Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTVผู้จัดการรายวัน21 กรกฎาคม 2552
แบงก์เล็กโชว์กำไร-"KK-ACL"พุ่งแรง             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารกรุงเทพ

   
search resources

ธนาคารกรุงเทพ, บมจ.
Banking and Finance




แบงก์ตบเท้ารายงานผลดำเนินงานไตรมาส 2 แบงก์ขนาดใหญ่พอเอาตัวรอด "บัวหลวง"กำไรลดเล็กน้อย ขณะที่"กรุงไทย"ยังเด่นโชว์กำไรเพิ่ม 14% แม้ NIM จะลดเหลือ 3.03% จาก 3.57% ระบุจากรายได้ค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้น ด้านแบงก์เล็ก"สินเอเซีย-เกียรตินาคิน"หวือหวากำไรพุ่ง 61% และ 143%ตามลำดับ ส่วน"นครหลวงไทย"โปรยยาหอมคาดครึ่งปีหลังกำไรดีกว่าครึ่งปีแรก

ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) แจ้งถึงผลการดำเนินงานของธนาคารไตรมาส 2 ว่า มีกำไรสุทธิจำนวน 4,859 ล้านบาท(คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 2.53 บาท) ลดลง 174 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 1.6%เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีนี้ รวม 6 เดือนแรกของปี ธนาคารมีกำไรสุทธิ 9,728 ล้านบาท(คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 5.10 บาท) ลดลง 931 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 8.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ สินเชื่อรวมของธนาคารในไตรมาส 2 ลดลงในอัตราที่ชะลอตัวจากไตรมาส 1 โดยสินเชื่อ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2552 มีจำนวน 1,099,474 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 6.2 จากสิ้นปี 2551 โดยส่วนใหญ่เนื่องจากลูกค้าธุรกิจมีการชำระคืนสินเชื่อประเภทเงินทุนหมุนเวียน ซึ่เงป็นผลจากการลดลงของราคาวัตถุดิบและยอดการสั่งซื้อสินเชื่อลดลงตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว

อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสที่ผ่านมา ธนาคารยังคงดำเนินงานตามเป้าหมายหลักสำคัญ 4 ด้านได้เป็นที่น่าพอใจ ได้แก่ ด้านสภาพคล่อง ด้านรายได้ค่าธรรมเนียม ด้านคุณภาพสินเชื่อ และด้านสถานะเงินกองทุน โดยธนาคารสามารถรักษาสภาพคล่องให้อยู่ในระดับสูง ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2552 ธนาคารมีเงินฝากเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3 จากไตรมาสก่อนหน้า ส่งผลให้อัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากอยู่ที่ร้อยละ 81.1

นอกจากนี้ ธนาคารยังมีรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.2 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ขณะเดียวกันสามารถลดยอดสินเชื่อด้อยคุณภาพลงจำนวน 1,691 ล้านบาท ทำให้อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมลดลงจากร้อยละ 4.8 ณ วันที่ 31 มีนาคม 2552 เป็นร้อยละ 4.6

สำหรับด้านสถานะเงินกองทุนธนาคารดำรงอัตราส่วนเงินกองทุนเมื่อรวมกำไรของครึ่งปีแรกแล้ว อยู่ที่ร้อยละ 15.8 ซึ่งเป็นระดับที่แข็งแกร่งและสามารถสนับสนุนให้ธนาคารดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคงภายใต้สภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงผันผวนต่อเนื่อง

นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า ในสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวธนาคารยังคงยึดแนวทางเดิมในการดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อสามารถสนับสนุนลูกค้าที่มีศักยภาพได้อย่างเหมาะสมทันท่วงที ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ลูกค้าสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง อันจะเกิดประโยชน์ที่ดีกับเศรษฐกิจโดยรวมแล้ว ยังช่วยการควบคุมคุณภาพสินเชื่อในไตรมาสนี้ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ

ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2552 ธนาคารมีเงินฝากทั้งสิ้น 1,355,687 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2551 จำนวน 44,210 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.4 เป็นผลสืบเนื่องจากผู้ฝากเงินมีความเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของธนาคาร ประกอบกับการขยายฐานเงินฝากอย่างสม่ำเสมอ

**กรุงไทยโชว์กำไรเพิ่ม14%**

ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)หรือ KTB แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า ธนาคารมีกำไรสุทธิในไตรมาส 2 ปี 2552 จำนวน 2,325 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 291 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ช่วง 6 เดือนแรกของปีธนาคารมีกำไรสุทธิ 4,710 ล้านบาท ลดลง 1,463 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 23.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมี Non-Performing Loans(net) ประจำไตรมาส สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2552 อยู่ที่ 60,865,205,361.34 บาท คิดเป็นร้อยละ 5.08 และ Non-Performing Loans (gross) อยู่ที่ 87,939,279,183.50 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 7.18

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ได้ชี้แจงผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2552 ว่า ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิเท่ากับ 10,347 ล้านบาท ลดลง 735 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.63 จากไตรมาส 2/2551 ส่วนหนึ่งเกิดจากรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลลดลง ขณะที่อัตราผลตอบแทน (NIM) เท่ากับร้อยละ 3.03 ลดลงจากไตรมาส 2/2551 ซึ่งเท่ากับ ร้อยละ 3.57

ส่วนรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยในไตรมาส 2/2552 เท่ากับ 2,803 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 982 ล้านบาท หรือร้อยละ 53.93 จากไตรมาส 2 ปี 2551 โดยธนาคารมีรายได้จากค่าธรรมเนียมและบริการในไตรมาส 2/2552 เท่ากับ 2,283 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 490 ล้านบาท หรือร้อยละ 27.33 จากไตรมาส 2 ปี 2551

ด้านเงินให้สินเชื่อรวม ณ 30 มิถุนายน 2552 มีจำนวน 1,092,507 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46,421 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.44 จากสิ้นปี 2551 และมีเงินฝาก ณ 30 มิถุนายน 2552 เท่ากับ 1,138,718 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 75,186 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.07 จากสิ้นปี2551

**ACL-KKกำไรQ2พุ่ง**

นายธงชัย อานันโทไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารสินเอเซีย จำกัด (มหาชน) แจ้งว่า ผลการดำเนินงานของธนาคารและบริษัทย่อยในช่วง 6 เดือนแรกของปีทีผ่านมา มีกำไรจำนวน 205 ล้านบาท(คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.19 บาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 186 ล้านบาท โดยในไตรมาส 2 ของปี ธนาคารมีกำไร 108 ล้านบาท (คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.10 บาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 61 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 67 ล้านบาท และธนาคารมีสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL net) ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2552 อยู่ที่ 2,023,920,071.89 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 3.92

ทั้งนี้ ในไตรมาสที่ 2 ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิจำนวน 514.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 119.3 ล้านบาท หรือร้อยละ 30.2 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีการขยายตัวของธุรกิจสินเชื่อเมื่อเทียบในช่วงเวลาเดียวกันจำนวน 6,053.7 ล้านบาท หรือร้อยละ 15.1 ขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยในไตรมาสที่สอง มีจำนวน 258.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 78.1 ล้านบาท หรือร้อยละ 43.4 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากกำไรจากการขายเงินลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น 122.3 ล้านบาท

ด้านค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ยในไตรมาสที่สอง มีจำนวน 333.9 ล้านบาท ลดลงจำนวน 37.7 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากในไตรมาสเดียวกันของปีก่อนได้มีค่าใช้จ่าย จากการด้อยค่าของเงินลงทุนในบริษัทย่อยจำนวน 79.9 ล้านบาท

ด้านธนาคารเกียรตินาคิน แจ้งว่า ธนาคารมีกำไรสุทธิในไตรมาส 2 จำนวน 607 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 357 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 143% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รวม 6 เดือนแรกของปีมีกำไรสุทธิ 986 ล้านบาท 128 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 15 เมื่อเทียบเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

**สคิบคาดครึ่งปีหลังกำไรพุ่ง**

นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) (SCIB) กล่าวว่า ธนาคารเชื่อว่าแนวโน้มผลกำไรในครึ่งปีหลังจะดีขึ้นต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก โดยคาดว่าไตรมาสที่เหลือจากนี้กำไรจะดีต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 2/2552 ซึ่งเติบโตมากกว่าเท่าตัวจากไตรมาส 1/2552 เนื่องจากฝ่ายจัดการของธนาคารมีความพร้อม รวมทั้งมีความชัดเจนในแผนงาน โดยธนาคารได้ทำการปรับโครงสร้าง ปรับวิธีการทำงาน รวมทั้งบริหารจัดการพอร์ตสินเชื่อให้ดีขึ้น

"แนวโน้มครึ่งปีหลังจะดีเหมือนกับไตรมาส 2 ที่ผ่านมา เพราะฝ่ายจัดการเชื่อว่าธนาคารมีความพร้อมที่มากขึ้นและมีความชัดเจนในแผนงานมากขึ้น จึงเชื่อว่าทำได้"

นายชัยวัฒน์กล่าวถึงผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกว่า การดำเนินงานของธนาคารในด้านต่างๆ มีความก้าวหน้าอย่างเห็นได้ชัด สะท้อนจากผลประกอบการในครึ่งแรกของปีที่ประสบความสำเร็จอย่างน่าพอใจ มีกำไรสุทธิตามงบการเงินรวม 1,870 ล้านบาท เป็นกำไรในไตรมาสแรก 651 ล้านบาท และอีก 1,219 ล้านบาท ในไตรมาสสอง ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว ขณะที่มีกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะ 1,862 ล้านบาท แม้ต้องเผชิญกับความท้าทายของภาวะเศรษฐกิจและการเมืองที่ผันผวน

ทั้งนี้ ผลจากการขยายธุรกิจทำให้ไตรมาสนี้ธนาคารมีรายได้เพิ่มขึ้นทั้งรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ และรายได้มิใช่ดอกเบี้ย โดยมีรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิ 3,267 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 252 ล้านบาท หรือร้อยละ 8 เนื่องจากสามารถบริหารต้นทุนเงินฝากได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ยเพิ่มจากร้อยละ 2.94 ในไตรมาสแรกเป็นร้อยละ 3.21ในไตรมาสนี้ ขณะที่รายได้มิใช่ดอกเบี้ยมีจำนวน 1,248 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 262 ล้านบาทหรือร้อยละ 27 จากไตรมาสแรก ที่มีจำนวน 986 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นผลจากรายได้ค่าธรรมเนียมที่มีการปรับตัวดีขึ้น โดยเพิ่มขึ้นจาก 566 ล้านบาทในไตรมาสแรกเป็น 638 ล้านบาทในไตรมาสนี้ ขณะที่สามารถบริหารค่าใช้จ่ายให้อยู่ในระดับทรงตัว ทำให้ธนาคารมีประสิทธิภาพในการดำเนินงานดีขึ้น โดยมี Cost to Income Ratio เพียงร้อยละ 50 ลดลงจากไตรมาสแรกที่เท่ากับร้อยละ 57

ด้านฐานะการเงิน ณ สิ้นมิถุนายน 2552 ธนาคารมีสินทรัพย์รวม 413,540 ล้านบาท เป็นเงินให้สินเชื่อ 278,975 ล้านบาท หรือเติบโตในระดับร้อยละ 0.3 จากสิ้นธันวาคม 2551 เป็นการเติบโตของสินเชื่อรายย่อยสูงถึงร้อยละ 20

ทั้งนี้ ธนาคารนครหลวงไทย แจ้งผลการดำเนินงานช่วง 6 เดือนแรกของปีมีกำไร 1,870 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 2,157 ล้านบาท โดยไตรมาส 2 ของปีนี้ ธนาคารมีกำไรสุทธิ 1,219 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 823 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us