งานวิ่งลอยฟ้าเฉลิมพระเกียรติจัดขึ้นที่สะพานพระราม 9 หรือที่รู้จักกันดีในชื่อทางด่วนดาวคะนอง-ท่าเรือนั้น
ยิ่งใหญ่ขนาดไหน ผู้คนมากมายขนาดไหน "ผู้จัดการ" ไม่ต้องกล่าวถึง
ที่น่าสนใจมากๆ จุดหนึ่งของงานนี้สำหรับคนที่ช่างสังเกตสักหน่อยจะเห็นว่างานนี้เป็นการชุมนุมสินค้าต่างๆ
มากมาย
งานนี้สินค้าที่เป็นสปอนเซอร์ใหญ่มีอยู่ 6 บริษัทด้วยกันเรียกว่า "เอกซ์คลูซีฟสปอนเซอร์"
ซึ่งมีสิทธิ์ใช้สัญลักษณ์ลอยฟ้าในการประชาสัมพันธ์สินค้าได้ซึ่งเรียงลงไป
ก็มีอาคเนย์ประกันภัย ธนาคารกรุงเทพ โคคา-โคล่า คอร์ปอเรชั่น รองเท้าไนกี้
โรงแรมรอยัลออคิด การบินไทย
"พวกสปอนเซอร์หลักเหล่านี้บริจาคบริษัทละ 500,000 บาท ก็มีชื่อสินค้าติดอยู่ที่ใบสมัครและโปสเตอร์ที่ออกจากงาน"
ชดช้อย โสภณพนิช ประธานฝ่ายจัดหาทุนของงานนี้ ซึ่งได้แนวความคิดในเรื่องการจัดหาทุนมาจากบอสตันมาราธอนซึ่งให้การตลาดเข้ามาช่วยเล่าให้ฟัง
ซึ่งหลักจริงๆ ก็คือพยายามหาสิ่งตอบแทนให้บรรดาสปอนเซอร์ต่างๆ โดยเฉพะด้านโฆษณาประชาสัมพันธ์
และก็ดูเหมือนว่าอาคเนย์ประกันภัยจะซัคเซสมากกับงานนี้ เพราะ "เดิมทีเราก็จะจัดวิ่งบนทางด่วน
แต่ผู้ว่าฯบอกว่าผิดกฎหมายจัดไม่ได้ ต่อมาภายหลังเขามาชวนเรา เราก็เป็นออแกไนซ์รับจัดงานแข่งขัน
สิ่งพิมพ์ที่ออกจากงานจะมีสัญลักษณ์ของบริษัท" คนอาคเนย์เล่าให้ฟัง
โลโก้ของอาคเนย์ซึ่งเด่นหราที่ติดคู่กับแบงก์บัวหลวงบนอกเสื้อนักวิ่ง คนนับแสนคนชินตา
"COPERATE IMMAGE เขาดีขึ้นมากจากงานนี้หลังจากที่มีเรื่องวุ่นๆ ในบริษัท"
คนในวงการวิพากษ์
ที่น่าสนใจมากที่สุดในบรรดาสปอนเซอร์หลักก็คือโค้ก
คงไม่ต้องบอกว่าคู่แข่งของโค้กคือใคร??? เพราะแทบทุกคนรู้อยู่แล้วว่าเป๊บซี่ที่ตามล้างตามเช็ดกันไม่หยุดหย่อน
ตามล้างกันข้ามประเทศก็อย่างที่เราทราบๆ กันแล้ว
และงานวิ่งลอยฟ้าก็เป็นการปะทะกันอย่างรุนแรงอีกครั้งหนึ่งระหว่างสองคู่แค้น
โค้กนั้นบอกแล้วว่าเป็นเอกซ์คลูซีฟสปอนเซอร์ มีสิทธิ์ใช้โลโก้โฆษณาประชาสัมพันธ์ได้อย่างเต็มที่
และโค้กเองก็หวังว่างานนี้คงสบายใจไม่เจ็บช้ำเหมือนกับเจอบอลลูล เมื่อคราวกีฬาเขตที่เชียงรายเพราะมองไปเห็นแต่บอลลูลของไนกี้ตรงแถวกลางสะพาน
กับบอลลูลของกู๊ดเยียร์ที่ท้องฟ้า เชิงสะพานฝั่งพระนคร โค้กหวังทั้งคอร์ปอเรทแอดเวอร์ไทซิ่ง
สร้างภาพที่ดีต่อบริษัท แถมได้โปรดักส์แอดเวอร์ไทซิ่งอีกต่างหาก และขายสินค้าอย่างสะบายเพราะนักวิ่งก็กระหาย
แต่โค้กถึงกับสะอึกอย่างรุนแรงเพราะป้ายเป๊บซี่ติดอยู่เต็มไปหมด แถมบางอัน
(อย่างรูป) ยังมาประกบโค้กให้ช้ำใจ และที่โค้กช้ำใจมากๆ ก็คือเป๊บซี่หัวเสธทำเป็นเรือลอยน้ำมีเป๊บซี่เพ็ทเด่นชัด
แถมที่เวทีแสดงดนตรีก็มีขวดเป๊บซี่ขนาดใหญ่
"ทำไงได้หละครับ เป๊บซี่เขาเล่นวิธีนี้มาตลอด เขาไปเสนอสร้างเวทีเล่นดนตรีก็ต้องมีสินค้าเขาอยู่"
คนโค้กเล่าแบบปลงๆ
นอกจากสินค้าระดับหลักที่กล่าวมาแล้ว ยังมีสินค้าอื่นๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นโกดักซึ่งมาตั้งร้านขายฟิล์มแถมนำโฟโต้ฟาสท์เคลื่อนที่มา
และมีคนขายฟิล์มอีกต่างหาก แบงก์กรุงเทพก็นำเอาตู้เอทีเอ็มเคลื่อนที่มาบริการรูดเงินกันอย่างสะดวกสบาย
"โกดักเขาให้มา 1 ล้านบาท" ชดช้อยบอก "ผู้จัดการ" และที่เด่นมากยี่ห้อหนึ่งคือไมโล
ที่ไม่ชอกช้ำเพราะไม่เห็นแม้แต่เงาของโอวัลติน
แอดฯเคลื่อนที่ๆ ดุจะถูกนำมาใช้มากในวันนั้นคือหมวกกระดาษ มีสินค้าหลายตัวที่ใจตรงกัน
ไม่ว่าจะเป็น โกดัก ไมโล เป๊บซี่ มะลิ ทุกยี่ห้อทุกคนดูจะใส่หมวกยกเว้นหมวกยี่ห้อแซนนิต้า
ส่วนมากจะถือไว้โดยเฉพาะท่านชาย
เสื้อดูจะเป็นสินค้าอีกตัวหนึ่งที่ใช้เป้นเครื่องมือในการโฆษณาเคลื่อนที่ดีอย่างสิ่งหนึ่งหลายยี่ห้อส่งมาลุยกันเต็มที่
แม้แต่เสี่ยหมา โดมอนก็มาขายกับเขาด้วยได้ทั้งเงินได้ทั้งหน้า
บริษัทห้างร้านต่างๆ ดูจะไม่พลาดโอกาสงามๆ ที่หาได้ยากยิ่งในครั้งนี้ ห้างเซ็นทรัลมาฟอร์มใหญ่ขนพนักงานมาเดินอย่างเป็นระเบียบ
ห้างพาต้ามีหรือจะยอมแพ้ส่งพนักงานจำนวนมากเฉือนกันไม่ลงแถมสวยกว่า แต่ถ้าจะลืมพนักงานในเครือสหพัฒน์ซึ่งงชูป้ายหรา
"มูลนิธิ ดร.เทียม โชควัฒนา" พาเหรดกันมาเป็นทิวแถว ก็ดูจะกระไรอยู่นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานห้างร้านต่างๆ
มากมาย
"งานนี้ได้ราวๆ 20 ล้านเกินเป้าค่ะ" ชดช้อยบอกตัวเลขก่อนขอตัวไปประชุมต่อ
สินค้าอีกตัวที่เป็นเสือปืนไวจริงๆ ก็คือ "บรีส" เพียงชั่ววันเดียวหลังจากงานวิ่งลอยฟ้า
บรีสก็สามารถออกโฆษณาสัมภาษณ์นักวิ่งได้แล้ว "ต้องชมเอเย่นซี่เขาเกาะติดสถานะการณ์"
คนในวงการเอ่ยปาก เหมือนกับบรีสจะเกทับเปาอยู่ในๆ เพราะเปาติดป้ายโฆษณากับตึกแถวข้างสะพานแถมมีป้ายเล็กๆ
เป็นพรืดแถวๆ กำแพง
เรียกว่างานนี้ไม่ใช่เป็นการสร้างภาพพจน์ที่ดีให้กับบริษัทสินค้าอย่างเดียว
ยังเป็นการขายสินค้ากันอย่างขนานใหญ่และยังเป็นการต่อสู้กันระหว่างสินค้าอีกหลายๆ
ตัวด้วย โดยมีสะพานพระราม 9 เป็นสมรภูมิ!!!