|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เจมาร์ท เตรียมงบลงทุน 70 ล้านบาท ซื้อพอร์ตหนี้บริหารเพิ่มหลังพบธุรกิจเร่งรัดหนี้ดันกำไรโต เจียดงบลงทุน 20 ล้านบาทกระตุ้นยอดขาย JFONE ให้ได้ตามเป้า 5-7 หมื่นเครื่องในสิ้นปีนี้ ฟุ้งปี 52 กำไรสูงกว่าปี 51 เหตุธุรกิจเติบโตดี
นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจมาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจปีนี้จะสามารถทำกำไรสุทธิได้เติบโตกว่าปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 97 ล้านบาท โดยมาจากทั้ง3 ธุรกิจ บริษัทที่ยังคงเติบโตและสร้างรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วยธุรกิจจัดจำหน่ายโทศศัพท์มือถือ ธุรกิจการบริหารพื้นที่ค้าปลีก ธุรกิจติดตามเร่งรัดหนี้สิน และในส่วนของยอดขายคาดว่าจะเติบโตขึ้น 10% จาก 5.5 พันล้านบาท
ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้หลักของบริษัทมาจากธุรกิจการขายเครื่องโทรศัพท์มือถือ 90% อีก 5% มาจากธุรกิจการบริหารพื้นที่ค้าปลีกและที่เหลือ 5% เป็นธุรกิจการติดตามหนี้สิน ซึ่งปัจจุบันบริษัทบริหารพอร์ตหนี้สิน 3.3 พันล้านบาท และมีแผนจะเพิ่มเป็น 4.5 พันล้านบาทสิ้นปีนี้ โดยจะใช้เงินลงทุน60-70 ล้านบาท เพื่อซื้อพอร์ตหนี้เข้ามาเพิ่มเติม เนื่องจากเห็นว่าธุรกิจติดตามหนี้เป็นธุรกิจที่ผลักดันให้บริษัทมีอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิที่สูงขึ้นมากกว่าธุรกิจอื่นที่ดำเนินการอยู่ ซึ่งบริษัทมีความพร้อมด้านนี้อย่างดี
โดยครึ่งหลังปีนี้มีแผนจะใช้งบลงทุนด้านการตลาดอีก 20 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นยอดขายโทรศัพท์มือถือ JFONE ให้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ 5-7 หมื่นเครื่องภายในสิ้นปี จากปัจจุบันมียอดขายที่ 2 หมื่นเครื่อง และตั้งเป้าสัดส่วนยอดขาย JFONE ของพอร์ตรวมของยอดขายมือถือให้เพิ่มเป็น 30% ในปีนี้ จากเดิมอยู่ที่ 15% คาดสิ้นปีจะมียอดขายโทรศัพท์มือถือ JFONE อย่างน้อย 3.6 หมื่นเครื่องจากยอดขายรวมที่ 1.2 แสนเครื่อง โดยมีมาร์เก็ตแชร์ในอุตสาหกรรมรวมอยู่ที่ 10% ใกล้เคียงกับปัจจุบัน ขณะมีอัตรากำไรขั้นต้นจากธุรกิจโทรศัพท์มือถือแบรนด์ต่างประเทศอยู่ที่ 10% ส่วนเฮ้าส์แบรนด์ "เจโฟน"มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 25%
" ครึ่งปีที่ผ่านมาถ้าจะพูดถึงผลกระทบที่ได้รับจากวิกฤตที่เกิดขึ้น ในธุรกิจเราก็มีผลกระทบกับกำลังซื้ออยู่บ้างช่วงเดือนเม.ย.แต่หลังจากนั้นเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น เราคาดว่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และจะมีกำไรสุทธิสูงกว่าปีก่อนจากธุรกิจ 3G ที่กำลังจะเข้ามาก็จะเป็นตัวกระตุ้นผู้บริโภคได้" นายอดิศักดิ์ กล่าว
นอกจากนี้บริษัทยังได้รับการบริหารพื้นที่ IT Junction ตามห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี โดยได้บริหารพื้นที่เช่า 24 สาขาของบิ๊กซี, 2 แห่งบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส และ อีกแห่งที่เซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา ขณะนี้ถือว่าเติบโตต่อเนื่อง มีอัตราการเช่ากว่า 80% ทั้งนี้ มองว่ารายได้ส่วนนี้จะอัตราเติบโตเนื่องเพราะบริษัทได้บริหารพื้นที่ในบิ๊กซีเพิ่ม
|
|
|
|
|