Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
11 สิงหาคม 2552
ธปท.จับตาบาท2เดือน-ก่อนเข็นมาตรการใหม่             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารแห่งประเทศไทย

   
search resources

ธนาคารแห่งประเทศไทย
สุชาดา กิระกุล
Currency Exchange Rates




แบงก์ชาติขอดูผลการผ่อนคลายมาตรการสกัดบาทแข็ง 2-3 เดือนก่อนตัดสินใจออกมาตรการใหม่ เผยตลาดอยู่ระหว่างปรับตัว ยอมรับบาทยังคงผันผวนตามดอลลาร์อยู่

นางสุชาดา กิระกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในช่วง 2-3 เดือนนี้ ธปท.จะรอประเมินผลของผ่อนคลายหลักเกณฑ์การลงทุนต่างประเทศและการลงทุนในตรา สารอนุพันธ์เมื่อสัปดาห์ก่อน หลังจากนั้นอาจจะพิจารณาผ่อนคลายมาตรการให้แก่นักลงทุนต่างประเทศหรือส่วน อื่นๆ เพิ่มเติมอีกครั้ง

ทั้งนี้ แม้ธปท.ได้ผ่อนคลายหลักเกณฑ์ดังกล่าวไปแล้ว แต่การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมากนักหรืออยู่ในระดับ ทรงๆ เมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า ซึ่งไม่ใช่แสดงให้เห็นว่าสิ่งที่ธปท.ดำเนินการไม่ได้ผล แต่เชื่อว่าตลาดการเงินปรับตัวอยู่ ซึ่งการลงทุนในต่างประเทศต้องใช้ระยะเวลา ประกอบกับตลาดอยู่ในช่วงรอตัวเลขการจ้างงานสหรัฐ จึงดูเหมือนว่ามาตรการดังกล่าวไม่ได้ผลนัก อย่างไรก็ตามการผ่อนคลายหลักเกณฑ์ในครั้งนี้เพื่อเป็นกลยุทธ์ของภาคธุรกิจ ไทยให้สามารถลงทุนในต่างประเทศที่หลากหลายได้


“หลังจากที่แบงก์ชาติผ่อนคลายหลักเกณฑ์ดังกล่าวและเราได้เชิญแบงก์เข้ามาพูด คุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น โดยส่วนใหญ่ถามเราว่าต่อไปจะเปิดหรือผ่อนคลายเรื่องอะไรเพิ่มเติมอีก ซึ่งเราชี้แจงว่าสิ่งเหล่านี้ต้องค่อยๆ ทำ ด้านบริษัทหลักทรัพย์และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมที่มีการเชิญมาชี้ แจงเมื่อวันนี้ (10 ส.ค.) เน้นเรื่องการนำเงินออกไปซื้อผลิตภัณฑ์ทั้งแง่การลงทุนเพื่อหาผลตอบแทนเพิ่ม เติมหรือการป้องกันความเสี่ยงของอัตราดอกเบี้ย อัตราแลกเปลี่ยน ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้บางคนมีความจำเป็นต้องซื้ออยู่แล้ว แต่เราผ่อนคลายให้เขาทำได้เลยไม่ต้องมาขอ”


ดังนั้น การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทและค่าเงินสกุลอื่นๆ ในภูมิภาคมีความผันผวนตามค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นสำคัญ โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมาได้มีการประกาศตัวเลขการว่างงานที่ดีขึ้นจากเดิมอยู่ที่ระดับ 9.6%มาอยู่ที่ระดับ 9.4% และดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ซึ่งส่วนใหญ่คาดว่าจะสูงถึงตัวเลข 2 หลัก ทำให้ค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าและส่งผลให้ค่าเงินบาทและค่าเงินในภูมิภาค อ่อนค่าลงในขณะนี้


“ในขณะนี้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมี 2 แรง คือทั้งอ่อนและแข็ง โดยเมื่อเศรษฐกิจดีขึ้น นักลงทุนกล้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง (Risk Appetite) ทำให้มีเงินไหลเข้ามาในภูมิภาคส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง แต่ในขณะนี้กลับทิศกัน คือ ในสหรัฐทั้งตลาดหุ้นดีขึ้น และราคาพันธบัตรตกลง ทำให้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้น จึงมีคนเข้าไปลงทุนในช่องทางนี้เยอะขึ้น ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีขึ้นกลายเป็นว่าเงินดอลลาร์กลับแข็งแทน” ผู้ช่วยผู้ว่าฯ ธปท.กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม ตลาดการเงินในภูมิภาคไม่ได้รับผลกระทบมากนักมีเพียงค่าเงินอ่อนลงเล็กน้อย ประกอบกับเมื่อวานนี้ (10ส.ค.) ตลาดการเงินในญี่ปุ่นและสิงคโปร์ปิด ทำให้ปริมาณการซื้อขายน้อยลง จึงยิ่งกดดันให้ค่าเงินในภูมิภาคอ่อนลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ฉะนั้นเงินดอลลาร์แข็งขึ้นในช่วงนี้ธปท.ได้ติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด.   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us