|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
อสังหาฯประสานเสียง ผลงานของรัฐบาลเข้าตากรรมการ มาตรการอสังหาฯยาดีพยุงตลาดทั้งระบบแทนการทรุดตัว นายกส.ธุรกิจบ้านจัดสรร ชี้ช่วยกระตุ้นยอดปล่อยสินเชื่อรายย่อยของธนาคารพาณิชย์ไตรมาสแรกพุ่ง 1.6 แสนล้าน แจงหากออกมาตรการเสริมอยากให้ครอบคลุมกลุ่มผู้บริโภคระดับกลาง-ล่างมากขึ้น ค่ายมั่นคงเคหะการฯ อ้อนรัฐขอต่ออายุมาตรการภาษีอสังหาฯสิ้นสุดปี 54
นายอิสระ บุญยัง กรรมการผู้จัดการ บริษัท กานดา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัดในฐานนายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวถึงผลงานของรัฐบาลต่อภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่เข้ามาบริหารประเทศว่า มาตรการต่างๆ ได้มีส่วนสำคัญในการผลักดันตลาดรวมอสังหาฯในช่วงครึ่งแรกของปี 52 ให้ขยายตัวได้เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และสามารถครอบคลุมตลาดอสังหาฯ แม้ว่า มาตรการหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจะมีการประกาศล่าช้า ทำให้เหลือเวลาในการใช้น้อยกว่ามาตรการภาษีการโอน ค่าธรรมเนียม และภาษีธุรกิจเฉพาะ
แต่อย่างไรก็ตาม ผลจากมาตรการภาษีดังกล่าว ก็ส่งผลต่อตลาดอสังหาฯอย่างชัดเจน สังเกตได้จาก ยอดอนุมัติสินเชื่อรายย่อยในไตรมาสแรกของปี 52 มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.6 แสนล้านบาท เทียบกับยอดอนุมัติสินเชื่อในปีที่ผ่านมาที่ 1.3 แสนล้านบาท
“ แม้ว่าธนาคารพาณิชย์จะเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ แต่หลังจากที่มีการประกาศใช้มาตรการแล้ว ก็ช่วยให้ตลาดอสังหาฯกลับมาคึกคักขึ้น โดยที่ธนาคารพาณิชย์ ได้มีการแข่งขันการปล่อยสินเชื่อเพิ่มมากขึ้น สะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลเดินมาถูกทาง มาตรการอสังหาฯที่ออกมาช่วยผลักดันให้ขยายตัวในระดับที่น่าพอใจ ไม่หดตัวตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศ หลังจากได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินโลก ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของทุกประเทศทั่วโลก และหากไม่มีการออกมาตรการอสังหาฯ เชื่อว่าตัวเลขสินเชื่อ และการขยายตัวของตลาดจะไม่กระเตื้องขนาดนี้ ” นายอิสระกล่าว
ส่วนกรณีหากรัฐบาลจะมีมาตรการเสริมเพิ่มเข้ามาช่วยเหลือภาคธุรกิจอสังหาฯนั้น นายกสมาคมฯมองว่าควรเน้นการออกมาตรการที่ช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มมากขึ้น เนื่องจากมาตรการนำค่าใช้จ่าย จากการผ่อนบ้านมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ออกมา ให้ประโยชน์แก่กลุ่มผู้ที่มีรายได้ 40,000-50,000 บาทขึ้นไป แต่กลุ่มที่มีรายได้ระดับกลางและล่าง ยังไม่ได้รับประโยชน์จากมาตรการดังกล่าว จึงน่าจะมีมาตรการที่ครอบคลุมกลุ่มดังกล่าวมากขึ้น
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมานั้น รัฐบาลโดยคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) ได้มีการแก้ไขและปรับหลักเกณฑ์การส่งเสริมบ้านเพื่อผู้มีรายได้(บ้านบีโอไอ) ใหม่ซึ่งส่งผลให้ผู้ประกอบการรายเล็กและรายย่อย สามารถพัฒนาที่อยู่อาศัย (ซัปพลาย) เข้าสู่ตลาดได้มากขึ้น โดยกลุ่มผู้บริโภคระดับกลาง-ล่างจะได้ประโยชน์จากมาตรการในการซื้อบ้านเอื้ออาทรหรือบ้านบีโอไอ ที่พัฒนาเข้าสู่ตลาดหลังจากนี้มากขึ้น
**มั่นใจศก.ปีหน้าฟื้นตัว
**อ้อนขอต่อมาตรการภาษี
ด้านนายชูเกียรติ ตั้งมติธรรม ธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายการตลาด บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK กล่าวสอดรับว่า มาตรการต่างๆที่เป็นผลงานของรัฐบาล สามารถพยุงสถาการณ์ตลาดทั้งระบบให้สามารถเดินต่อไปได้ ทั้งๆที่ควรจะได้รับผลกระทบจนตลาดอสังหาฯหดตัวลง ทั้งนี้แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาจะมีปัจจัยลบเข้ามากระทบ แต่ก็ไม่ได้ส่งผลให้ตลาดหยุดชะงัก เนื่องจากมีมาตรการของรัฐบาลชุดปัจจุบันเข้ามาช่วยเสริม ส่งผลให้สภาพตลาดโดยรวมยังทรงตัวอยู่ได้
" หลังจากรัฐบาลประกาศใช้มาตรการกระตุ้นตลาดอสังหาฯ ส่งผลให้ในช่วงเดือนก.พ.-ก.ค.ที่ผ่านมา ยอดขายของผู้ประกอบการอสังหาฯถือว่าดีมาก สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน แม้ว่าเมื่อเทียบกับฤดูกาลขาย ในภาวะปกติแล้วยอดขายอาจจะต่ำกว่ากันบ้าง แต่ก็ต่ำกว่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น"นายชูเกียรติกล่าวและว่า
ปัจจุบันมาตรการต่างๆ ครอบคลุมมากแล้ว จึงไม่ต้องการมาตรการอะไรมากกว่าปัจจุบัน แต่อยากให้รัฐบาลมีการต่อมาตรการทางภาษีอสังหาฯ ค่าธรรมเนียมการโอน ค่าจดจำนองที่มีอยู่ออกไปสิ้นสุดปี 2554 เนื่องจาก ภาวะเศรษฐกิจในปี 2553 คาดว่าจะยังฟื้นตัวได้ไม่มากนัก แต่หากมีการยกเลิกมาตรการดังกล่าวไป จะทำให้ภาคอสังหาฯ หดตัวลง หลังสิ้นสุดมาตรการในเดือนมี.ค.53ได้.
|
|
|
|
|