บิ๊กซีเดินแคมเปญทางการเงิน กระตุ้นการจับจ่ายสินค้าชิ้นใหญ่ที่มีราคาแพง หลังผู้บริโภคใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง ซื้อแต่ของจำเป็น เลื่อนการซื้อของชิ้นใหญ่ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือเฟอร์นิเจอร์ ยอดโตลดลง ประกอบกับไม่มีมหกรรมกีฬาระดับโลก ทำตลาดทีวีซบ
สภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวส่งผลให้ผู้บริโภคชะลอการใช้จ่ายหรือใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น กระทบไปถึงบรรดาดิสเคานต์สโตร์ที่ต้องทำแคมเปญด้านราคามากขึ้น ควบคู่ไปกับการเพิ่มบริการใหม่ๆ ที่ตอบสนองความต้องการในชีวิตประจำวันเพื่อดึงดูดให้ผู้บริโภคเข้ามาใช้บริการในห้างมากขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้เทสโก้ โลตัส มีการทำแคมเปญ โรลแบ็ครอบใหม่ พร้อมกับการทำแคมเปญซูเปอร์เซฟ โดยแคมเปญโรลแบ็คเป็นการทำโปรโมชั่นระยะยาวจะมีการลดราคาสินค้ากว่า 800 รายการลงอีก 7.6% ซึ่งมากกว่าครั้งก่อนที่ลด 7% ส่วนแคมเปญซูเปอร์เซฟ จะเป็นการทำโปรโมชั่นเป็นช่วงเวลาหมุนเวียนแต่ละเดือนเพื่อดึงดูดให้ลูกค้าแวะมาใช้บริการที่เทสโก้ โลตัส สม่ำเสมอ
ในขณะที่บิ๊กซี ยังพยายามสร้างทราฟฟิกใหม่ๆ ด้วยการร่วมกับกระทรวงมหาดไทยในการจัดทำโครงการ 'หน่วยบิ๊กซีสร้างรอยยิ้ม' โดยมอบพื้นที่ในห้างเพื่อให้ทางราชการพัฒนาเป็นจุดบริการประชาชนในรูปแบบศูนย์ราชการเคลื่อนที่ภายใต้ชื่อ 'อำเภอยิ้ม' ซึ่งปัจจุบันมี 10 แห่งและจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยจะเน้นในสาขาต่างจังหวัด เนื่องจากการเดินทางจากหมู่บ้านไปหน่วยราชการบางแห่งมีระยะทางไกลและเดินทางลำบาก ซึ่งจะทำให้บิ๊กซีมีแม่เหล็กในการดึงดูดลูกค้าเพิ่มขึ้น ทำให้สามารถชิงแชร์ฐานลูกค้าจากเทสโก้ โลตัส ที่มีการทำธุรกิจ บิล เพย์เมนต์ หรือบริการรับชำระค่าสาธารณูปโภค ซึ่งปรกติคิดค่าธรรมเนียมเพียง 5 บาท ต่ำกว่าท้องตลาดที่คิดค่าธรรมเนียม 10-15 บาท ทำให้ผู้บริโภคหันมาใช้บริการในเทสโก้ โลตัส มากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาสามารถกระตุ้นยอดขายในส่วนของสินค้าที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวันได้มากขึ้น
ทว่าในส่วนของสินค้าชิ้นใหญ่หรือสินค้าที่ไม่ได้มีความจำเป็นเร่งด่วนกลับมียอดขายที่ลดลง แต่เนื่องจากเป็นสินค้าที่สร้างมาร์จิ้นหรือมีสัดส่วนกำไรสูง ดังนั้น ทางบิ๊กซี และเทสโก้ โลตัส จึงพยายามทำแคมเปญเงินผ่อนเพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อสินค้าชิ้นใหญ่ให้มากขึ้น ล่าสุดบิ๊กซีมีการทำโครงการผ่อนสั้นผ่อนยาวให้ลูกค้าเลือกผ่อนซื้อสินค้าในอัตราดอกเบี้ย 0% ได้นานถึง 12 เดือน หรือจะเลือกผ่อนระยะยาวได้นานถึง 48 เดือน ด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำไม่ถึง 0.5% โดยเน้นสินค้าที่มีราคาไม่ต่ำกว่า 3,000 บาท โดยสินค้าชิ้นใหญ่เหล่านี้สามารถสร้างรายได้ให้บิ๊กซีคิดเป็นสัดส่วน 20-25% ของยอดขายบิ๊กซีทั้งหมด ส่วนรายได้จากเงินผ่อนคิดเป็นสัดส่วน 30% ของยอดขายบิ๊กซี ซึ่งต่ำกว่า 2 ปีที่แล้วที่มีสัดส่วนสูงถึง 40% เนื่องจากการเข้มงวดของผู้ให้บริการระบบเงินผ่อนเพื่อป้องกันหนี้สูญที่เกิดจากการไม่ชำระหนี้ของลูกค้า
'Big Ticket Item หรือสินค้าที่มีราคาตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไป เติบโตช้าลงในช่วงนี้ ซึ่งนอกจากเรื่องเศรษฐกิจแล้วยังมีปัจจัยเรื่องซีซันนัลต่างๆ เพราะปีนี้ไม่มีมหกรรมกีฬาใหญ่ๆ ที่จะมากระตุ้นตลาดทีวีได้ สิ่งที่ช่วยได้คือการทำแคมเปญเงินผ่อน 0% ซึ่งเราพยายามหาโปรโมชั่นเพื่อเพิ่มยอดขายสินค้าที่มีมูลค่าสูง ผู้บริโภคบางคนยังไม่ตัดสินใจซื้อหากต้องผ่อนเกิน 1,000 บาทต่อเดือน เราก็มีการทำแคมเปญเงินผ่อนให้ยาวขึ้น แต่ลูกค้าอาจจะต้องเสียดอกเบี้ย 0.49%' จริยา จิราธิวัฒน์ รองประธานฝ่ายการตลาดและการสื่อสาร บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ กล่าว
ในขณะที่เทสโก้ โลตัส ก็มีการทำแคมเปญเงินผ่อนโดยสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีราคาตั้งแต่ 1,200 บาทขึ้นไปสามารถผ่อน 0% นาน 10-36 เดือน แล้วแต่เงื่อนไขของสินค้าแต่ละรายการ ยกเว้นสินค้าไอทีอย่างโทรศัพท์มือถือและกล้องดิจิตอล คิดดอกเบี้ย 0.49% ผ่อนนาน 10-24 เดือน ส่วนทีวีราคา 3,000 บาทขึ้นไปสามารถผ่อนได้นาน 48 เดือน โดยอัตราดอกเบี้ยเหล่านี้เป็นอัตราดอกเบี้ยที่คิดต่อเดือน
นอกจากนี้ลูกค้าที่ชอปผ่านบัตรเครดิต เทสโก้ วีซ่า ซึ่งจะคืนเงิน 2% กลับสู่ลูกค้าผ่านแต้มสะสมที่นำมาใช้เป็นส่วนลดตามเงื่อนไข ตลอดจนการทำ Cross Promotion ร่วมกับพันธมิตรนอกห้าง เพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ถือบัตร เป็นการดึงดูดฐานลูกค้าของพันธมิตรให้สมัครบัตรเครดิตเทสโก้ วีซ่า และมาใช้บริการในเทสโก้ โลตัส มากขึ้น และถี่ขึ้น ทั้งนี้ที่ผ่านมาเทสโก้ โลตัส พยายามยกระดับแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้าและไอทีให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ด้วยการนำเครื่องทดลองให้ผู้บริโภคได้สัมผัสของจริงก่อนตัดสินใจซื้อ ซึ่งก่อนหน้านี้ สินค้าตัวอย่างที่โชว์มักเป็นเดโมที่ไม่สามารถทดลองใช้งานได้จริง
อย่างไรก็ดี นอกจากบิ๊กซีจะพยายามสร้างยอดสินค้าชิ้นใหญ่แล้ว ในส่วนของสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ก็จะมีการทำแคมเปญ 1 แถม 1 มากขึ้น เนื่องจากเป็นแคมเปญที่ผู้บริโภคให้การตอบรับดีเนื่องจากมีความคุ้มค่า แต่หากเป็นสินค้าที่มีราคา 1,000 บาทขึ้นไปหรือเป็นสินค้าที่ผู้บริโภคไม่ได้ใช้บ่อยก็จะใช้แคมเปญลดราคา 50% ในการกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภค ควบคู่ไปกับการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าภายใต้แคมเปญ 'บิ๊กซีจัดให้' ซึ่งประกอบด้วย การยึดราคาตามป้ายหากราคาที่เครื่องแคชเชียร์ไม่ตรงกับที่ติดป้าย การรับประกันคืนได้หากไม่พอใจ และชำระเงินไม่ต้องรอ รับรองไม่เกิน 2 คิว นอกจากนี้ยังมีการทำโปรโมชั่นแบรนด์สินค้าชั้นนำในรายการ 'ฟันราคา-Brand Fair' โดยมีสินค้าแบรนด์ดังร่วมรายการกว่าพันรายการ
ในขณะที่เทสโก้ โลตัส สร้างความพึงพอใจให้กับผู้บริโภคด้วยการขยายเวลาการเปิดจากเดิมที่เปิด 09.00 น. เปลี่ยนเป็นเปิด 07.00 น. ใน 30 สาขาที่อยู่ในย่านชุมชนใหญ่ ขณะที่เวลาปิดยังคงอยู่ที่ 23.00 น.
นอกจากการทำ Financial Service และ Customer Satisfaction แล้ว บิ๊กซี ยังมีการทำกลยุทธ์ Private Label และการทำ Loyalty Program โดยบิ๊กซี ทุ่มงบ 20 ล้านบาท พัฒนาสินค้าเฮาส์แบรนด์ ซึ่งในช่วงต้นปีได้เปิดตัวเฮาส์แบรนด์ใหม่ 'แฮปปี้บาท' ในกลุ่มสินค้าประเภทของใช้ อาหารแห้ง อาหารสด ภายใต้แนวคิด ราคาประหยัดมากขึ้น ปัจจุบันบิ๊กซีมีไพรเวตเลเบล 1,300 รายการ เป็นแบรนด์บิ๊กซี 1,000 รายการ แบรนด์แฮปปี้บาท 300 รายการ โดยโพซิชันนิ่งของ แฮปปี้บาท คือเน้นราคาถูกกว่าท้องตลาด 25% ขณะที่แบรนด์บิ๊กซี เน้นคุณภาพ ในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด 15% ล่าสุดบิ๊กซีเตรียมที่จะยกระดับเฮาส์แบรนด์ให้มีคุณภาพเท่าพรีเมียมแบรนด์โดยมีราคาถูกกว่า 15% ซึ่งปัจจุบันใช้ชื่อแบรนด์บิ๊กซี แต่ในอนาคตอาจมีการเปลี่ยนชื่อเพื่อสร้างความแตกต่างให้ชัดเจน ทั้งนี้ที่ผ่านมาแบรนด์บิ๊กซีสามารถสร้างการเติบโตได้ 80-90%
ส่วนลอยัลตี้โปรแกรม มีการทำบัตรสมาชิกบิ๊กซี 2 แบบคือ บัตรช้อปโทรฟรี และบัตรบิ๊กซีโบนัส ซึ่งจะมีการสื่อสารแบบไดเรกต์มาร์เกตติ้งไปสู่กลุ่มสมาชิก โดยมีการทำการตลาดแบบ 1:1 Marketing โดยเสนอโปรโมชั่นที่สอดคล้องกับพฤติกรรมของสมาชิกแต่ละราย โดยปัจจุบันบิ๊กซีมีฐานสมาชิกกว่า 2 ล้านราย สร้างรายได้ให้กับบิ๊กซีคิดเป็นสัดส่วน 30% และคาดว่าในอีก 2-3 ปีสัดส่วนรายได้จากลูกค้าที่เป็นสมาชิกจะมีมากกว่า 50% ซึ่งคาดว่า ณ จุดดังกล่าวจะมีฐานสมาชิกไม่ต่ำกว่า 4 ล้านราย สำหรับเป้าสมาชิกในปีนี้ บิ๊กซี ตั้งเป้าเพิ่มอีก 20% หรือคิดเป็นจำนวนสมาชิก 2.2 ล้านราย ล่าสุดมีการพัฒนาระบบไอทีเพื่อทำ e-Ticket ซึ่งจะถูกพัฒนาให้ใช้ร่วมกับลอยัลตี้โปรแกรมในอนาคต ปัจจุบันลูกค้ามีการจับจ่ายที่บิ๊กซีครั้งละ 550 บาท แต่หากเป็นสมาชิกอาจมีการใช้จ่ายมากกว่าเป็นเท่าตัว
สมรภูมิรบมิได้มีเพียงแค่ไฮเปอร์มาร์เกตขนาดใหญ่เท่านั้น เพราะเทสโก้ โลตัส มีทั้ง โลตัส เอ็กซ์เพรส ซึ่งเป็นคอนวีเนียนสโตร์ ตลาดโลตัสเป็นมินิซูเปอร์มาร์เกต และร้านคุ้มค่าเน้นสินค้าเฮาส์แบรนด์ราคาถูกขายในต่างจังหวัด ขณะที่บิ๊กซีมีการทำคอนวีเนียนสโตร์ภายใต้ชื่อมินิบิ๊กซี ซึ่งปัจจุบันมี 10 สาขา และร้าน PURE อีก 7 สาขา เป็นร้านเวชสำอาง ซึ่งบิ๊กซีจะเปิดเผยนโยบายในการพัฒนาร้านค้าเหล่านี้ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้
|