Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTVผู้จัดการรายวัน6 สิงหาคม 2552
PSLใจป้ำปันผลรอบสองปีนี้อีก40สตางค์ เมินกำไรหดเหลือ1.08พันล.เหตุค่าระวางต่ำ             
 


   
www resources

โฮมเพจ พรีเชียส ชิพปิ้ง-PSL

   
search resources

พรีเชียส ชิพปิ้ง, บมจ.
Transportation




บอร์ดพรีเชียสฯ ไฟเขียวจ่ายปันผลหุ้นละ40 สตางค์ แม้ผลงานไตรมาส 2 กำไรหดเหลือแค่ 1.08 พันล้านบาท ต่ำกว่าปี 51 ที่ทำไว้ 1.24 พันล้านบาท เหตุอัตราค่าระวางเรือลดและสัญญาเช่าเรือบางลำหมดอายุ เร่งขายเรือเพื่อลดจำนวนกองเรือหวังลดภาระค่าใช้จ่ายเดินเรือ พร้อมเตรียมเงินซื้อเรือมือสองแทนเรือที่ขายทอด เพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่าย ปีนี้เน้นปล่อยสัญญาเช่าระยะยาวป้องกันความเสี่ยง วางแผนซื้อเรือมือสองแทนเรือที่ขายไปเพื่อเพิ่มจำนวนกองเรือ

นายคาลิด มอยนูดดิน ฮาซิม กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSL เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 52 ว่าบอร์ดมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลหุ้นละ ครั้งที่ 2 สำหรับปี 2552 จากกำไรสะสม ณ วันที่ 30มิถุนายน 2552 ที่อัตรา 0.40 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 2 กันยายน 2552 แม้ผลประกอบการสิ้นไตรมาส 2 พบว่าบริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1.08 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่กำไรสุทธิ 1.24 พันล้านบาท หรือลดลง 0.16 พันล้านบาท คิดเป็น 12.90% ผลจากอัตราค่าระวางเรือ ( BDI ) ปรับลดลงและสัญญาเช่าเรือบางลำหมดอายุ

โดยก่อนหน้านี้บอร์ดบริษัทมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ครั้งที่ 1 สำหรับปี 2552 จากกำไรสะสม ณ วันที่ 31 มีนาคม 2552 อัตราหุ้นละ 0.40 บาทต่อหุ้น ให้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทฯ ซึ่งกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 8 มิถุนายน 2552

นายคาลิดกล่าวว่าปัจจุบันบริษัทมีกองเรือทั้งหมด 28 ลำ จากช่วงต้นปี 52 ที่มีกองเรือ 44 ลำ โดยจำนวนกองเรือที่ปรับลดลงนั้นมาจากการทยอยขายเรือออกไป 16 ลำ ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้จากแผนที่วางไว้ว่าจะขายเรือทั้งหมด 25 ลำ ซึ่งจากจำนวนเรือที่ขายไปแล้วนั้นยังคงเหลืออีก 1 ลำ ที่รอการส่งมอบเดือนสิงหาคมนี้ อย่างไรก็ดี หากสามารถขายเรือได้ตามแผนที่วางไว้จะทำให้ค่าใช้จ่ายในการเดินเรือต่อวัน ต่อลำเรือปรับลงมาอยู่ที่ 4,850 ดอลลาร์สหรัฐ จากเดิมที่มีค่าใช้จ่าย ณ สิ้นมิถุนายน 52 อยู่ที่ 4,990 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเรืออีก 9 ลำ บริษัทมองว่าน่าจะขายออกไปหมดภายในระยะเวลา 12 เดือน

นอกจากนี้ทาง PSL ยังมีแผนจะซื้อเรือมือสองเข้ามาทดแทนจำนวนกองเรือที่ได้ขายออกไปทั้งหมด โดยใช้เงินจากกระแสเงินสดที่มีอยู่ 500-550 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนที่เหลือเป็นเงินที่ได้จากการขายเรือทอดตลาด

" ปีนี้นโยบายการจัดการเกี่ยวกับสัญญาเช่าเรือ เราคงจะเน้นปล่อยเรือให้เช่าเป็นสัญญาระยะยาว เพราะเป็นการช่วยลดความผันผวนของตลาดรายวันในช่วงเวลานั้นได้ ซึ่งเป็นนโยบายเดียวกับช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ที่บริษัทประสบผลสำเร็จมาแล้ว ส่วนการที่ดัชนี BDI สิ้นไตรมาส 2/52 จะปรับตัวลดลงเหลือ 1,3950 ดอลลาร์ต่อวันต่อลำ จากพิษเศรษฐกิจนั้นเชื่อว่าไม่น่าจะทำให้ต้องปรับเป้าหมายอัตราค่าระวางเรือ ปีนี้ที่ตั้งไว้ 14,000 ดอลลาร์ต่อวันต่อลำ เพราะตัวเลขดังกล่าวถือว่าใกล้เคียงกับเป้าที่ตั้งไว้ และบริษัทเองก็เชื่อว่าช่วงครึ่งปีหลังอัตราค่าระวางเรือน่าจะปรับเพิ่มขึ้น ในระดับที่เราประเมินได้ " นายคาลิดกล่าว

สำหรับปี 52 บริษัทฯคาดการณ์ว่าแนวโน้มเศรษฐกิจว่าจะยังคงไม่ค่อยดีนัก โดยจากข้อมูลของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ( IMF ) ล่าสุดประเมินว่าการค้าของโลกจะหดตัวลงประมาณ 11% และผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ( GDP ) ของโลกจะปรับลงเหลือเพียง 1.3% แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าปีหน้าอาจจะเห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเล็กน้อย

ส่วนทิศทางการปลดระวางเรือในธุรกิจเดินเรือทั่วโลกที่ดำเนินการอยู่นั้นจะ เริ่มช้าลงอันเป็นผลมาจากการแข็งแกร่งของตลาดค่าระวางเรือในไตรมาส 2 ปีนี้ 52 พบว่าเรือ 60 ลำ ได้ถูกปลดระวาง ขณะที่มีเรือใหม่เข้ามาเพียง 28 ลำ ส่งผลให้กองเรือลดลงจาก 3,142 ลำ ลดเหลือ 3,100 ลำ ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 52 ดังนั้น จึงคาดว่าน่าทำให้บริษัทที่มีกองเรือในกลุ่มเดียวกับ PSL มีจำนวนเรือลดลง 5-7% ต่อปี ซึ่งถือเป็นเรื่องดีที่จะทำให้อุปสงค์และอุปทานปรับตัวเท่ากันทำให้เกิดความ สมดุลมากขึ้น   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us