|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
“กรณ์” ระบุมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเห็นผลดัชนีชี้วัดต่างๆ ออกมาเป็นบวก หวั่นอัตราแลกเปลี่ยนเป็นปัจจัยฉุดเศรษฐกิจ พร้อมเร่ง "รมช.ประดิษฐ์” รื้อโครงสร้างภาษีทั้งหมดลดอุปสรรคการทำธุรกิจยุคใหม่ หนุนภาคเอกชนทั้งส่งออก ท่องเที่ยว อุตสาหกรรมและยานยนต์ ภายใน 1 เดือน เล็งใช้เป็นการชั่วคราว 6 เดือน- 1 ปี
นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยว่า ได้รับรายงานตัวเลขเศรษฐกิจเดือน มิ.ย.52 และไตรมาส 2 ปีนี้ พบว่าทุกหมวดเศรษฐกิจกระเตื้องขึ้น เป็นไปตามคาดการณ์ของรัฐบาลและผลจากมาตรการของรัฐที่เพิ่มกำลังซื้อให้ประชาชน และจากการพบปะเจรจากับหอการค้าทั้งในและต่างประเทศ ก็ได้รับการยืนยันถึงระดับความเชื่อมั่นที่เป็นบวก เช่น คำสั่งซื้อรถยนต์ในไตรมาส 4 ปีนี้ ดีขึ้นเท่ากับไตรมาส 1 ของปี 51 ซึ่งเป็นช่วงก่อนวิกฤตเศรษฐกิจ ภาคการส่งออกก็ดีขึ้น
"วันนี้เริ่มมีสัญญาณเศรษฐกิจดี แต่ยังตอบไม่ได้ว่าจะดีจริงในวันไหน โดยปัจจัยที่ยังเป็นแรงกดดันต่อเศรษฐกิจคืออัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งหากเศรษฐกิจดีขึ้นจริงจะมีการนำเข้าสินค้าทุนหรือวัตถุดิบจากต่างประเทศมากขึ้น มีผลให้ความต้องการเงินดอลลาร์มากขึ้นเพื่อนำมาใช้ในการลงทุน แรงกดดันจากค่าเงินก็จะลดลง โดยการลงทุนในโครงการไทยเข้มแข็งจะมีส่วนช่วยได้บ้างแต่ไม่มากเพราะเป็นการใช้สินค้าในประเทศเสียเป็นส่วนมาก"นายกรณ์ กล่าว
ทั้งนี้เพื่อเพิ่มแรงจูงใจให้เกิดการลงทุนมากขึ้นได้มอบหมายให้นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง พิจารณามาตรการปฏิรูปโครงสร้างภาษีเพื่อขจัดอุปสรรคกับการทำธุรกิจยุคใหม่ทั้งระบบ รวมถึงให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน อีกทั้งดูแลให้ภาคธุรกิจได้รับบริการทางการเงิน เพิ่มสภาพคล่อง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่ต้องเร่งขับเคลื่อนตามนโยบายรัฐบาล
นายประดิษฐ์ กล่าวว่าจากการหารือกับภาคเอกชนทั้งสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและธุรกิจท่องเที่ยว เพื่อรับฟังปัญหาอุปสรรคด้านภาษีที่มีมานานทั้งการอำนวยความสะดวกด้านการส่งออกนำเข้าและด้านอัตราการจัดเก็บรวมถึงการคืนภาษีที่มีความล่าช้าทำให้กระทรวงการคลังจะเร่งหาข้อสรุปภายใน 1 เดือนนี้เพื่อช่วยเหลือภาคเอกชนในช่วงที่ประสบปัญหาจากวิกฤตเศรษฐกิจ
สำหรับมาตรการช่วยเหลือมีทั้งการขจัดอุปสรรคไปจนถึงการปรับลดอัตราภาษี เช่น ในส่วนของธุรกิจท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักนั้นอาจเปิดช่องให้ภาคเอกชนสามารถนำค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงโรงแรมมาหักลดเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีได้ เพราะถือเป็นกลุ่มที่ต้องให้ความช่วยเหลือเร่งด่วนนอกเหนือจากการสนับสนุนสินเชื่อ รวมถึงการลดภาษีนำเข้า เครื่องจักร วัตถุดิบบางรายการเพื่อสนับสนุนการลงทุน และการเร่งคืนภาษีมุมน้ำเงินให้ผู้ส่งออกที่มีการเสนอมาหลายอุตสาหกรรม
“บางอย่างทำได้เร็วก็จะเร่งประกาศใช้ เช่น ภาษีมุมน้ำเงินอาจจะได้ข้อสรุปสัปดาห์หน้า ส่วนมาตรการอื่นก็จะสรุปภายใน 1 เดือนเพราะยิ่งทำได้เร็วก็เป็นประโยชน์กับภาคเอกชน แต่การใช้มาตรการภาษีนั้นอาจจะมีระยะเวลากำหนดเป็นการชั่วคราว 6 เดือนหรือ 1 ปี เพราะต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลด้วยเพราะปีนี้ก็อาจจะพลาดเป้าแล้ว 2 แสนล้านบาทจากภาวะเศรษฐกิจ”นายประดิษฐ์ กล่าว
นอกจากนั้นอาจจะมีมาตรการระยะยาวด้วย เช่นการสนับสนุนรถยนต์กลุ่มประหยัดพลังงาน ทั้งอีโคคาร์ รถยนต์ใช้ อี 85 และอี20 ซึ่งจะหารือกับรมว.พลังงานและอุตสาหกรรมในวันที่ 6 ส.ค.นี้ เพื่อให้เกิดความชัดเจน หลังจากที่ครม.มีความเป็นห่วงว่านโยบายจะเดินหน้าไปในแนวทางใด
|
|
|
|
|