Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTVผู้จัดการรายวัน6 สิงหาคม 2552
พิษศก.ทำทุนญี่ปุ่นหาย โอบายาชิงานวูบ30%             
 


   
search resources

Construction
ไทยโอบายาชิ




ทุนนอกชะลอขยายโรงงานในไทย โดยเฉพาะจากประเทศญี่ปุ่น “ไทยโอบายาชิ” คาดปีนี้งานก่อสร้างลดฮวบ 30% ทั้งปีมูลค่างานใหม่ 6,000-6,500 ล้านบาทเท่านั้น จากปี 51 มีงานใหม่ 9,000 ล้านบาท ปรับแผนหันรับงานสร้างตึกแทน ล่าสุดรับงานกลุ่มยูนิเวนเจอร์สร้าง “ปาร์คเวนเชอร์” หัวมุมถนนวิทยุมูลค่าก่อสร้าง 2,000 ล้านบาท

นายสมพงษ์ จินตวงศ์วานิช กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท นันทวัน จำกัด หรือ ไทยโอบายาชิ บริษัทในเครือโอบายาชิ ผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่จากประเทศญี่ปุ่น กล่าวยอมรับว่า ปีนี้ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างชะลอตัวลงไปมากตามภาวะเศรษฐกิจ โดยในของบริษัท กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่มาจากประเทศญี่ปุ่นที่เข้ามาลงทุนสร้างโรงงานผลิตในไทย โดยในปี 2549 มีกลุ่มลูกค้าสร้างโรงงานจากประเทศญี่ปุ่นมากถึง 80% ของงานทั้งหมด ส่วนที่เหลือเป็นลูกค้าชาวไทยและประเทศอื่นๆ ส่วนหนึ่งมาจากการสร้างโรงงานโตโยต้า ที่ จ.ฉะเชิงเทรา แต่ในปัจจุบันลดเหลือเพียง 50: 50 เท่านั้น

ทั้งนี้ ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบและชะลอการขยายโรงงาน ได้แก่ อุตสาหกรรมรถยนต์, ธุรกิจโรงแรม เป็นต้น ส่วนธุรกิจที่ยังมีการขยายโรงงานในปัจจุบัน ได้แก่ กลุ่มธุรกิจอาหาร มีนักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างชาติ อย่างไรก็ตาม แนวโน้มธุรกิจอิเล็คทรอนิกเริ่มมีกระแสกลับมาอีกครั้ง ตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่เริ่มมีสัญญานฟื้นตัว

นายสมพงษ์ กล่าวต่อว่า จากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลกระทบต่อการขยายโรงงานและกิจการของกลุ่มลูกค้า ซึ่งหมายถึงงานก่อสร้างโรงงานลดน้อยลง โดยคาดว่าปีนี้มูลค่างานจะลดลงถึง 30% จากปีที่แล้วที่มีงานใหม่มูลค่า 9,000 ล้านบาท ส่วนปีนี้คาดว่าจะมีงานใหม่มูลค่าเพียง 6,000-6,500 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งนับจากต้นปีถึงปัจจุบันมีงานใหม่เข้ามาแล้ว 4,000 ล้านบาท โดยมีมูลค่างานคงเหลือในมือประมาณ 8,000-9,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม เพื่อหารายได้เพิ่มบริษัทจึงได้ปรับแผนการดำนเนินงาน ด้วยการหันไปรับงานสร้างอาคารเพื่อทดแทนงานก่อสร้างโรงงาน โดยล่าสุดรับงานก่อสร้างโครงการ ปาร์คเวนเชอร์ ดิ อีโคเพล็กซ์ ออน วิทยุ ของกลุ่มบริษัทยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) โดยมีมูลค่างานก่อสร้างประมาณ 2,000 ล้านบาท จากมูลค่าโครงการทั้งหมด 5,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีงานก่อสร้างอาคารของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ รังสิต ส่วนโรงแรมและ อาคารเซ็นรีจีส เป็นงานก่อสร้างต่อเนื่องมาจากปีก่อนหน้า

“งานก่อสร้างอาคารสูงแม้จะมีมูลค่างานก่อสร้างสูง แต่จะต้องให้บุคคลากรหรือคนงานก่อสร้างที่มีฝีมือจำนวนมาก ซึ่งในปัจจุบันบริษัทมีคนงานเพียง 600 คน ซึ่งต้องพัฒนาคนขึ้นมากอีกจำนวนมากเพื่อรองรับงาน ส่วนปี53 เชื่อว่าทิศทางก่อสร้างและเศรษฐกิจน่าจะปรับตัวดีขึ้นกว่าในปัจจุบัน แต่ยังขึ้นอยู่กับภาวะการเมืองของไทยด้วยว่าจะสงบหรือไม่ เพราะในปัจจุบันยังไม่นิ่ง ซึ่งแม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะปรับตัวดีขึ้น แต่ไทยยังมีปัญหาด้านการเมืองเป็นตัวถวง”

ยูนิเวนเจอร์เชื่อศก.ไทยยังไม่ฟื้นปีนี้

ด้านนายธนพล ศิริธนชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัทยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แม้ว่าความรู้สึกที่มีต่อภาวะเศรษฐกิจไทยเริ่มปรับตัว จากการมีเงินทุนไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้น แต่จะต้องพิจารณาตัวเลขของกำลังการผลิตในประเทศ และอัตราการว่างงานซึ่งยังทรงตัวสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจของไทยยังไม่มีการ เติบโตภายในปีนี้ แต่น่าจะเริ่มเห็นผลในปีหน้า ประกอบการการเมืองยังไม่นิ่งซึ่งขณะนี้ทำได้เพียงประคองตัวไปเท่านั้น

ส่วนการลงทุนของตลาดอสังหาริมทรัพย์ บริษัทขนาดใหญ่ยังคงมีการลงทุนเปิดโครงการอย่างต่อเนื่อง ส่วนรายเล็ก-รายกลางคงต้องลำบากในช่วงนี้เพราะผู้บริโภคให้ความเชื่อมั่น ซื้อสินค้าจากผู้ประกอบการรายใหญ่ โดยในส่วนของบริษัทเองยังคงลงทุนต่อเนื่อง พร้อมทั้งสร้างความมั่นใจด้วยการได้รับอนุมัติสินเชื่อก่อสร้างโครงการ ปาร์คเวเชอร์ จากธนาคารกสิกรไทย จำนวน 1,800 ล้านบาท ขณะนี้งานก่อสร้างฐานรากใกล้เสร็จแล้ว ส่วนทั้งโครงการคาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการภายในปี 2554 โดยจะเปิดให้ลูกค้าจองพื้นที่เช่าสำนักงานก่ออาคารแล้วเสร็จ 1 ปี.   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us