Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTVผู้จัดการรายวัน20 กรกฎาคม 2552
'SIRI'ลุยลอนดอนขายคอนโดฯไฮโซขยายตลาดยุโรป             
 


   
www resources

โฮมเพจ แสนสิริ

   
search resources

แสนสิริ, บมจ.
เศรษฐา ทวีสิน
Real Estate




แสนสิริ (SIRI) เสือซุ่มบุกตลาดต่างประเทศ ประเดิมซื้อตึกเก่ารีโนเวทใหม่ ทำคอนโดฯ 6 ยูนิต เริ่มต้น 60 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 600 ล้านบาท ใจกลางกรุงลอนดอน ย่าน High Street Kensington แต่ยังจับกลุ่มเศรษฐีในไทยที่สนมีบ้านในลอนดอน พร้อมตั้งทีมศึกษาตลาดบุกอสังหาฯเอเชียและยุโรปต่อเนื่อง

ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทอสังหาริมทรัพย์ของไทย ต่างได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่งผลให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศ ลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ประกอบการด้านอสังหาฯ พยายามประคับประคองธุรกิจให้อยู่รอดท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจ บริษัทอสังหาฯรายกลางและเล็ก ต้องชะลอการลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ หรือ ขายทิ้งโครงการให้แก่ผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อรักษาสภาพคล่องต่อไป ขณะที่ ในระยะที่ผ่านมา บริษัทอสังหาฯของไทยที่จะลงทุนในต่างประเทศ แถบจะไม่เห็นความเคลื่อนไหวที่ชัดเจน

นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ เพื่อหาโอกาสและตลาดใหม่ๆ โดประเทศแรกที่จะเข้าไปลงทุน คือ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยได้จัดตั้งบริษัทใหม่ที่ประเทศสิงคโปร์ โดยมีบริษัทแสนสิริฯถือหุ้น 100% บริษัทดังกล่าวจะทำหน้าที่หลักในการลงทุนโครงการอสังหาฯในตลาดต่างประเทศ

“สำหรับการลงทุนในต่างประเทศนั้น แสนสิริได้วางแผนและศึกษาตลาดอสังหาฯของต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศอังกฤษมาเป็นระยะเวลากว่า 5 ปีแล้ว โดยสาเหตุที่เลือกลงทุนในประเทศอังกฤษก่อน คือ ช่วงเวลานี้ตลาดอสังหาฯ ในอังกฤษอยู่ในช่วงซบเซา เป็นการเอื้อต่อผู้ประกอบการที่มีกำลังทุนและความเข้าใจในตลาดที่จะเข้าไปทำธุรกรรมซื้อ-ขายที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะใจกลางกรุงลอนดอนที่ความต้องการที่อยู่อาศัยชั้นดีของผู้บริโภคยังมีมาก ในขณะที่โครงการที่เกิดใหม่ก็มีน้อยด้วยข้อจำกัดทางกฎหมายของประเทศอังกฤษ ทำให้เรามองเห็นช่องว่างของตลาด โดยการเข้าไปซื้อโครงการและปรับปรุงใหม่ให้ทันสมัยและทำให้คุณภาพดีขึ้นกว่าเดิมเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ”

นอกจากนี้ ความเคลื่อนไหวในอัตราแลกเปลี่ยนเงินสกุลปอนด์ของสหราชอาณาจักร ที่มีมูลค่าลดลงกว่าเมื่อก่อน รวมถึงแนวโน้มของชาวต่างชาติ ที่เข้าไปซื้อที่อยู่อาศัยในกรุงลอนดอนเก็บเอาไว้ เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยสำหรับบุตรหลานที่เดินทางไปศึกษายังประเทศอังกฤษ และความต้องการมีบ้านพักอาศัยหลังที่สอง ซึ่งมีคนไทยหลายคนต้องการ อีกทั้ง บริษัทยังมีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาสินค้าระดับ A+ มาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เชื่อว่าการเข้าไปลงทุนใน ประเทศอังกฤษจะเป็นตลาดที่บริษัทชำนาญอยู่แล้ว

สำหรับโครงการแรกที่แสนสิริไปลงทุน เป็นการซื้อโครงการอาคารที่อยู่อาศัยและนำมาพัฒนาเพิ่มมูลค่าให้แก่โครงการด้วยการปรับปรุงใหม่ โดยตัวโครงการมีมูลค่าประมาณ 600 ล้านบาท เป็นอาคารชุดที่ตั้งอยู่บนถนน Elvaston ย่าน High Street Kensington กลางกรุงลอนดอน ซึ่งเป็นย่านที่อยู่ใน Conservation Area และเป็นย่านที่ที่มีราคาแพงที่สุดในลอนดอน โดยโครงการนี้เป็นอาคารชุด 6 ยูนิต ขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 1 -3 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ประมาณ 60 – 160 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นประมาณ 60-160 ล้านบาท (1.16-2.85 ล้านปอนด์) พร้อมเปิดขายในช่วงเดือนเมษายน 2553 โดยจะเปิดขายที่ประเทศไทยเท่านั้น

“โครงการนี้ถือเป็นโครงการนำร่องสำหรับแสนสิริ ในการบุกเบิกตลาดต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าจะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน เพราะว่าเรายังใช้ฐานลูกค้ากลุ่มเดิม และแสนสิริยังคงวางเป้าหมายที่กลุ่มเป้าหมายคนไทยเป็นหลัก แม้ว่าจะบุกไปที่ตลาดต่างชาติก็ตาม ส่วนการลงทุนในประเทศอื่นๆ นั้นขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการศึกษาทั้งในกลุ่มประเทศในย่านเอเชีย และยุโรป โดยได้จัดตั้งทีมงานสำหรับดูแลงานด้านต่างประเทศเพื่อศึกษาประเทศต่างๆ โดยเฉพาะอีกด้วย ซึ่งได้วางเป้าหมายการตลาดต่างประเทศจะสามารถทำรายได้ให้กับบริษัทเพิ่มขึ้นประมาณ 5-10% ภายใน 3 ปี” นายเศรษฐา กล่าว

สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในครึ่งปีแรก สามารถสร้างยอดขายรวมในช่วงครึ่งปีแรกประมาณ 9,200 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 55% ของยอดขายทั้งปีจากที่วางเป้าหมายไว้ที่ประมาณ 17,000 ล้านบาท นอกจากนี้ กลุ่มแสนสิริ มียอดขายที่รอรับรู้รายได้ (Pre-sale backlog) จากโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียม เป็นมูลค่ากว่า 18,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้จะรับรู้รายได้ในปีนี้ 14,300 ล้านบาท หรือคิดเป็น 87% ของเป้าหมายการขาย ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้ภายใน 1-3 ปี โดยในด้านฐานะของบริษัท ณ ไตรมาส 1 ปี 52 มีสินทรัพย์รวม 24,000 ล้านบาท หนี้สินรวม 14,937 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 9,080 ล้านบาท อัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ 9.63 % อัตราส่วนของผลตอบแทนผู้ถือหุ้้น 14.94% มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 4,067.22 ล้านบาท

อนึ่ง ก่อนหน้านี้ บริษัทพฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ได้ปรับแผนกลยุทธ์ใหม่ เพื่อรักษาอัตราการเติบโตทางธุรกิจในประเทศ และขยายธุรกิจไปต่างประเทศ เช่น อินเดีย จีน เวียดนาม อินโดนีเซีย เป็นต้น รวมทั้งการรักษาสถานะการเป็นองค์กรที่มีความมั่นคงทางการเงิน

สำหรับการขยายธุรกิจไปต่างประเทศนั้น บริษัทประเดิมการลงทุนในเมืองบังกาลอร์ อินเดีย เป็นประเทศแรก โดยตั้งบริษัทชื่อ “พฤกษา อินเดีย” ซึ่งพฤกษาลงทุนเอง 100% เพราะกฎหมายของอินเดียเปิดโอกาสให้พร้อมทั้งซื้อที่ดินไว้ประมาณ 60-70 ไร่ เพื่อพัฒนาโครงการสำหรับบ้านจัดสรร มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท ตั้งราคาขายทาวน์เฮาส์ยูนิตละ 1-1.5 ล้านบาท บ้านเดี่ยว 2.5-3 ล้านบาท ส่วนแผนร่วมลงทุนกับนักธุรกิจอินเดียนั้น คาดว่าจะพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม เพราะพันธมิตรผู้ร่วมทุนมีความสนใจในตลาดนี้มากกว่าบ้านจัดสรร   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us