ห้องนภาลัย โรงแรมดุสิตธานีวันนั้น (8 พฤศจิกายน) คับแคบไปถนัดใจ เมือบรรดาตัวแทนจำหน่ายของจักรยานยนต์ยามาฮ่ามาชุมนุมกัน
ถึงจะยังไม่ได้เริ่มพิธีแต่แขกเหรื่อก็มามากแล้ว บรรยากาในวันนั้นค่อนข้างอึกทึกเพราะเสียงจากวงดนตรีแบบสตริงที่ทางเจ้าภาพนำมาขับกล่อม
คุณหญิงพรทิพย์ ณรงค์เดช ยังคงสดสวยเหมือนเดิม วัย 40 ของเธอไม่ได้ทำให้เธอลดความกระตือรือร้นลงเลย
มาดของสตรีนักธุรกิจยังเปี่ยมล้นในตัวเธออยู่
เกษม ณรงค์เดช หลังจากที่มีเรื่องวุ่นๆ กับกระดาษชำระไทย-สก็อตต์ วันนี้ก็ต้องมารับหน้าที่กับหมวกอีกใบ,
กรรมการใหญ่บ.สยามยามาฮ่า จำกัด, หลังจากที่ตกลงใจกับธุรกิจของตระกูลณรงค์เดชได้
"ผมจะร่วมทุนกับทาง SCOTT PAPER ต่อไป" เกษมบอกอย่างนั้น ซึ่งไม่เหมือนกับประสิทธ์
ผู้พี่ที่ผูกพันธ์กับ BRAND เซลล็อกซ์
คุณหญิงพรทิพย์ ไม่ยืนคุยกับเกษม แต่นั่งคุยกับแขกที่มาในงานอย่างออกรสผิดกับเกษมที่ยืนแถวๆ
หน้าเวทีกับลูกชายคนโปรด
แขกในงานดูจะชื่นชอบกับอาหารญี่ปุ่น ซูซิ ซาเซมิ และเทมปุระ จากภัตตาคารโชกุนอันลือชื่อ
แวะเวียนเข้ามาไม่ได้ขาด "หมดแล้วค่ะ" สาวไทยในชุดกิโมโนบอกแขกคนหนึ่งซึ่งดูเหมือนจะเป็นผู้สื่อข่าวที่เข้ามาขอซ้ำสอง
ในวันนั้นสื่อมวลชนดูจะมามากเป็นพิเศษ เรียกว่าถ้าเดินผ่านแขก 5 คน จะพบสื่อมวลชน
1 คน เเต่ "ผู้จัดการ" ไปคนเดียว
เมื่อได้เวลาเกษม ณรงค์เดช กล่าวเปิดงาน งานวันนั้นเป็นการเปิดตัวสินค้าใหม่
เมื่อกล่าวจบก็เป็นการฉายภาพวิวัฒนาการของจักรยานยนต์ให้ดูกัน หลังจากนั้นที่จอโปรเจคเตอร์ก็มีมอเตอร์ไซค์ยามาฮ่า
VR 150 พุ่งออกมาที่หน้าเวที สื่อมวลชนผงะเล็กน้อยทั้งๆ ที่คาดไว้แล้ว ปีกซ้ายขวาของห้องมีมอเตอร์ไซค์พุ่งออกมาอีก
4 คัน
เป็นที่น่าสังเกตว่าการออกโปรดักส์แต่ละตัว ปัจจุบันมีวิธีการ PRESENT กันอย่างหวือหวาน่าสนใจ
อย่างแฟ็บเมติคใครจะไปคิดว่าจะไป PRESENT ถึงที่นาซ่าสเปซี่โดรมอย่างน่าทึ่งหรือเซลล์ที่ออก
FORMULA STEEL ก็ลงทุนตกแต่งห้อง CONVENTION CENTER BANGKOK อย่าง THEQUE
จักรยานยนต์นี่เช่นกันถ้าเป็นปีก่อนๆ ออกสินค้าตัวใหม่ก็คงเพียงนำมอเตอร์ไซค์กับสาวสวยมาโชว์ให้ดูก็เท่านั้น
น่าสังเกตแนวโน้มนี้
ยามาฮ่าคงตั้งใจมากเป็นพิเศษ เพราะปีนี้หลังจากออกรุ่นนางพญาไปแล้วเมื่อไม่นานมาที่ผ่านมา
ก็เข็นสปอร์ตรุ่นนี้ออกมาอีก
ปีนี้ยามาฮ่าถูกซูซูกิแซงหน้า หลังจากครองแชมป์มาตลอด "ยามาฮ่า ช่วงหลังนี้ขายดีมากๆ
ผมว่าสิ้นปีอาจแซงซูซูกิ รุ่นนี้ออกมาก็คงจะขายดีช่วงแรกๆ ราคาคงจะเป็นอุปสรรคต่อยอดขาย"
ผู้แทนจำหน่ายคนหนึ่งบอก
และที่น่าสังเกตมากๆ อีกอย่างคือการเคลื่อนไหวของคุณหญิงพรทิพย์ในช่วงนี้
ช่วงนี้คุณหญิงจะผูกพันธ์กับญี่ปุ่นมากเป็นพิเศษเมื่อไม่นานมานี้เธอก็ร่วมลงทุนกับญี่ปุ่นผลิตแอร์ไดกิน
วันศุกร์ที่ 20 เธอก็ร่วมกับญี่ปุ่นเปิดโรงงานผลิตไม้สักส่งออก "ยามาฮ่า
สปอร์ต (ไทยแลนด์) จำกัด"
งานวันนั้นมีขึ้นที่โรงแรมโอเรียนเต็ลห้องรีเจนท์ บรรยากาศแตกต่างจากงานวันนี้ลิบลับทั้งที่ห่างกันไม่ถึงสองอาทิตย์
ตั้งแต่ดนตรีที่ไม่เอาวงสตริงมาเล่นให้อึกทึก แต่เป็นวงเครื่องสายเล่นเพลงคลาสสิกแขกที่มาในงานส่วนใหญ่เป็นชาวญี่ปุ่น
ไม่ใช่เอเย่นต์ชาวจีนอย่างที่ดุสิต จนฝรั่งบางคนที่พลัดเข้ามาอุทานว่า "OH!
JAPANESE PARTY"
คุณหญิงพรทิพย์ ณรงค์เดช ดูจะสวยคนเดียวในแถวต้อนรับแขกในวันนั้น เพราะว่าเธอเป็นผู้หญิงคนเดียว
สุธี สิงห์เสน่ห์พร้อมภริยาก็มาเป็นเกียรติในงาน เกษม ณรงค์เดชถึงกับต้อนรับอย่างดีคงไม่ต้องบอกว่าเพราะอะไร
สุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์มาเดี่ยวท่ามกลางเสียงกระเซ้าจากรมต.คลังว่า "อ้าว!
แล้วแฟนไม่มาด้วยเหรอ"
พารณ อิศรเสนามาในชุดซาฟารี ในบานะนายกสมาคมอุตสาหกรรมไทย ตอบคำถามนักข่าวเป็นพัลวันเรื่องลงทุนปลูกยูคาลิปตัส
ที่เหมือนกับงานยามาฮ่าก็คืออาหารยังคงเป็นอาหารญี่ปุ่น แต่มาคราวนี้ตั้งถึง
3 ซุ้ม ที่ขายดีมากๆ คือเทมปุระและซูซิ ที่เป็นหม้ายคือโซบะ
ผู้สื่อข่าวและช่างภาพมากเหมือนเดิทฃม คราวนี้เป็นอัตรา 4 ต่อ 1
เจ้าภาพยังเป็นคุณหญิงพรทิพย์
ที่สวยเหมือนเดิม!?