ท่ามกลางการแข่งขันแห่งยุคไร้พรมแดน การพัฒนา และการลงทุนด้านเทคโนโลยีเป็นสิ่งสำคัญที่สุด นั่นหมายถึงจากนี้ไปธุรกิจจะต้องเอาชนะกันด้วยกลยุทธ์ทางเทคโนโลยี แต่ก็ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย

กระแสโลกาภิวัตน์ส่งผลให้ การค้าขายระหว่างประเทศเสรี มีลักษณะ ที่ไร้พรมแดนมากขึ้น ได้ทำให้เงื่อนไขของ เวลาเป็นตัวแปรสำคัญประการหนึ่ง ที่ทำให้บริษัทต่างๆ สามารถกำชัยชนะเหนือคู่แข่งตนได้ ด้วยเหตุนี้ธุรกิจการบริการจัดส่งสินค้า และพัสดุภัณฑ์จึงต้อง เข้ามาเกี่ยวข้องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ทีเอ็นที เป็นบริษัทในเครือทีเอ็นที โพสต์ กรุ๊ป (TPG) บริษัทชั้นนำ ด้านการบริการจัดส่งเอกสารด่วน การขนส่งพัสดุภัณฑ์ และไปรณียภัณฑ์สัญชาติเนเธอร์แลนด์ ซึ่งทีเอ็นทีเป็นผู้นำการบริการขนส่งด่วน การจัดการลอจิสติกส์ และการไปรษณียภัณฑ์ระหว่างประเทศ

เดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา นิตยสาร ฟอร์จูน จัดอันดับให้ทีเอ็นทีอยู่ในอันดับ สามของโลกแห่งวงการขนส่งเอกสาร และพัสดุภัณฑ์ด่วน (Express Cou-rier) และเป็นอันดับสองของโลกด้านบริการลอจิสติกส์ (Logistics) สำหรับในภูมิภาคเอเชีย และประเทศไทย ทีเอ็นที จัดอยู่ในอันดับสี่ ด้านจัดส่งด่วน ตามหลัง UPS, FedEx และ DHL

อย่างไรก็ตาม หากดูถึงกลยุทธ์ การลงทุนด้านเทคโนโลยี เพื่อนำมาดำเนิน ธุรกิจ ทีเอ็นทีถือว่าเป็นอันดับต้นๆ เมื่อเทียบกับคู่แข่ง เพื่อรองรับการเติบโต และ การขยายตัวธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ

ล่าสุด ทีเอ็นทีทุ่มเงินถึง 2.3 ล้าน ยูโร อัพเกรดระบบไอที ด้วยการติดตั้งเครื่องเซิร์ฟเวอร์สำหรับองค์กร (enter-prise server) เวอร์ชั่นใหม่ เพื่อเพิ่มประ สิทธิภาพเครือข่ายข้อมูลเชื่อมถึงกันทั่วโลก

การลงทุนติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ใหม่ในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถ ในการประมวลผลข้อมูลของศูนย์ข้อมูลกลางของทีเอ็นที "เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายการพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ และโครงการลงทุนในธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ" ดร.ชวาน มูบารัก ผู้อำนวยการฝ่ายสารสนเทศ และ อี-คอมเมิร์ซของทีเอ็นที อธิบาย

ในประเทศไทยทีเอ็นทีได้พัฒนา การให้บริการในรูปแบบใหม่มาเรื่อยๆ อย่างเช่น การให้บริการ "เว็บ คอลเล็ค ชั่น" หรือการเรียกใช้บริการส่งพัสดุภัณฑ์ ด่วนผ่านระบบอินเทอร์เน็ต

จากนั้น ก็มีบริการ TNT Loop ซึ่งเป็นการให้บริการแบบครบวงจรแบบ back-end โซลูชั่นสำหรับอี-คอมเมิร์ซ เทคโนโลยี ที่สมบูรณ์แบบ "โดยใช้หลัก การ demand chain management ในทุกๆ ขั้นตอนของการทำธุรกิจบนอินเทอร์เน็ต" วินฟรีด คีย์บุย ผู้จัดการทั่วไป ประจำประเทศไทยของทีเอ็นทีกล่าว

จากการเร่งการให้บริการโดยนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้นั้น ส่งผลให้ทีเอ็นทีในไทยต้องดำเนินธุรกิจแบบ aggres-sive "ภายใน 5 ปีข้างหน้า เราจะโตให้ได้ 300%" คีย์บุยบอก

อย่างไรก็ดี การให้ความสำคัญต่อเทคโนโลยีของทีเอ็นทีจะไม่ใช่ คำตอบสุดท้ายของการดำเนินธุรกิจ "เป็นการทำให้เราเกิดความแตกต่างจากคู่แข่ง"

หากมองถึงรูปแบบการทำตลาดว่าในการให้บริการจริงๆ นั้น ทีเอ็นทีต้อง การสร้างความแตกต่าง "เราไม่ต้องการเป็นเบอร์หนึ่ง แต่ต้องการสร้างความพอใจให้กับลูกค้า ลูกค้ามองเราว่าสามารถแก้ปัญหาเรื่องการขนส่งได้

ดังนั้น การที่ทีเอ็นทีนำเทคโน โลยีเข้ามาก็ เพื่อช่วยให้มีตัวเลือกมากขึ้น ในการแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้าเท่านั้น