Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ พฤศจิกายน 2530








 
นิตยสารผู้จัดการ พฤศจิกายน 2530
อัญมณี "เถื่อน" ข้ามลำน้ำเมย สีสันน้ำเนื้อจากลำไส้ถึงปลายนิ้ว!!!             
 

   
related stories

ปิด (เปิด) บัญชี "ไม้สัก"ปล้นข้ามแผ่นดิน "พม่า"เป็น "โจร" กันดีไหม!!??
แม่สอดสะอื้น อนิจจาการทำดีที่งี่เง่า!!!!
สุรัตน์ โอสถานุเคราะห์คนดีที่ถูกลืม!!
ถลกโสร่งเมืองม่าน (พม่า)ขุดสันดอนเศรษฐีอยู่กระต๊อบ!!
กะเหรี่ยง เสี้ยนตำหัวใจพม่า แนวรบด้านนี้ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

   
search resources

Myanmar
Jewelry and Gold




เรื่องราวหลากหลายที่ปรากฏเหนือแผ่นดินพม่า คงเชยไม่เสร็จถ้าละเลยไม่พูดถึง "อัญมณี" เพราะพม่าได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งอัญมณีอันงามวิจิตร เสน่ห์เลอค่าของทับทิม หยก ไพลิน ยี่หระ เพอริดอท สปินแนล อะคัวมารีน ที่ประทับตราเมด อิน เบอร์มา ถูกยกย่องว่าเป็นเลิศหาความงามใดเสมอเหมือน

ตำนานผลประโยชน์ที่เกิดจากอัญมณี ซึ่งหลายช่วงเวลาเป็นไปท่ามกลางกลิ่นคาวเลือดและเสียงปืนแผดคำรามเหนือสองฟากฝั่งลำน้ำเมยนั้นมีความสำคัญต่อผู้คนไม่น้อย อัญมณีที่ทลักจากพม่าสู่ชายแดนไทยไม่เพียงแต่จะเป็นการค้าที่ทำกำไรให้แก่ผู้เกี่ยวข้องด้วยวงเงินมหาศาลเท่านั้น

หากด้านหนึ่งของความงามกลับกลายเป็นความน่ากลัว น่าสยดสยองที่ได้ฉุดคร่าอิสรภาพให้ชาวพม่าบางคนยอมเสี่ยงเอาชีวิตและความตายของตนเป็นเดิมพัน!!!

ลึกเข้าไปจากฝั่งลำน้ำเมยสู่เขตที่ราบสูงฉาน บริเวณนี้อุดมไปด้วยเทือกภูสลบับซับซ้อนมากมายในระดับความสูงเหนือน้ำทะเล 2-8,000 ฟุต ซึ่งเป็นที่ตั้งของเทือกเขานี้แผ่รัศมีกินวงกว้างถึง 600 ไมล์อยู่เฉียงทางด้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองมัณดะเลย์

ทิวเทือกโมกอคแม้การเดินทางที่ต้องเสี่ยงภัยนานับประการ ก็หาได้สร้างความหวั่นหวาดให้นักเดินทางแสวงโชคระทดท้อไปได้ทุกคนหวังเพราะที่นั่นมันคือ แหล่งกำเหนิดอัญมณีสำคัญที่สุดของพม่า อัญมณีที่ขุดพบจากเทือกเขานี้มีสีสันน้ำเนื้อแพรวพราวเป็นหนึ่งในโลกโดยเฉพาะทับทิม

สมัยพระเจ้ามินดุงใครที่ขุดค้นพบทับทิมราคาพันรูปีต้องนำขึ้นถวาย ไม่เช่นนั้นแล้วหากตรวจพบจะถูกบวยแส้กันกลางเมืองมัณดะเลย์ พม่าจะมีหอการค้าทับทิมทำหน้าที่สืบราชการลับและไล่เบี้ยภาษีโดยตลอดระยะทางจากมัณดะเลย์ถึงเหมืองจะมีคนของหอการค้าประจำตามด่านต่างๆ มากมาย

ไม่ว่าจะมีของมีค่าชิ้นนี้เหลือล้นเพียงใด แต่พม่าก็เข้มงวดไม่ปราณีปราศรัยเช่นเดิม ปัจจุบันการตรวจจับการลักลอบนำอัญมณีออกนอกประเทศยิ่งเพิ่มความรุนแรงเฉียบขาดมากขึ้น เช่นเดียวกันแม้ว่าจะต้องเสี่ยงกับทัณฑ์ทรมานที่โหดร้ายทารุณกรรมเพียงใด คนพม่าก็ยังพร้อมใจที่จะวัดดวงเพราะความหมายของการนำอัญมณีแต่ละเม็ดมาส่งพ่อค้าคนไทยมันบ่งบอกถึงการกินดีอยู่ดีของเขาไปตลอดชีวิต

ความล้มเหลวของระบบโชเชียลลิสต์แบบพม่าๆ สอนให้พวกเขาต้องทำอย่างนั้น!!!

นอกจากเทือกเขาโมกอคที่มีอัญมณีมากมายแล้ว พม่ายังมีบ่ออัญมณีอีกหลายสิบแห่ง และ 15 แห่งที่เป็นบ่อทับทิมอยู่ใน 3 เขตคือมัณดะเลย์ คะยา และมยิคทคียา ก็เป็นทับทิมที่ดีที่สุดในโลก ชนิดที่มีชื่อเสียงมากก็คงเป็นทับทิมสี "แดงเลือดนกพิลาบ" นัยว่าทับทิมชนิดนี้บ่งบอกถึงความรักความซื่อสัตย์ที่ยั่งยืน ผู้หญิงที่ร่วงรู้คุณค่าต่างปรารถนาที่จะมีไว้ในครอบครอง

ลักษณะการทำเหมืองของพม่ามี 3 แบบคือ หนึ่ง-"หลุดวิน" เป็นการทำเหมืองทับทิมที่อยู่ตามซอกในโพรงหินปูนต้องเจาะอุโมงค์เข้าไปค้นหาแบบนี้มีโอกาสพบทับทิมน้ำงาม 25% สอง- "หมิย่อดวิน" เป็นการทำเหมืองทับทิมซึ่งปนอยู่กับหินปูนซึ่งถูกน้ำเซาะพัดพามาทับถมตามไหล่เขา ลักษณะนี้คล้ายกับทำเหมืองแล่นปล่อยให้กระแสน้ำไหลพากรวดทรายไปลงตะแกงแล้วค่อยคัดเลือกหาอัญมณีหรือทับทิม สาม-"ทวินลอน" เป็นการทำเหมืองที่ปล่อยลงสู่ลานแร่ที่อยู่ลึกลงไปจากปล่อง 15-30 ฟุต

พม่าและคนพม่าต้องอับโชคเพราะความไร้เดียงสาทางความคิดของผู้นำประเทศบางคนที่ไม่ลืมหูลืมตามองดูความรุ่งเรืองของโลกภายนอก ขังประเทศไว้กับความอุดมสมบูรณ์ที่ไม่ได้รับการพัฒนาเป็นเวลายาวนานหว่า 30 ปี ทั้งที่พม่าเป็นราชาอัญมณีทว่ารัฐบาลก็มิได้ส่งเสริมอุตสาหกรรมประเภทนี้มากนัก ปีหนึ่งครั้งเดียวที่เปิดให้พ่อค้าภายนอกเข้าไปประมูลซื้อขายกันกลางกรุงย่างกุ้ง

ปีนี้ก็ผ่านไปแล้วเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา อนิจจามหามิตรอย่างไทยที่พม่ากล่อมด้วยยาหอมว่าดีสุดแสนดี เป็นเพื่อนบ้านที่น่ารักเอามากๆ กลับไม่ได้รับเชิญนั่นเป็นเพราะอะไรและนี่หรือคือความรักอันบริสุทธิ์งดงามที่มีต่อกัน

ผู้เชี่ยวชาญอัญมณีหลายท่านบอกว่าถ้าพม่าใจกว้างให้มีการส่งออกอัญมณีเหมือนไทยแล้ว คงใช้เวลาไม่นานนักที่จะกอบโกยเงินตราเข้าประเทศเป็นฟ่อนๆ หรืออาจทำให้พม่ากลายเป็นศูนย์กลางอัญมณีโลกแท้จริงไม่ใช่อิตาลี ฝรั่งเศส หรือไทย

เมื่อเงื่อนไขจากรัฐบาลเฮงซวยทำให้อัญมณีพม่าจำนวนไม่น้อยต้องลักลอบออกมาขายโดยคัดเลือกส่งผ่านจุดชายแดนแม่สอดของไทยเป็นสำคัญ คนพม่าจะลอบนำอัญมณีที่ขุดพบซากมาบเสื้อผ้า หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายเพื่อหลบลี้สายตาเจ้าหน้าที่ตามด่านต่างๆ บางคนถึงกับกลืนลงกระเพาะแล้วค่อยมาถ่ายออกพร้อมอุจระที่ฝั่งไทย หรือถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงก็อาจส่งถ่ายขายให้กับพ่อค้าตามเมืองมัณดะเลย์ ย่างกุ้ง และเมาะละแหม่งนั้นเลย

แต่ที่ผ่านๆ มาขายส่งมายังที่ฝั่งไทยรู้สึกจะได้ราคางดงามกว่ากันหลายเท่าตัว!!!

เส้นทางลำเลียงอัญมณีเข้าไทยส่วนมากพอออกจากเมือง พ่อค้าจะอาศัยเส้นทางที่อยู่ในเขตอิทธิพลกะเหรี่ยงเป็นหลัก โดยจ่ายค่ากหัวคิวให้กับทหารกะเหรี่ยง ที่จะไม่ทำอันตรายต่อพ่อค้าเด็ดขาด เส้นทางที่ใช้ประจำก็คือสายวังข่า เกาะกริก จนมาถึงเมียวดีที่อยู่ตรงข้ามกับแม่สอด "ค่าก๊อก"

คนสำคัญที่ทำหน้าที่ขนลำเรียงคือ "กุลี" หรือพม่าเรียก "แกลี" พ่อค้าเพชรพลอนที่เดินทางเข้าไปซื้ออัญมณีพม่าจะจ่ายเงินค่าของให้ส่วนหนึ่งก่อนตามเปอร์เซ็นต์ราคาเช่น 5-15% ส่วนที่เหลือ "แกลี" จะเป็นคนจ่ายเอง ที่ต้องทำอย่างนี้เพื่อเป็นหลักประกันของพ่อค้าไทยว่า "จะไม่ถูกโกง"

แกลีจะรักษาอัญมณีทุกชนิดด้วยชีวิตพวกนี้สนิทสนมกับกะเหรี่ยงเป็นอย่างดีหลังผ่านทุกด่านก็จะนัดแนะให้พ่อค้าไทยไปรับ ในการซื้อขายอัญมณีบางชนิดเช่นหยกพ่อค้าจะเสนอขายลูกค้าก่อนจะได้ของ ซึ่งถ้าเที่ยวใดไม่สามารถติดต่อลูกค้าได้ทันเวลานัดกับแกลี ก็จะถูกแกลีริบเงินค่าจ้างที่จ่ายล่วงหน้าทันที และแกลีก็มีสิทธิ์ที่จะนำอัญมณีนั้นไปขายให้ใครก้อได้

ทว่าส่วนใหญ่แล้วไม่มีรายการ "นัดแล้วทำไมไม่มา" เกิดขึ้นบ่อยครั้งนักหรอกเพราะคนซื้อคนขายต่างก็มีความไว้เนื้อเชื่อใจกันสูง เพราะผิดพลาดเพียงเสี้ยวเดียวหรือส่อพิรุธให้ทางการจับได้ ล่วงรู้ข้อมูลนั้นก็เท่ากับเป็นการปิดฉากชีวิตนักค้าอัญมณีไปในบัลดล!!!!

ก็รู้กันอยู่ว่าคุกขี้ไก่หรือระบบการจองจำของพม่านั้นไร้เหตุผลกันเพียงใด คนไทยไม่น้อยที่ต่างพลัดหลงเข้าไปเผชิญชะตากรรมนั้น หลายรายถูกขังลืมไปเลยก็มี

ในรอบปีนี้และปีก่อนที่สงครามการสู้รบขับเคี่ยวพม่า-กะเหรี่ยงดุเดือดมากขึ้นมีผลทำให้การค้าอัญมณีหยุดนิ่งไปไม่น้อย บรรดาแกลีไม่กล้าลักลอบขนออกมาซึ่งบางทีปฏิบัติการทางการค้าแบบลับๆ เช่นนี้อาจยุ่งยากยิ่งขึ้น เนื่องจากพม่าได้โหมกำลังที่จะยึดพื้นที่คืนจากกะเหรี่ยงให้ได้ในหลายๆ จุด

แต่ไม่ว่าพม่าจะเปิดพรมแดนทางการค้ากับฝั่งไทยอย่างเป็นทางการหรือไม่นั้น เชื่อว่านักค้าอัญมณีคงไม่ยินดีอะไรมากนักเขาเหล่านั้นคงเสาะแสวงหาหนทางที่จะหลบเลี่ยงด่านต่างๆ กันต่อไป เพราะสิ่งนี้หมายถึงผลกำไรที่ตกมาสู่อุ้งมือมากกว่าการที่จะต้องเสียภาษี!!

คุณเคยมองและนึกเฉลียวใจกันบ้างไหมว่า เบื้องหลังความงามวิจิตรที่ประดับอยู่บนเรียวนิ้วของคุณนั้น บางทีมันได้ผ่านกระบวนการจากลำไส้ของคนบางคน และทุกเม็ดคือความงามที่มีความตายเป็นฐานรองรับ!!!!

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us