|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ก.ล.ต.คุมเข้มผู้บริหาร บล. - บลจ. และตัวแทนซื้อขายสัญญาล่วงหน้า นำระบบบันทึกคะแนนความผิด 3 ปีเข้าขู่ หวังกระต้นผู้บริหารทำงาน-ปฏิบัติงานให้มีคุณภาพ เริ่มตั้งแต่ 1-2 คะแนนโดนภาคภัณฑ์ 3-4 คะแนนตำนิ 5-6 คะแนนสั่งพักงาน และ 7 คะแนนสั่งปลดจากการเป็นผู้บริหาร พร้อมเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชน
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ส่งหนังสือเวียนไปยัง บริษัทหลักทรัพย์(บล.) ทุกแห่ง บล. ที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการจัดการกองทุนรวมและกอง ทุนส่วนบุคคลทุกบริษัท บริษัทที่ได้รับใบอนุญาตเป็นตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทุกบริษัท บริษัทที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าประเภทการเป็นผู้ จัดการเงินทุนสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทุกบริษัท นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (บลจ.)ประธานชมรมผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เรื่องมาตรการดำเนินการบันทึกคะแนนความผิด (Point System)
ทั้งนี้จากการที่ผู้บริหารของบล. บลจ. ตัวแทนซื้อขายสัญญาล่วงหน้า และผู้จัดการเงินทุนสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นผู้ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการที่จะทำให้การดำเนินธุรกิจหลักทรัพย์ หรือธุรกิจจัดการลงทุนมีระบบงานและระบบการกำกับดูแลการปฏิบัติงานที่ดี รวมถึงทำให้เกิดวัฒนธรรมของการกำกับดูแลกิจการที่ดีภายในองค์กร ส่วนผู้บริหารกองทุนก็เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิงในการตัดสินใจลงทุน เพื่อผู้ถือหน่วยลงทุน ซึ่งการมีผู้บริหารและ ผู้จัดการกองทุนที่มีคุณภาพ มีการคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้ลงทุน จะก่อให้เกิดความไว้วางใจแก่ผู้ลงทุน
ดังนั้น ก.ล.ต. จึงเห็นว่า มาตรการหนึ่งที่จะเสริมสร้างให้ผู้บริหารของบล. ผู้บริหารของผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และผู้จัดการกองทุน ให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าว คือ การกำหนดให้บุคคลดังกล่าวมีความรับผิดชอบส่วนตัวในการปฏิบัติหน้าที่ดัง กล่าว
ทั้งนี้เพื่อให้ก.ล.ต.มีเครื่องมีในการกำกับดูแลการปฏิบัติงานของผู้บริหาร ของบริษัท และผู้จัดการกองทุน ให้มีมาตรฐานที่ดียิ่งขึ้น ก.ล.ต.จึงนำระบบบันทึกคะแนนความผิด โดยระบบดังกล่าวจะคำนึงถึงระดับความร้ายแรงและความถี่ของพฤติกรรมที่เข้า ข่ายฝ่าฝืน หรือปฏิบัติไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือจรรยาบรรณหรือมาตรฐานในการประกอบธุรกิจ โดยขอบเขตการบังคับใช้ กรณีผู้บริหารของบริษัทได้กระทำผิด หรือมีการปฏิบัติไม่เป็นไปตามมาตรฐานการปฏิบัติงานเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพ หรือมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมอันเป็นลักษณะต้องห้ามหรือกรณีที่บริษัทมีการกระทำ ผิดและก.ล.ต.พิจารณาแล้วเห็นว่าการกระทำผิดดังกล่าวเกิดจากการที่ผู้บริหาร สั่งการหรือไม่ส่งการ กระทำการหรืองดเว้นกระทำการ หรือละเลยการทำหน้าที่ตามสมควรในการตรวจสอบดูแลไม่ให้บริษัทฝ่าฝืนหรือ ปฏิบัติไม่ชอบด้วยกฎหมายอันอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อฐานะการเงินการ ดำเนินธุรกิจ หรือต่อลูกค้า หรือมีการปฏิบัติในลักษณะอื่นใดอันเป็นลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย
ส่วนกรณีของผู้จัดการกองทุน กระทำผิด หรือกรณีที่บลจ.มีการกระทำผิดและก.ล.ต.พิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำผิดดังกล่าวเกิดจากการที่ผู้จัดการกองทุน จัดการลงทุนโดยไม่เป็นไปตามมาตรฐานการปฏิบัติงานเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพหรือ ขาดความระมัดระวังหรือ มีพฤติกรรมจงใจโดยไม่ได้ใช้ความสามารถเพื่อพิทักษ์ผลประโยชน์ของลูกค้าอย่าง เต็มที่ ไม่คำนึงถึงและรักษาผลประโยชน์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า และไม่ตั้งอยู่บนหลักแห่งความซื่อสัตย์สุจริตและความรอบคอบระมัดระวัง
สำหรับระดับคะแนนความผิดและการดำเนินการ หากการกระทำความผิดมีผลกระทบเล็กน้อย หรือไม่ใช้ความระมัดระวังเท่าที่ควร คะแนนที่ได้ในแต่ละครั้ง คือ 1 หรือ 2 คะแนน หากผลกระทบปานกลางหรือไม่ปฏิบัติงานโดยใช้ความรู้ความสามารถเยี่ยงผู้ประกอบ วิชาชีพ คะแนนที่ได้ในแต่ละครั้ง คือ3 หรือ 4 คะแนน และหากมีผลกระทบมากหรือจงใจกระทำผิดหรือแสวงหาผลประโยชน์เพื่อตนเองหรือ บุคคลอื่นในลักษณะเอาเปรียบผู้ลงทุน หรือมี การปฏิบัติในลักษณะส่อไปในทางไม่สุจริต คะแนนที่ได้รับแต่ละครั้งจะมากกว่า 4 คะแนน
อย่างไรก็ตาม ผู้กระทำผิดถูกลงโทษ ก.ล.ต.จะบันทึกประวัติการถูกลงโทษเป็นคะแนนตามระดับโทษที่ได้รับ หากผู้กระทำผิดมีการกระทำผิดขึ้นอีก ก.ล.ต.จะนำคะแนนที่บันทึกไว้จากประวัติการถูกลงโทษมาใช้เป็นปัจจัยในการ เพิ่มระดับโทษทางปกครองที่จะลงสำหรับการกระทำผิดครั้งใหม่
โดยในแต่ละระดับคะแนนมีบทลงโทษ คือ 1-2 คะแนน บทลงโทษ คือ ภาคทัณฑ์โดยไม่เปิดเผย โดยจะมีการดำเนินการมีหนังสือถึงผู้กระทำผิดโดยแจ้งคะแนนและสิทธิอุทธรณ์ มีหนังสือถึงประธานกรรมการ (กรณีผู้จัดการหรือกรรมการ) หรือมีหนังสือถึงผู้จัดการ (ผู้จัดการกองทุน หรือผู้บริหารอื่น) เพื่อแจ้งการดำเนินการ แจ้งยังสมาคมบลจ. หรือ สมาคมบล.ถึงพฤติกรรมความผิดโดยไม่เปิดเผยชื่อผู้กระทำผิดและบริษัทที่สังกัด หากมีคะแนน 3-4 คะแนน บทลงโทษคือ ตำหนิโดยเปิดเผยต่อสาธารณชน 5-6 คะแนนบทลงโทษพักงาน หาก 7 คะแนนบทลงโทษคือเพิกถอน ซึ่งระดับคะแนน 3-7 นั้น ทางก.ล.ต.จะมีส่งหนังสือถึงผู้กระทำผิดโดยแจ้งคะแนนและสิทธิอุทธรณ์ มีหนังสือถึงประธานกรรมการ (กรณีผู้จัดการหรือกรรมการกระทำผิด) หรือมีหนังสือถึงผู้จัดการ (กรณีผู้จัดการกองทุน หรือผู้บริหารอื่น) เพื่อแจ้งการดำเนินการ และจะมีการเปิดเผยรายชื่อผู้กระทำความผิด และบริษัทที่สังกัด ต่อสาธารณชน
อย่างไรก็ตาม ในการบันทึกคะแนนความผิดจะบันทึกเป็นคะแนนของแต่ละบุคคลโดยไม่พิจารณาเรื่อง สังกัดบริษัทใด และในกรณีที่บุคคลใดมีสถานะเป็นทั้งผู้บริหาร และผู้จัดการกองทุนจะนับรวมคะแนนความผิดของทั้ง 2 สถานะเข้าด้วยกัน โดยบริษัทที่รับผู้บริหาร หรือผู้จัดการกองทุน เข้าปฏิบัติงานสามารถสอบถามคะแนนความผิดจากก.ล.ต.ได้โดยการแสดงหนังสือ ยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลจากผู้บริหารหรือผู้จัดการกองทุนดังกล่าวต่อก.ล.ต. ซึ่งการเปิดเผยก.ล.ต.จะให้ข้อมูลคะแนนความผิดในช่วง 3 ปีย้อนหลัง ส่วนการล้างคะแนน จะล้างเมื่อผู้กระทำผิดได้รับโทษเพิกถอน หรือเมื่อครบระยะเวลา 3 ปี โดยจะล้างทิ้งเฉพาะคะแนนที่ครบกำหนด
ขณะเดียวกัน ก.ล.ต.อาจนำพฤติกรรมภายหลังการกระทำผิด เช่น การให้ความร่วมมือต่อก.ล.ต.หรือ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในการชี้แจงข้อมูล หรือรวบรวมพยานหลักฐานหรือแก้ไขปัญหาเพื่อลดผลกระทบ หรือ การเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น มาประกอบการพิจารณาปรับเพิ่มหรือ ลดระดับความรุนแรงของมาตรการลงโทษได้
|
|
|
|
|