|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
กสิกรไทยโชว์พอร์ตบริหารสินเชื่อบุคคลปีแรกหลังเปิดตัวอย่างเป็นทางการ มียอดเพิ่มกว่า 3 หมื่นล้าน หรือ 60% พร้อมลุยต่อครึ่งปีหลัง ตั้งเป้ามีลูกค้าเพิ่มอีก 100 ราย ชี้ภาวะโดยรวมเป็นใจทั้่งภาวะตลาดหุ้น-ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และเตรียมดันผลิตภัณฑ์ใหม่ สตรัคเจอร์ โน้ต หวังเป็นทางเลือกให้นักลงทุน
นายทวิช ธนะชานันท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)(KBANK)เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจPrivate Banking ของธนาคารที่ได้เปิดบริการมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2551 ที่ผ่านมานั้น ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง โดยสินทรัพย์เพื่อการลงทุนภายใต้การบริหารไม่รวมผลิตภัณฑ์เงินฝากและตั๋วแลกเงินมีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า 3 หมื่นล้านบาท เติบโตร่วม 60% เป็น 9 หมื่นล้านบาท ขณะที่สินทรัพย์เพื่อการลงทุนภายใต้การบริหารงาน(AUM)รวมเงินฝากและตั๋วแลกเงินอยู่ที่ 2.5 แสนล้าน
"การเติบโตในช่วงที่ผ่านมาถือว่าดีมาก แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจโดยรวมจะผันผวน โดยการลงทุนในกองทุนรวมมีการเติบโตกว่า 40% ขณะที่การลงทุนในหุ้นกู้เติบโตกว่า 100% รวมทั้งฐานลุกค้าระดับสูงสูงของธนาคารยังมีการเติบโตจากปีก่อนร่วม 20% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าลูกค้ามีความเชื่อมั่นในการให้คำปรึกษา และคำแนะนำจากทีมงานที่ปรึกษาการบรนิหารทรัพย์ส่วนบุคคล(RM) ที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) และผู้เชี่ยวชาญในเครือธนาคารกสิกรไทย โดยอัตราผลตอบแทนโดยประมาณของลูกค้าจะอยู่ที่ระดับ 6-7% ขึ้นอยู่กับรูปแบบการลงทุนที่ลูกค้าเลือกและจังหวะการลงทุน"
สำหรับในช่วงครึ่งปีหลังนี้ เชื่อว่าธุรกิจดังกล่าวยังสามารถเติบโตได้ โดยในปีนี้ธนาคารตั้งเป้า AUM รวมที่ 3 แสนล้านบาท และเพิ่มลูกค้าอีก 100 รายในช่วงที่เหลือปีนี้ จากปัจจุบันที่มีอยู่ 1,400 ราย โดยจะไม่เน้นการเพิ่มลูกค้าใหม่ แต่จะเป็นการยกระดับลุกค้าที่มีอยู่แล้วขึ้นมา พร้อมกันนั้น ในปลายปีนี้ธนาคารเตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เป็นตราสารหนี้ที่มีนโยบายลงทุนสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับนักลงทุน
"ในช่วงที่เหลือของปีนับว่าเป็นช่วงขาขึ้นของการลงทุน แนวโน้มตลาดหุ้น สินค้าโภคภัณฑ์มีแนวโน้มดีขึ้น ส่วนอัตราดอกเบี้ยขณะนี้เชื่อว่าถึงจุดต่ำสุดแล้ว ต่อไปก็น่าจะเป็นขาขึ้น ขณะที่หุ้นกู้หรือตราสารหนี้ ก็ยังคิวของบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานดีที่จะออกมาอีก โดยขณะนี้ธนาคารแนะนำลูกค้าให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้นประมาณ 30-40% กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ 10-15% และกลุ่มตราสารหนี้ระยะสั้นและระยะยาวเพื่อสำรองไว้เป็นสภาพคล่อง"
นางพัชรินทร์ วงศ์ศิริเดช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทยกล่าวว่า ล่าสุดธนาคารได้รับรางวัล Best Private Wealth Managemnet House in Thailand 2009 จากนิตยสาร Alpha Southeast Asia ซึ่งพิจารณาถึงผลารดำเนินงาน การบริการลูกค้า และผลิตภัณฑ์ดีเด่น ซึ่งธนาคารมั่นใจว่าจากพอร์ตรวมดังกล่าวธนาคารมีมาเก็ตแชร์ในธุรกิจดังกล่าวเป็นอันดับ 1
|
|
|
|
|