Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTVผู้จัดการรายวัน11 สิงหาคม 2552
JMARTเตรียมงบซื้อพอร์ตหนี้เพิ่มชี้ธุรกิจเร่งรัดหนี้ดันกำไรเติบโตดี             
 


   
www resources

โฮมเพจ เจ มาร์ท

   
search resources

อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา
Mobile Phone
เจ มาร์ท, บมจ.




เจมาร์ท เตรียมงบลงทุน 70 ล้านบาท ซื้อพอร์ตหนี้บริหารเพิ่มหลังพบธุรกิจเร่งรัดหนี้ดันกำไรโต เจียดงบลงทุน 20 ล้านบาทกระตุ้นยอดขาย JFONE ให้ได้ตามเป้า 5-7 หมื่นเครื่องในสิ้นปีนี้ ฟุ้งปี 52 กำไรสูงกว่าปี 51 เหตุธุรกิจเติบโตดี

นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจมาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจปีนี้จะสามารถทำกำไรสุทธิได้เติบโตกว่าปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 97 ล้านบาท โดยมาจากทั้ง3 ธุรกิจ บริษัทที่ยังคงเติบโตและสร้างรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วยธุรกิจจัดจำหน่ายโทศศัพท์มือถือ ธุรกิจการบริหารพื้นที่ค้าปลีก ธุรกิจติดตามเร่งรัดหนี้สิน และในส่วนของยอดขายคาดว่าจะเติบโตขึ้น 10% จาก 5.5 พันล้านบาท

ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้หลักของบริษัทมาจากธุรกิจการขายเครื่องโทรศัพท์มือถือ 90% อีก 5% มาจากธุรกิจการบริหารพื้นที่ค้าปลีกและที่เหลือ 5% เป็นธุรกิจการติดตามหนี้สิน ซึ่งปัจจุบันบริษัทบริหารพอร์ตหนี้สิน 3.3 พันล้านบาท และมีแผนจะเพิ่มเป็น 4.5 พันล้านบาทสิ้นปีนี้ โดยจะใช้เงินลงทุน60-70 ล้านบาท เพื่อซื้อพอร์ตหนี้เข้ามาเพิ่มเติม เนื่องจากเห็นว่าธุรกิจติดตามหนี้เป็นธุรกิจที่ผลักดันให้บริษัทมีอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิที่สูงขึ้นมากกว่าธุรกิจอื่นที่ดำเนินการอยู่ ซึ่งบริษัทมีความพร้อมด้านนี้อย่างดี

โดยครึ่งหลังปีนี้มีแผนจะใช้งบลงทุนด้านการตลาดอีก 20 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นยอดขายโทรศัพท์มือถือ JFONE ให้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ 5-7 หมื่นเครื่องภายในสิ้นปี จากปัจจุบันมียอดขายที่ 2 หมื่นเครื่อง และตั้งเป้าสัดส่วนยอดขาย JFONE ของพอร์ตรวมของยอดขายมือถือให้เพิ่มเป็น 30% ในปีนี้ จากเดิมอยู่ที่ 15% คาดสิ้นปีจะมียอดขายโทรศัพท์มือถือ JFONE อย่างน้อย 3.6 หมื่นเครื่องจากยอดขายรวมที่ 1.2 แสนเครื่อง โดยมีมาร์เก็ตแชร์ในอุตสาหกรรมรวมอยู่ที่ 10% ใกล้เคียงกับปัจจุบัน ขณะมีอัตรากำไรขั้นต้นจากธุรกิจโทรศัพท์มือถือแบรนด์ต่างประเทศอยู่ที่ 10% ส่วนเฮ้าส์แบรนด์ "เจโฟน"มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 25%

" ครึ่งปีที่ผ่านมาถ้าจะพูดถึงผลกระทบที่ได้รับจากวิกฤตที่เกิดขึ้น ในธุรกิจเราก็มีผลกระทบกับกำลังซื้ออยู่บ้างช่วงเดือนเม.ย.แต่หลังจากนั้นเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น เราคาดว่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และจะมีกำไรสุทธิสูงกว่าปีก่อนจากธุรกิจ 3G ที่กำลังจะเข้ามาก็จะเป็นตัวกระตุ้นผู้บริโภคได้" นายอดิศักดิ์ กล่าว

นอกจากนี้บริษัทยังได้รับการบริหารพื้นที่ IT Junction ตามห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี โดยได้บริหารพื้นที่เช่า 24 สาขาของบิ๊กซี, 2 แห่งบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส และ อีกแห่งที่เซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา ขณะนี้ถือว่าเติบโตต่อเนื่อง มีอัตราการเช่ากว่า 80% ทั้งนี้ มองว่ารายได้ส่วนนี้จะอัตราเติบโตเนื่องเพราะบริษัทได้บริหารพื้นที่ในบิ๊กซีเพิ่ม   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us