Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์17 สิงหาคม 2552
เปิดเรดาร์แบงก์เล็ก-ใหญ่ มีกำไร-เตรียมจ่ายปันผลระหว่างกาล             
 


   
search resources

Banking and Finance




หุ้นกลุ่มแบงก์เตรียมพาเรดจ่ายปันผลระหว่างกาล แม้ธรุกิจจะไม่ดีเท่าปีก่อนแต่ยังมั่นใจรากฐานยังแข็งแรง มองสินเชื่อปลายปีมีโอกาสขยายตัวได้อีก

ธนัท รังษีธนานนท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์(บล.) กรุงศรีอยุธยา คาดว่า ในปีนี้ธนาคารที่จะมีการจ่ายเงินปันผลกลางปีมี BBL ที่คาดว่าจะจ่ายในอัตราหุ้นละ 1 บาท และ ธนาคารกสิกรไทย(KBANK) ในอัตราหุ้นละ 0.50 บาท เท่ากับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วน ธนาคารธนชาต(TCAP) จ่ายเงินปันผลอัตรา 1 บาท เพิ่มขึ้นจากการจ่ายปันผลปีที่ผ่านมาจ่ายอัตรา 0.90 บาทต่อหุ้น และธนาคารทิสโก้(TISCO) จ่ายเงินปันผลอัตรา 1 บาทเท่ากับปีที่ผ่านมาเช่นกัน

"การจ่ายเงินปันผลปีนี้น่าจะใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา แม้อัตราปันผลตอบแทนของ TISCOอยู่ที่ 5.2% และ TCAP อยู่ที่ 7.4% ลดลงจากปีที่ผ่านมาเฉลี่ยที่ 10% แต่ก็ยังเชื่อว่าจะมีนักลงทุนเข้ามาเก็งกำไร เพื่อหวังเงินปันผลตอบแทน เพราะมีอัตราผลตอบแทนมากกว่าการฝากเงินไว้กับแบงก์"

ขณะที่วรวัฒน์ สายสุพัฒน์ผล ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. เคจีไอ(ประเทศไทย) มองว่า ธนาคารพาณิชย์ที่คาดว่าจะจ่ายเงินปันผลหุ้นสามัญระหว่างกาลจากเงินกำไรของผลประกอบการงวดครึ่งปีแรก ของปี 2552 คือ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ในอัตราหุ้นละ 0.75-1 บาท หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทน 0.89%, KBANK จะจ่าย 0.40-0.50 บาท คิดเป็น 0.73% , ธนาคารกรุงศรีอยุธยา(BAY) 0.50 บาท คิดเป็น 2.8% และ TCAP จำนวน 0.30บาท คิดเป็นผลตอบแทน 2.2% ซึ่งคาดว่าจะมีการจ่ายเงินปันผล ในช่วงเดือน กันยายนของปีนี้

"แนวโน้มการจ่ายเงินปันผลกลางปีนี้ คาดว่าจะน้อยกว่าหรือจ่ายในระดับที่ใกล้เคียงกับปีก่อน เนื่องจากผลกำไรของหลายธนาคารในช่วงครึ่งปีแรกปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนธนาคารธนชาตที่มีผลกำไรในครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนนั้น เกิดจากมีกำไรพิเศษ ดังนั้นเชื่อว่าการจ่ายเงินปันผลอาจไม่ได้นำกำไรพิเศษมาคิดรวมด้วย"

โดยบริษัทยังมีมุมมองเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มแบงก์ ทั้ง KBANK BBL BAY และ TCAP โดยในช่วงครึ่งหลังของปี 2552 คาดว่าความต้องการสินเชื่อจะเพิ่มขึ้นตามฤดูกาล และการกู้ยืมจากรัฐบาลจะเพิ่ม ดังนั้นจึงคงเป้าอัตราการขยายตัวของสินเชื่อในปี 2552 ของกลุ่มแบงก์ในปีนี้ไว้ที่ 2% ด้าน BAY จะเห็นได้ว่าในไตรมาส 2/2552 รายงานอัตราการขยายตัวของสินเชื่อสูงสุดเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน จากการซื้อกิจการของ AIG Retail Bank and Card ที่มีสินเชื่อ 2.1 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้แนะนำซื้อหุ้น KBANK ในราคาเป้าหมาย 85 บาท, BBL ราคาเป้าหมายที่ 127 บาท ,BAY ราคา 17 บาท และ TCAP ที่ราคา 10.70 บาท

ด้าน สุกัญญา อุดมวรนันท์ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. กิมเอ็ง(ประเทศไทย) ประเมินว่า แนวโน้มการจ่ายเงินปันผลงวดระหว่างกาลของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ในปี 52ปรับตัวลดลงจากปี 2551 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มชะลอตัวนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาส่งผลให้กำไรสุทธิในช่วงครึ่งปีแรกของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

คาดว่า BBL จ่ายปันผลงวดระหว่างกาลปี 2551 อัตรา 1 บาทต่อหุ้น, KBANK จ่าย 0.50บาทต่อหุ้น ส่วน TCAP มีโอกาสที่จะจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไม่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมาที่จ่ายอัตรา 0.30 บาทต่อหุ้น และเป็นบริษัทเดียวที่จ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้น โดยทั้งปีคาดว่าจะจ่ายปันผลอัตรา 1.20 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่จ่ายอัตรา 0.60 บาทต่อหุ้น เพราะเพราะบริษัทมีกำไรจากการขายหุ้นเข้ามาประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งมีโอกาสที่บริษัทจะนำกำไรที่ได้มาจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้น

"ส่วน TISCO ปีนี้จะเป็นครั้งแรกที่ธนาคารจะจ่ายเงินปันผลงวดระหว่างกาลในอัตรา0.50 บาทต่อหุ้น จากปีที่ผ่านจ่ายเพียงงวดเดียวในอัตรา 1 บาทต่อหุ้น เพราะจะมีผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิหมดอายุ เพราะฉะนั้นธนาคารจึงประกาศจ่ายเงินปันผลงวดระหว่างกาลออกมาก่อนส่วนการจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีหลังนั้น เราคาดว่าจะจ่ายลดลงจากครึ่งปีแรกเพราะมีความเป็นไปได้ที่ธนาคารจะเก็บเงินทุนเพื่อไปขยายกิจการในอนาคต โดยคาดว่าทั้งปีจะจ่ายปันผลอัตรา 0.90 บาท"

สำหรับการจ่ายเงินปันผลทั้งปีของกลุ่มธนาคารพาณิชย์คาดว่า ธนาคารจะจ่ายในอัตราที่เท่ากับปีที่ผ่านมา คือ BBL จ่ายปันผลในอัตรา 3 บาทต่อหุ้น, ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) จ่ายปันผลอัตรา 2 บาทต่อหุ้นและ KBANK จ่ายปันผลอัตรา 3 บาทต่อหุ้น แม้ว่าแนวโน้มกำไรสุทธิจะปรับตัวลดลงจากปีที่ผ่านมา แต่ทั้ง 3 ธนาคารจะยังมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้อัตราเท่าเดิม เพราะฐานการเงินและฐานธุรกิจค่อนข้างแข็งแกร่ง

โดยธนาคารกรุงไทย(KTB) จ่ายปันผลอัตรา 0.40 บาทต่อหุ้น ลดลงจากปีที่ผ่านมาที่จ่ายปันผลอัตรา 0.44 บาทต่อหุ้น แม้ว่าจะได้รับอนิสงส์จากการขอสินเชื่อจากภาครัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจ

แต่ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวก็ยังส่งผลให้กำไรสุทธิของธนาคารลดลง, ธนาคารนครหลวงไทย (SCIB) จ่ายปันผลอัตรา 0.60 บาทต่อหุ้น ลดลงจากปีที่ผ่านมาที่จ่ายปันผลอัตรา 0.70 บาทต่อหุ้น เพราะธนาคารมีกำไรที่ปรับตัวลดลง อีกทั้งค่าใช้จ่ายยังปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากการปรับปรุงองค์ใหม่   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us