|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
"เราเซฟโลกแล้วใครเซฟเรา" ข้างต้นเป็นวลีของ "วิเชียร เมฆตระการ" กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ในวันที่ฝ่าฝนฟ้าคะนองพานักข่าวไปชมเสากังหันลม ณ ชายหาดบ้านอำเภอ เทศบาลตำบลนาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
ปัจจุบันกังหันลมต้นนี้ไม่เพียงทำหน้าที่ผันกระแสลมเข้ามาผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อใช้ในการทำงานของสถานีฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ของ AIS แต่ยังกลายเป็นฉากรักในงานแต่งของคู่วิวาห์หลายคู่จนชายหาดที่เคยร้างนักท่องเที่ยวกลายเป็นสถานที่พักผ่อน แห่งใหม่ในเวลาอันสั้น
การนำชมสถานีฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่กังหันลมของ AIS เป็นกิจกรรมต่อเนื่องจากปีที่แล้ว ซึ่ง AIS พาสื่อมวลชนขึ้นเขาไป ชมสถานีฐานพลังงานแสงอาทิตย์ถึงโครงการหลวงขุนแปะที่เชียงใหม่ โดย "สถานีพลังงานทางเลือก" ทั้ง 2 รูปแบบเป็นส่วนหนึ่งในโครงการ Green Network แคมเปญรณรงค์ลดภาวะโลกร้อน อันเป็นขบวนการ CSR ที่ได้รับความนิยมและ "สร้างภาพ" ได้ดีที่สุด ณ เวลานี้
ทั้งลมและแสงอาทิตย์ล้วนเป็นแหล่งพลังงานทางเลือกที่สะอาด ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะต่อสภาพแวดล้อมและสามารถนำมาใช้ได้อย่างไม่รู้จบ รวมทั้งยังปราศจากต้นทุนการผลิตพลังงาน ทว่าต้นทุนราคาแพงกลับอยู่ที่อุปกรณ์และค่าติดตั้ง โดยเฉพาะตัวกังหันลม
กังหันลมใบพัดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 เมตร ความสูงของเสา 20 เมตร กำลังการผลิตไฟฟ้าสูงสุดที่ 5 กิโลวัตต์ ณ ความเร็วลม 6 เมตรต่อวินาที และค่าเฉลี่ยในการผลิตไฟฟ้าอยู่ที่ 2.5 กิโลวัตต์ แม้สามารถจ่ายไฟฟ้าเลี้ยงการทำงานของสถานีฐานได้ทั้งหมด และยังมีกระแสไฟฟ้าเหลือพอ ไปจ่ายเป็นระบบแสงสว่างบริเวณสวนสาธารณะริมชายหาดบริเวณเสากังหันลม แต่ด้วยต้นทุนอุปกรณ์ และค่าติดตั้งราว 4.5 ล้านบาท จึงไม่น่าแปลกใจที่ผู้บริหารของ AIS จะกล่าวทิ้งท้ายว่า
"พลังงานทางเลือกค่าใช้จ่ายสูงมาก จึงยังไม่ใช่พลังงานหลัก แม้พลังงานอื่นจะก่อมลภาวะบ้าง แต่ก็ถูกกว่าเลยยังเป็นพลังงานหลักอยู่ เพราะ ถ้าเรามัวแต่จะใช้พลังงานทางเลือกเพื่อเซฟโลก บริษัทนี้ก็อยู่ไม่ได้เพราะไม่มีใครเซฟเรา เราก็ต้องรอดด้วย การทำตรงนี้จึงถือเป็น Social Contribution ช่วยกันคนละมือจะมากน้อยก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยทางธุรกิจ แต่ถ้าพลังงานตรงนี้ถูกลงเมื่อไรเราก็คิดจะทำตรงนี้เยอะๆ"
ถึงแม้ AIS ยังใช้พลังงานสะอาดในสัดส่วนที่น้อย แต่ก็น่าชื่นชมว่าอย่างน้อยก็ยังพยายาม เพราะการ "เซฟโลก" เป็นเรื่องของทุกคนที่ต้องช่วยกัน โดยเฉพาะกลุ่มที่แสวงใช้พลังงานและทรัพยากรธรรมชาติมากกว่า ก่อมลภาวะแก่โลกมากกว่า ก็ควรจะต้องรับผิดชอบมากกว่า
แต่ถึงนั้น รัฐบาลไทยก็ควรแสดงให้ความสำคัญกับวาระแห่งมนุษยชาตินี้อย่างจริงใจ ด้วยการออกมาตรการต่างๆ เพื่อส่งเสริมแกมบังคับกลุ่มธุรกิจมากขึ้น เพื่อที่วันหน้าจะไม่มีการแอบอ้างว่าเป็น "การตอบแทนสังคม" เพราะจริงๆ แล้ว สิ่งเหล่า นี้ควรถูกบัญญัติไว้หน้าแรกในธรรมนูญของทุกบรรษัทว่าเป็น "ภาระหน้าที่และความรับผิดชอบ" จะเหมาะสมกว่า!!
|
|
|
|
|