สุระ จันทร์ศรีชวาลา ตั้งบริษัทบอสตัน เอเยนซี่ ที่อ่องกง ด้วยเงินเพียง 1 เหรียญเท่านั้น ผู้ถือหุ้นก็เป็นทนายความหนึ่งในนั้นคือ แมนเซอ บิน อับดุลรามาน สำนักงานตั้งอยู่ที่ 2201 GLOUCESTER TOWER, THE LANDMARK, PEDDER STREET, HONGKONG

ผู้รู้บอกว่า ปีหนึ่ง ๆ บริษัทจดทะเบียนในฮ่องกงล้มละลายหรือมิได้ดำเนินธุรกิจปีหน่งมีจำนวนมากมาย ดังนั้นชาวต่างประเทศต้องการจะตั้งบริษัทดำเนินการค้า หรือเป็นโฮลดิ้งคัมปะนี อย่างที่คนไทยหลายคนไปทำในฮ่องกงนั้น ก็เพียงแต่เสียค่าธรรมเนียมให้ศาลเพียง 1 เหรียญก็ได้บริษัทนั้นมา

สุระใช้วิธีนี้ ซึ่งพบว่า มีชื่อบริษัทถูกใจ 2 บริษัทแต่ในที่สุดเลือกชื่อนี้ คนที่รู้จักสุระ, รู้ว่ามี เศรณีเป็นผู้วางแผนอยู่เบื้องหลังด้วย และรู้ต่ออีกว่า เศรณีเรียนจบจากบอสตันก็เลยทึกทักใช้ชื่อนี้เอาฤกษ์เอาชัย ?

เช่นเดียวเมื่อเพ็ญชาติตกลงขายหุ้น 25% ให้เอบีซี. เมื่อประมาณปลายเดือนกรกฎาคม 2530 เพื่อป้องกันปัญหากฎหมายประเทศไทยที่ค่อนข้างพิสดาร เอบีซีจึงตัดสินใจตั้งบริษัทแบบเดียวกับบอสตันเอเยนซี่เกาะเจอร์ซี่ ในช่องแคบอังกฤษ บริเวณดังกล่าวปัจจุบันเป็นที่แห่งใหม่สำหรับนักลงทุนผู้พยายามซ่อนสินทรัพย์ของตนเอง ซึ่งเคลื่อนย้ายมาจากเกาะเบอร์มิวด้า หรือเคย์แมนถือกันว่าเดินทางไม่สะดวก

การตั้งบริษัทในเกาะเจอร์ซีกระทำได้โดยง่าย ไม่จำเป็นต้องมีสำนักงานเลย เรียกันว่า MAIL BOX COMPANY ซึ่งการเดินทางเรือติดต่อกับเกาะอังกฤษเพียงไม่กี่สิบนาที !

ปัญหาอีกข้อหนึ่ง คือ นิติบุคคลจะถือหุ้นเกิน 5% มิได้ เอบีซี จึงตั้งบริษัทขึ้นทั้งหมด 5 บริษัท โดยมีทนายความของเขา และอธึก อัศวานนท์ ทนายความของบริษัทที่ปรึกษากฎหมายเบเกอร์แอนด์เมอร์เคนซี ซึ่งมีสำนักงานอยู่กรุงเทพคอยวิ่งเต้นอำนวยความสะดวกในประเทศไทย

เรื่องของเรื่องก็มีอยู่เท่านี้

บริษัททั้ง 5 ตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2530 ตั้งอยู่เลขที่ 15 BROAD STREET, ST. HELIER, JERSAY ประกอบด้วย 1. WEPTON PROPERTIES LTD. 2. KAVITA INVESTMENT LTD. 3. BORONIA HOLDING LTD. 4. SHEREEN INVESTMENT LTD. 5. VANER HOLDING LTD.

เวลายุ่งยากที่สุดก็คือ เวลา 24 ชั่วโมงของวันที่ 2 กันยายน สำนักงานทนายความเบเกอร์แอนด์แมคเคนซี่ เศรณี เพ็ญชาติ และกรพจน์ อัศวินวิจิตร ทำงานกันตลอดทั้งคืนตามขั้นตอน หนึ่ง - ขอดูทะเบียนหุ้นของสหธนาคารล่าสุด โดยส่งทนายความไปจัดการ แต่ถูกฝ่ายบรรเจิดหน่วงเหนี่ยวจนค่ำ จึงได้รายชื่อขั้นต้นจากนั้นใช้ข้อมูลใหม่มาปรับปรุงใหม่ จนถือว่าใกล้เคียงความจริงที่สุด สอง - ใช้คอมพิวเตอร์คำนวณเพื่อให้สัดส่วนที่ถือของนิติบุคคลแต่ละบริษัทมิให้เกิน 5% และต่างชาติรวมกันไม่เกิน 49% จากนั้นก็คือ การโอนหุ้นจากนิติบุคคลนี้สู่บุคคลนั้น หรืออีกบริษัทหนึ่ง ทั้งเผื่อเหลือเผื่อขาดป้องกันมิให้ปัญหาข้อกฎหมาย เช่น กรณีมาบุญครอง สาม - การเจรจาขั้นตอนการทำงานในการโอนหุ้นผ่านตลาดหลักทรัพย์กับบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ร่วมเสริมกิจทุกอย่างเสร็จสิ้นก็ 9.00 น.ของวันที่ 3 กันยายน อันเป็นเวลาเปิดทำการของตลาดหลักทรัพย์ฯ พอดี !