Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ เมษายน 2531








 
นิตยสารผู้จัดการ เมษายน 2531
สมชาย กิติพราภรณ์ บนเส้นทางความสับสน             
 


   
search resources

สยามจัสโก้
สมชาย กิตติพราหมณ์
Shopping Centers and Department store




ถ้ามีใครสักคนมาบอกว่า "ฮอลลีวู้ด" โรงภาพยนต์ชั้นหนึ่งริมถนนเพชรบุรีกำลังจะถูกทุบทิ้ง เพื่อสร้างเป็น "ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์" และอาคารพาณิชย์ขึ้นแทนที่ เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงไม่เพียงรู้สึกประหลาดใจ แต่อาจยังรู้สึกเสียดายโรงภายนตร์เก่าแก่ที่นำความบันเทิงสนกสนานมาสู่ทุก ๆ คนตลอดกว่าสิบปีที่ผ่านมาอยู่ไม่น้อย

เช่นเดียวกับการกล่าวถึง "สมชาย กิตติพราหมณ์" เจ้าของโครงการมูลค่าร้อยกว่าล้านนี้ ถึงแม้จะมีคนเคยได้ยินชื่อของเขามาบ้างจากโครงการหลายโครงการ แต่ก็มีคนอีกมากหลายเช่นกันที่จะต้องคิดว่าคนนี้เป็นใครและกำลังจะทำอะไรกันแน่?

สมชายจบมัธยมศึกษาปีที่ 1 จากเซนต์คาเบรียล ไปศึกษาต่อชั้นมัธยมทั่วไปที่ MONTFORD HIGHSCHOOL ประเทศอินเดียจนจบไฮสกูล ต่อจากนั้นก็ไปศึกษาด้านการบริหารโรงแรมที่ ECOLE HOTELLIRIE ET DE GILON สวิตเซอร์แลนด์ ย้ายไปศึกษาต่อด้าน ENGINEER ที่เยอรมัน ก่อนที่จะมาเรียนเพิ่มเติมอีกที่ OKLAHOMA เป็นเวลา 3 ปี

เริ่มงานครั้งแรกเมื่อครั้งที่เขาเรียนจบที่เยอรมัน ในโรงงาน RHIN KALT FACTORY ทำอยู่ไม่ถึงปีก็เปลี่ยนงาน ไปทำด้านโรงแรม REGINA HOTEL ในสวิตเซอร์แลนด์อยู่ระยะหนึ่งก่อนกลับประเทศไทย

กับวงการธุรกิจในเมืองไทย สมชายเริ่มจับงานด้านโรงภาพยนตร์ทั้งฮอลลีวู้ด พาราเม้าท์ และโคลีเซี่ยม เมื่อวิดีโอเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ทำให้กิจการด้านโรงภาพยนตร์ช่วงหนึ่งซบเซาลง สมชายจึงต้องหาหนทางใหม่

คราวนี้เขาทำการศึกษาธุรกิจทางด้านห้างสรรพสินค้า เพราะเขามองว่าภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันและอนาคต กิจการค้าเกี่ยวกับห้างสรรพสินค้าน่าจะไปได้ดี สมชายเริ่มศึกษาด้วยการบินไปดูงานของห้างสรรพสินค้าจัสโก้ที่ญี่ปุ่น

สมชายใช้เวลาอยู่ที่ญี่ปุ่นนานพอสมควร ยิ่งตอนนั้นห้างสรรพสินค้าเกิดขึ้นมากมายราวดอกเห็ด แต่สมชายก็ไม่กลัว เพราะเขานึกว่ายังไง ๆ เค้กก้อนนี้เขาตัดแบ่งมาสักชิ้นคงไม่เป็นไร จึงตั้งห้างสรรพสินค้าของเขาเองชื่อ "สยามจัสโก้" ขึ้นย่านถนนรัชดาภิเษก

สยามจัสโก้ในระยะเริ่มแรกอาจกล่าวได้ว่า เป็นห้างสรรพสินค้าที่ "อหังการ" ที่สุดในหมู่ห้างสรรพสินค้าที่เปิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ เพราะขยายสาขาเกือบพร้อม ๆ กัน ในระยะเวลาที่ไล่เลี่ยกันถึงสองสาขา ซึ่งตัวสมชายเองภูมิใจหนักหนาในช่วงเวลานั้น

"แต่เขาก็ต้องหันมาปรับตัวอีกมากเหมือนกัน ตั้งแต่มีข่าวว่าแถวสยามจัสโก้เป็นที่ที่จอดรถทิ้งไว้แล้วหายมากที่สุด" แหล่งข่าวที่รู้เรื่องดีบอกกับ "ผู้จัดการ" ถึงปัญหาของสยามจัสโก้ที่ช่วงหนึ่งยอดขายตกลงฮวบฮาบ

ด้วยความที่เขายังเป็นคนหนุ่ม และไม่ยอมแพ้อะไรง่าย ๆ ครั้งนี้เขาจึงคิดจะสร้าง "ฮอลลีวู้ด สตรีท" ขึ้นมาอีกโครงการหนึ่งบนพื้นที่ที่เป็นโรงหนังฮอลลีวู้ดปัจจุบัน

"เขาต้องการให้โครงการของเขาเป็นเสมือนช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ที่มีชื่อเสียงหลายแห่งมารวมกันทั้ง SAK FIFTH AVENUE ในอเมริกา CHAMPS ELYSEES ของฝรั่งเศส OXFORD STREET ในอังกฤษ รวมทั้ง VIA VENETO ในอิตาลี และ HARAJUKU ในญี่ปุ่นด้วย"

ความคิดของเขาแม้จะเป็นที่ยอมรับว่า มันน่าเป็นไปได้ที่จะสร้างอาคารพาณิชย์และป้อปปิ้งเซ็นเตอร์ขึ้นมาแทนที่โรงภาพยนตร์ที่เขาคิดว่ากิจการนี้กำลังจะแย่ลง แต่เอาเข้าจริง ๆ ความคิดของเขาเองก็ไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอยมากนัก

นั่นเนื่องจากในครั้งแรกที่สมชายเปิดตัวโครงการ "ฮอลลีวู้ด สตรีท" ของเขาจะเป็น "ศูนย์ค้าผ้าและบูติก" เพื่อการส่งออกที่ทันสมัยและสมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย จะมีสำนักงานจัดซื้อของบริษัทต่างประเทศอยู่ในโครงการ มีสำนักข่าวสารสำหรับการส่งออกเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าภายในและต่างประเทศที่จะมารับซื้อ ฯลฯ

ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าแตกต่างอย่างมากกับแผนงานโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่จัดขึ้นในงานเลี้ยงขอบคุณลูกค้า และสื่อมวลชนที่โรงแรมเอเชีย เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิง

ที่ "ฮอลลีวู้ด สตรีท" ในงานนี้กลับกลายเป็น "ช้อปปิ้ง สตรีท" เป็นศูนย์การค้าที่เป็นแหล่งรวมของสินค้าที่มีคุณภาพและเปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง

"ตอนนี้แผนที่จะทุบฮอลลีวู้ดทิ้งนี้ก็จะเริ่มกันจริงจังเร็ว ๆ นี้แต่ก็ยังมีการถกเถียงกันว่าโครงสร้างภายในจะทำยังไงกันแน่ เพราะถ้าจะเอาตามแบบที่คิดไว้ทั้งหมดมันไม่ใช่เรื่องง่ายหรือพูดให้ชัด ๆ ก็เป็นไปไม่ได้เลยดีกว่า" แหล่งข่าวที่รู้เรื่องดีบอก "ผู้จัดการ"

วันนี้ สมชาย กิตติพราภรณ์ อาจเป็นผู้บริหารหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังจะประสบความสำเร็จกับโครงการใหม่ที่เขาบอกว่า มีคนให้ความสนใจและจับจองเป็นเจ้าของมามากกว่า 80% แล้ว แต่โดยนัยกลับกันก็ไม่แน่ว่าถ้าเขาไม่สามารถค้นพบและวางแนวทางที่ถูกต้องให้แก่งานของเขา โครงการนี้ก็อาจมีสภาพเหมือนโรงหนังที่ถูกทุบทิ้งหาคุณค่าอะไรไม่ได้เลยเช่นกัน

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us