Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ พฤศจิกายน 2530








 
นิตยสารผู้จัดการ พฤศจิกายน 2530
สุรัตน์ โอสถานุเคราะห์คนดีที่ถูกลืม!!             
 

   
related stories

ปิด (เปิด) บัญชี "ไม้สัก"ปล้นข้ามแผ่นดิน "พม่า"เป็น "โจร" กันดีไหม!!??
แม่สอดสะอื้น อนิจจาการทำดีที่งี่เง่า!!!!
ถลกโสร่งเมืองม่าน (พม่า)ขุดสันดอนเศรษฐีอยู่กระต๊อบ!!
กะเหรี่ยง เสี้ยนตำหัวใจพม่า แนวรบด้านนี้ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
อัญมณี "เถื่อน" ข้ามลำน้ำเมย สีสันน้ำเนื้อจากลำไส้ถึงปลายนิ้ว!!!

   
search resources

สุรัตน์ โอสถานุเคราะห์
Commercial and business
Political and Government




ร.ต.อ.สุรัตน์ โอสถานุเคราะห์ อดีต รมว.พาณิชย์ อาจเป็นชื่อหนึ่งของการตัดสินที่พิจารณากันอย่างผิวเผิน คงจำกันได้ว่าเป็นเพราะแรงบีบคั้นจากเรื่องไม้พม่าที่มีการชักฟอกกันกลางสภาในปีที่ผ่านมา แม้ว่าอดีตรัฐมนตรีสุรัตน์จะได้รับเสียงไว้วางใจให้ปฏิบัติงานในหน้าที่ต่อ แต่ด้วยความมีสปิริตทางการเมืองทำให้คนผู้นี้จำต้องถอนตัวไปอยู่วงนอก

ความเดิมของเรื่องนี้ที่ผูกพันมาจนถึงปัจจุบันมีอยู่ว่า อดีตรัฐมนตรีสุรัตน์เป็นคนที่เซ็นคำสั่งอนุมัติให้ 2 บริษัทคือ บริษัทสหกสิกิจวิศวการ จำกัด กับบริษัทสการ์บี้ จำกัด นำเข้าไม้จากฝั่งพม่าเพื่อนำมาแปรรูปและส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศได้ โดยที่ไม้ของสองบริษัทนี้ได้รับการยืนยันจากกองทัพภาคที่ 3 อย่างหนักแน่นแล้วว่า "เป็นไม้ที่ตัดมาจากฝั่งพม่าจริง"

อดีตแม่ทัพภาคที่ 3 ที่ใช้ชีวิตราชการส่วนใหญ่อยู่ในเขตพื้นที่ จ.ตาก-จ.แม่ฮ่องสอน ท่านหนึ่งได้ย้ำว่า ไม้ที่นำมาจากฝั่งพม่านั้นเป็นประโยชน์ที่เมืองไทยไม่ควรจะปล่อยทิ้งเพราะนอกจากจะได้มาแบบไม่สิ้นเปลืองมากนักแล้ว ยังเป็นการช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรของประเทศมิให้ร่อยหรอเร็วขึ้นอีกด้วย

แต่เป็นที่น่าเสียดายมากกว่าทั้งเหตุผลและข้อเท็จจริงต่างๆ ที่ยืนยันจากหลายหน่วยงานซึ่งคลุกคลีในเรื่องนี้โดยตรงมิได้มีผลทำให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เชื่อมั่นจนต้องมีการพลิกโผถอนใบอนุญาตของ 2 บริษัทดังกล่าว ซึ่งเรื่องนี้มีข่าวว่า พล.อ.เปรม เป็นคนที่ลงมือสั่งการเองโดยในที่ประชุม ครม.นัดหนึ่ง (ปี 2526 ภายหลังมีคำสั่งอนุมัติ) ซึ่งการประชุมนัดนี้อดีตรัฐมนตรีสุรัตน์ไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย ในวันนั้นมีเสียงกล่าวว่า พล.อ.เปรมได้เดินทางไปหานายไพโรจน์ ไชยพร รมช.พาณิชย์แล้วบอกว่า

"คุณไพโรจน์ นี่รัฐมนตรีว่าการเขาไม่อยู่คุณอย่าปล่อยไม้ออกไปนะ ของโจรนะ ทำอย่างนี้ไม่ได้" เหตุผลของ พล.อ.เปรม ในเรื่องนี้ก็เพื่อรักษาน้ำใจและสัมพันธภาพกับรัฐบาลพม่าเนื่องจากเห็นว่าไม้ที่จะทะลักออกมานั้นเป็นการซื้อขายกับกะเหรี่ยงอิสระ

"ผู้จัดการ" ได้รับการยืนยันเรื่องนี้อีกครั้งว่า คนที่ดำเนินการมิให้ไม้พม่าออกมาหาผลประโยชน์ได้นั้นนัยว่าตัวพล.อ.เปรม มีส่วนสำคัญไม่น้อยเรื่องนี้นายกฯคนซื่อคอเอียงเล่นอย่างไม่ไว้หน้าใครทั้งสิ้น เพราะแม้แต่บริษัท สหกสิกิจวิศวการนั้น ถึงจะมีน้องชายคนเล็กของพล.อ.เปรม คือวีระณรงค์ ติณสูลานนท์ร่วมอยู่ด้วย ก็ถูกฟันอย่างไม่ไยดี โดยวีระณรงค์ดึงนักลงทุนจากฮ่องกงเข้ามาร่วมทุนถึง 400 ล้านบาท ทั้งนี้หากสามารถนำไม้พม่าออกมาได้จริงจะฟันกำไรเหนาะๆ ล็อตหนึ่งๆ หลายร้อยล้านบาท

แต่เมื่อเหตุการณ์พลิกตาลปัตรไปหมดเลยต้องเจ็บสะบักสะบอมขาดทุนไปหลายสิบล้าน (มีข่าวว่าวีระณรงค์ยังไม่เข็ดเขี้ยวคงขึ้นล่องกรุงเทพกับตาก-แม่ฮ่องสอนเพื่อหาลู่ทางอีกหน)

ภายหลังที่ พล.อ.เปรมกำชับหนักหนาว่าไม้พม่าเป็นไม้โจร และให้มีการยกเลิกใบอนุญาตทางพรรคฝ่ายค้านก็ได้ยื่นญัตติไม่ไว้วางใจอดีตรัฐมนตรีสุรัตน์เมื่อ 25 กันยายน 2529 โดยหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นประเด็นวิพากษ์สำคัญ จนกลายเป็นเงื่อนไขที่สำคัญที่ทำให้อดีตรัฐมนตรีสุรัตน์ต้องถอนสมอออกจากเก้าอี้ในที่สุด

เหตุการณ์ในครั้งนั้นอดีตรัฐมนตรีสุรัตน์ได้แสดงความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวออกมาให้เป็นที่ประจักษ์อย่างมากด้วยการประกาศหัวชนฝาว่า "ไม้พม่านี้ตนยินดีสนับสนุนทุกคนเพราะมันเป็นประโยชน์ที่เราสมควรจะได้รับ ตนต้องการทำถูกต้องตามกฎหมายซึ่งไปขัดขวางกระบวนการขัดขวางผลประโยชน์บางคนจึงสร้างเรื่องขึ้นมาโจมตี"

ที่น่าคิดมากก็คือว่า จากเดือนที่อดีตรัฐมนตรีผู้นี้ต้องพ้นไปจากเก้าอี้จนถึงขณะนี้สภาพการณ์ที่เป็นไปได้บ่งฟ้องเป็นอย่างดีแล้วว่า ความคล่องตัวทางเศรษฐกิจของเมืองชายแดน 3-4 แห่งที่เคยอยู่ได้เพราะการค้าไม้นั้นต้องเหี่ยวเฉาไปกับนโยบายห้ามนำเข้าหนักหนาสาหัสสากรรจ์ขนาดไหน??

หอการค้าตาก ระนอง กาญจนบุรี ไม่สามารถนิ่งดูดายเรื่องนี้ต่อไปได้อีก ต้องผนึกกันทำหนังสือชี้แจงผ่านสภาหอการค้าฯให้รัฐบาลทบทวนนโยบายดังกล่าวเสียใหม่ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้ไขมากกว่านี้

หรือแม้แต่ผู้นำพรรคฝ่ายค้านที่เปิดฉากคารมหวดกระหน่ำอดีตรัฐมนตรีสุรัตน์จนยับเยินอย่างบุญชู โรจนเสถียร เมื่อได้ดูสภาพความเป็นจริงของขบวนการค้าไม้ที่ชายแดนแม่สอดโดยข้ามไปฝั่งพม่าตรงด่านวังข่า ถึงกับยอมรับว่า "เรื่องนี้ไม่เห็นว่าจะเป็นเรื่องเสียหายต่อประเทศไทยอย่างใดไม่ หนำซ้ำกลับเป็นผลดีที่ควรค่าแก่การสนับสนุนเสียอีก"

บุญชูยังรับปากกับพ่อค้าว่าจะพยายามวิ่งเต้นช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน!!

ก็เรื่องนี้ถ้าจะให้ความเป็นธรรมกับอดีตรัฐมนตรีสุรัตน์กันสักหน่อย ไม่มองกันด้วยสายตาและความคิดที่เป็นอคติเกินขอบเขต ทั้งๆ ที่คุณสุรัตน์ก็บอกแล้วว่า "ยินดีสนับสนุนทุกคนให้ทำถูกต้องตามกฎหมาย" เชื่อว่าป่านฉะนี้คงไม่ต้องมานั่งขบคิดและต่อสู้กันให้ปวดหัว ปล่อยให้รายได้มหาศาลต้องหลุดลอยไปอย่างน่าเสียดายยิ่งนัก

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us