|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นยี้ประเทศไทย ขึ้นทำเนียบเป็น แบล็ค คันทรี งดเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ชี้เหตุจากปัจจัยลบรุมเร้าต่อเนื่อง ทั้งการเมือง และ การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ระบุตอนนี้ตลาดสุดหงอย ภาพรวมทั้งปีจำนวนนักท่องเที่ยวติดลบกว่า 50% จากปีก่อน หรือไม่ถึง 5 แสนคน จี้ ภาครับและททท.เร่งกู้ภาพลักษณ์ประเทศ จัดแฟมทริปดึงความเชื่อมั่นคืนก่อนถึงไฮซีซั่นสิ้นปีนี้
นายเอนก ศรีชีวะชาติ ประธานสมาคมท่องเที่ยวไทย-ญี่ปุ่น เปิดเผยว่า สถานการณ์นักท่องเที่ยวจากประเทศญี่ปุ่นที่จะเดินทางเข้ามาประเทศไทยปีนี้ น่าจะลดลงจากปีก่อนไม่น้อยกว่า 50% มีมีจำนวนรวมทั้งปีเพียง 500,000 คน จากทุกปีตลาดนี้จะเดินทางเข้ามาประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 1,000,000 คน
ทั้งนี้เพราะปัจจัยลบที่กระทบต่อการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยที่มีมา อย่างต่อเนื่อง ทั้งปัญหาการเมือง และ การระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่พบผู้ติดเชื้อและตายเพิ่มขึ้นทุกวัน ทำให้ชาวญี่ปุ่นมองประเทศไทยเป็นเดสติเนชั่นที่ไม่น่าเดินทางมาท่องเที่ยว หรือ แบล็ค คันทรี
จากเหตุผลดังกล่าว ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวจากประเทศญี่ปุ่นที่เดินทางเข้ามาประเทศไทย ผ่านบริษัทนำเที่ยวช่วงครึ่งปีแรกมีเพียง 200,000-300,000 คน เท่านั้น ส่วนไตรมาสที่ 3 นี้ คงไม่เดินทางมาแน่นอน จากข่าวการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 เพราะเกรงว่าจะเข้ามาติดเชื้อ ดังนั้น จึงต้องรอว่ารัฐบาลจะควบคุมการระบาดและหยุดจำนวนผู้ติดเชื้อได้ทันในไตรมาส 4 หรือไม่ ถ้าสามารถทำได้ อาจทำให้ชาวญี่ปุ่นหันกลับมาเที่ยวประเทศไทยเหมือนเดิม
“ที่ผ่านมาชาวญี่ปุ่นมองประเทศไทยเป็นไวท์ คันทรี หรือหากมีสถานการณ์บ้างเล็กน้อยก็มองเป็นแค่ เกรย์คันทรี แต่ครั้งนี้ เขามองเราเป็นแบล็ค คันทรีไปแล้วคือหมายความว่าเป็นเมืองที่ไม่น่าจะมาท่องเที่ยวแล้วในช่วงนี้ เพราะมีปัจจัยลบมากมาย ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาลและหน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งกู้ภาพลักษณ์การท่อง เที่ยวของประเทศไทยให้ฟื้นกลับมาโดยเร็วที่สุด พร้อมกับเปลี่ยนมุมมองให้ชาวญี่ปุ่นมองประเทสไทยเป็นไวท์ คันทรี เหมือนเดิมโดยเร็ว เพราะตลาดนี้จัดเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพ ที่มีการใช้จ่ายสูงด้วย”
อย่างไรก็ตาม ต้องการให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) หันมาให้ความสำคัญทำตลาดเชิงรุกและกู้ภาพลักษณ์ประเทศไทยในตลาดญี่ปุ่นอย่าง เร่งด่วน เช่น ช่วยเป็นเจ้าภาพจัดแฟมทริป เชิญตัวแทนบริษัทนำเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น 3-4 พันคน เข้ามาสำรวจเส้นทางในประเทศไทย เพื่อให้เขาได้มาเห็นความจริงว่าประเทศไทยยังเป็นเดสติเนชั่นที่น่าท่อง เที่ยว มีความปลอดภัย และไม่มีความวุ่นวายใดเกินขึ้นแล้ว มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย พร้อมกับประสานไปยังการบินไทย ขอตั๋วเครื่องบินราคาพิเศษ
ส่วนผู้ประกอบการจะหารือกับภาคเอกชน และ สมาคมโรงแรมไทย เพื่อขอห้องพักราคาพิเศษด้วย โดยต้องเริ่มโครงการให้ได้ภายในเดือน ก.ค.-ก.ย.นี้ เพื่อให้บริษัทนำเที่ยวสามารถกลับไปจัดทำแพกเกจขายทัวร์มาประเทศไทยได้ทันไฮ ซีซั่นปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า ซึ่งหากไม่รีบดำเนินการจะทำให้ประเทศไทยเสียโอกาสทางการแข่งขันด้วยเช่นกัน
|
|
|
|
|