บล.ธนชาต เน้นกลยุทธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับสินค้าในตลาดอนุพันธ์แก่นักลงทุนเก่าและใหม่ หวังดึงลูกค้าเปิดบัญชีเพิ่ม ตั้งเป้ารักษามาร์เกตแชร์ตลาดอนุพันธ์ปีนี้ที่ 3-3.5% คาดอีก 6 เดือนหน้า single stock future ได้รับความนิยม หลังนักลงทุนเริ่มเข้าใจตัวสินค้ามากขึ้น ด้าน " พิชัย " ชี้เห็นเงินทุนต่างชาติเปลี่ยนการลงทุนไปยังประเทศที่ต้นทุนต่ำแต่คงอยู่ในแถบเอเชีย

นายสมบูรณ์ วัฒนาอาพาศิจ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายธุรกิจตราสารอนุพันธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ธนชาต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวการบริหารงานของบริษัททางส่วนของตลาดอนุพันธ์ (TFEX) ปีนี้คงจะเน้นจัดงานเกี่ยวกับการให้ข้อมูลด้านผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น เพื่อหวังดึงดูดความสนใจของนักลงทุนเดิมที่มีการซื้อขายหุ้นก่อนแล้วและนักลงทุนหน้าใหม่ให้เข้ามาเปิดบัญชีกับทางบล.ธนชาตเพิ่มเติม โดยบริษัทฯ ตั้งเป้ารักษาส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เกตแชร์) ใน TFEX ปีนี้อยู่ที่ 3-3.5% จากปัจจุบันที่ตัวเลขมาร์เกตแชร์อยู่ในระดับใกล้เคียงตัวเลขดังกล่าว

"เราคาดการณ์ว่าอีก 6 เดือนข้างหน้า สัญญาซื้อขายล่วงหน้าอ้างอิงหุ้นสามัญรายตัว (single stock future) น่าจะเริ่มได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากขึ้น เพราะมองว่าน่าจะเป็นจังหวะที่นักลงทุนต่างเริ่มเข้าใจและมีความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ในตลาดอนุพันธ์ที่ดีระดับหนึ่งแล้ว และน่าจะเห็นนักลงทุนใช้ตราสารทางการเงินเป็นช่องทางการลงทุนกันมากขึ้นนอกเหนือจากการซื้อขายหุ้นทั่วไป จากปัจจุบันสินค้าในตลาดอนุพันธ์ที่ได้รับความนิยมนั้นจะเป็น Set50 index futures, Gold Futures ค่อนข้างมาก " นายสมบูรณ์กล่าว

ด้านนายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต มหาชน กล่าวถึงทิศทางเงินทุนของต่างประเทศในอีก 1-3 เดือนจากนี้ว่า ยังคงวงเวียนอยู่ในภูมิภาคเอเชียเพียงแต่อาจมีการย้ายการลงทุนไปยังกลุ่มประเทศที่มีต้นทุนต่ำ โดยหากเปรียบเทียบกลุ่มอุตสาหกรรมของไทยกับประเทศอื่นในภูมิภาคเดียวกัน เช่น กลุ่มพลังงานถือว่ามีตัวเลข P/E ที่ค่อนข้างต่ำแต่มีอัตราผลแทนสูง

ทั้งนี้ จากการสำรวจแนวโน้มการไหลของเม็ดเงินทุนจากต่างชาติในช่วง 6 เดือนแรกของปี 52 พบว่าเงินทุนประมาณ 90% นั้นเคลื่อนไหวอยู่ใน 6 ประเทศหลักในแถบเอเชีย ได้แก่ เกาหลี, ไต้หวัน, อินเดีย, ฟิลิปินส์, อินโดนีเซีย, ไทย โดยเฉพาะสามประเทศแรกที่เม็ดเงินจะไหลเข้าค่อนข้างมาก