโมง
เผอิญแกเหลือบไปเห็นลูกน้องคนหนึ่งยังเอ้อระเหยลอยชายไม่ยอมกลับเข้าไปทำงาน
ปรากฏว่าถาวรรีบบึ่งไปเรียกฝ่ายบุคคลมาเฉ่งทันควัน ซึ่งสร้างความงุนงงแก่คนที่ถูกหวย
(ร้าย) โดยไม่รู้เรื่องเป็นอย่างมาก "แกทำราวกับว่าสยามกลการเป็นองค์กรขนาดเล็ก
อย่างเรื่องนี้ควรเรียกผู้บังคับบัญชาชองลูกน้องคนนั้นมาบอกกล่าวถึงจะถูก"
คนในสยามกลการเล่าให้ฟัง
หลักอเมริกันที่ถาวรนำมาผสมผสานเข้ากับ COCKTAIL SYSTEM" ของเขาก็คือการที่พยายามจะมอบอำนาจตัดสินใจในงานหนึ่ง
ๆ ให้คนใดคนหนึ่งรับผิดชอบ มีการทำ JOB DESCRIPTION แต่ก็เป็นเรื่องตลกอีกแหละว่า
พอทำไปได้ไม่เท่าไรถาวรกลับนึกสนุกดึงงานนั้นกลับมาบรรเลงต่อเสียเองทั้งนี้ทั้งนั้นด้วยความไม่เชื่อมั่นในตัวลูกน้องแต่ละคน
ภาพสะท้อนแจ่มชัดของหลักอเมริกันนี้กรณีของนุกูลคงให้ภาพดีที่สุด นุกูลนั้นถูกเชื้อเชิญให้เข้าไปรับตำแหน่งประธานกรรมการแลประธานกรรมการบริหารสยามกลการ
โดยที่ถาวรบอกว่าเขาจะให้นุกูล FREE HAND มีอิสระที่จะผ่าตัดส่วนที่สึกหรอของบริษัทได้อย่างเต็มที่
ไม่ผิดอะไรกับที่ ลีไอ อาคอคคา เข้าไปกอบกู้กิจการไครส์เลอร์อย่างไรอย่างนั้น
ถาวรประกาศอย่างหนักแน่นว่า เขาพร้อมแล้วที่จะล้างมือในอ่างทองคำ!!
แรก ๆ ที่นุกูลเข้าไปสัมผัสก็ดูราบรื่นดีราวกับว่าเขาและถาวรกำลังอยู่ในช่วงฮันนีมูน
แล้วสไตล์เก่า ๆ ของถาวรก็หวนกลับมาอีกแบบไม่มีใครรู้เนื้อรู้ตัว หลายเรื่องในระยะหลัง
ๆ ถาวรทำตัวเองแบ ONE MAN SHOW
มันก็อย่างนั้นแหละ ที่สุดคนอย่างเขาก็หนีไม่พ้นที่จะล้างมือในอ่างน้ำมันเครื่องที่มีคราบน้ำมันติดมาเกรอะกรัง!!
ภาวะอย่างนี้เคยเกิดขึ้นแล้วในอดีตที่มูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์เคยเข้ามาวางระบการทำงานสมัยใหม่ให้กับสยามกลการ
ช่วงที่ตัวแทนของมูลนิธิฯ ยังอยู่ ถาวรก็เออออห่อหมกไปเสียทุกเรื่อง แต่พอเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ
กลับไป ถาวรก็กลับมาใช้สไตล์เดิม
ไม่มีใครปฏิเสธว่า คุณูปการที่ถาวร พรประภา สร้างสมมาเป็นเวลายาวนานกว่า
34 ปีนั้น เป็นสิ่งที่ไม่อาจเกิดขึ้นได้ง่าย ๆ เลยถ้าผู้บุกเบิก (PIONEER)
จะไม่มีสติปัญญาหลักแหลมเฉกเช่นถาวร พรประภา
แต่อนาคตของสยามพรประภาที่ถาวรกำลังส่งมอบต่อให้ทายาทรุ่นที่ 2 รับไปจัดการต่อโดยที่เขายังนั่งปักหลักเป็นหัวขบวนกลาย
ๆ ที่ติดยึดกับ COCKTAIL SYSTEM ไม่เปลี่ยนแปลง
บางทีไม่แน่ว่า HARVARD อาจต้องมาขอศึกษาระบบบริหารงานของถาวรก็เป็นได้