Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายวัน13 กรกฎาคม 2552
บจ.ใหม่ปีนี้ส่อพลาดเป้า             
 


   
search resources

Stock Exchange




วงการตลาดหุ้นเชื่อหุ้นไอพีโอปี 52 อาจพลาดเป้าที่ 37 ราย หลังเจอปัจจัยลบรุมเร้าตลาดหุ้นไตรมาส 3/52 และครึ่งปีแรกยังไม่ถึงครึ่ง มูลค่าระดมทุนแค่ 687 ล้านบาท ไม่ติดฝุ่นปีก่อนที่สูงถึง 1.8 หมื่นล้านบาท ด้าน"ชนิตร" เชื่อไม่มีบริษัทเลื่อนเทรด ชี้ชัดปีนี้ภาพรวมดีกว่าปี 2551 ส่วนโบรกเกอร์แบ่งรับแบ่งสู้ภาวะตลาดกับราคาหุ้น แต่ยืนยันทุกบริษัทที่เข้าระดมทุนปัจจัยพื้นฐานดี

วิกฤตเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้น และยังไม่มีท่าทีจะยุติลง สร้างผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยในหลายด้าน ทั้งด้านภาวะดัชนีหุ้นที่มีความผันผวน มูลค่าการซื้อขายลดลง เม็ดเงินต่างชาติไหลเข้ามาในระยะสั้นสูงมาก ขณะเดียวกัน ยังส่งผลกะทบถึงการนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯด้วยเช่นกัน จึงทำให้มีการคาดการณ์ว่า สุดท้ายแล้วภายในสิ้นปีนี้จะมีบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯไม่ถึง 37 รายตามที่คณะกรรมการตลาดหุ้นได้ปรับลดเป้าเอาไว้จากเดิม 46 รายในช่วงแรก

ASTV ผู้จัดการรายวัน ได้สำรวจพบว่า ในช่วงครึ่งปีแรก 2552 มีหลักทรัพย์ใหม่ที่เข้ามาซื้อขายเพียง 7 ราย โดยแบ่งเป็นในตลาดหลักทรัพย์ฯ 2 ราย ได้แก่ TTCL และ JMART ส่วนอีก 5 ราย ในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ หรือ mai ได้แก่ AIM AGE TPOLY HTECH และ QLT โดยมี 6 บริษัทที่ประเดิมซื้อขายวันแรกและสามารถยืนเหนือราคาจองเมื่อปิดตลาดได้ มีเพียง TPOLY เพียงรายเดียวเท่านั้น ที่ราคาปิดต่ำกว่าราคาจอง (ตารางประกอบข่าว)

**ย้อนมูลค่าระดมทุนลดลงวูบ!

ส่วนสถิติในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา พบว่า ในปีนี้มีโอกาสที่จะมีบริษัทจดทะเบียนใหม่(ตลาดหลักทรัพย์ฯ และ ตลาดmai) มากกว่า ปี 2550 และปี 2551 ซึ่งมีจำนวน 13 และ 12 รายตามลำดับ โดยในปี2549 มีบริษัทเข้าจดทะเบียน 18 ราย และในปี 2547 กับปี 2548 มีจำนวนสูงถึง 50 รายเท่ากัน ภายใต้เงื่อนไขเป้าบริษัทจดทะเบียนของตลาดหลักทรัพย์ฯไม่คาดเคลื่อนมากนัก

อย่างไรก็ตาม มูลค่าระดมทุนของบริษัทจดทะเบียนใหม่ในปีนี้ทั้ง 7 รายเมื่อรวมกันยังมีน้อยกว่าช่วง 5 ปีที่ผ่านมามากนัก โดยครึ่งปีแรก 2552 ทั้ง 7 ราย มีมูลค่าระดมทุนเพียง 687.50 ล้านบาท ขณะที่ปี 2551 มีมูลค่า 18,389.30 ล้านบาท ปี2550 มีมูลค่า 10,782.50 ล้านบาท ปี 2549 มีมูลค่า 36,786.88 ล้านบาท และปี 2548 มีมูลค่า 30,149.30 ล้านบาท

**เปิดโผรายชื่อว่าที่IPOน้องใหม่

ขณะเดียวกันเมื่อตรวจสอบข้อมูลไปยังสำนักงานก.ล.ต.พบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 10 ก.ค. 2552 มีจำนวน 6 บริษัทที่นับ 1 Filing (ไฟลิ่ง) แล้ว ได้แก่ บมจ.เนชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็นดูเทนเมนท์ เริ่มนับ 1 ไฟลิ่งเมื่อวันที่ 30 เม.ย. ,บมจ.ธนาสิริ กรุ๊ป เริ่มนับ 1ไฟลิ่ง 18 พ.ค. ,บมจ.เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น เริ่มนับ 9 มิ.ย. , บมจ. มุ่งพัฒนา อินเตอร์แนชชั่นแนล เริ่มนับ 12 มิ.ย. ,บมจ.เกียรติธนา ขนส่ง เริ่มนับ 19 มิ.ย. และบมจ. วินเทจ วิศวกรรม เริ่มนับ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา

ส่วนบริษัทที่อยู่ระหว่างยื่นต่อสำนักงานก.ล.ต. นอกเหนือจาก 6 รายข้างต้น ได้แก่ บมจ.ยูบิลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ , บมจ.โอเพ่น เทคโนโลยี ,บมจ.เซาท์เทิร์นสตีล ,บมจ.สาลี่คัลเลอร์ , บล.ไอร่า, บมจ.สหวิริยา เพลทมิล, บมจ.ไทยสตีลโปรไฟล์, บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต , บมจ.ผลธัญญะ ,บมจ.สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ , บมจ.สยามโกลบอลเฮ้าส์ , บมจ.เมืองใหม่ กัตทรี, บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ ,บมจ.สหไทยสตีลไพพ์ , บมจ.ธนาสิริ กรุ๊ป, บล. เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด , บมจ.ไทยง้วนเอทานอล,บมจ. ธีระมงคลอุตสาหกรรม,บมจ. ซีทีวี ดอลล์ และบมจ.เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ ที่กำลังจะเปิดซื้อขายวันแรกในวันที่ 28 ก.ค.นี้

**ตลท.ลั่น10รายจ่อประเดิมเทรดก.ย.

นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้ช่วยผู้จัดการ กลุ่มงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวว่า จากที่ผู้คาดการณ์ภาวะตลาดหุ้นในไตรมาส 3 นี้จะไม่ดีนัก ส่วนตัวเชื่อว่าเรื่องดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัทที่เตรียมตัวจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และตลาดเอ็มเอไอ เนื่องจากทุกบริษัททราบดีว่าภาวะตลาดหุ้นมีความผันผวน ซึ่งถือว่าปกติ และทิศทางตลาดหุ้นปีนี้ถือว่าดีกว่าปีที่ผ่านมา อีกทั้งจากที่ได้หารือกับบรรดาบริษัทต่างๆซึ่งมีแผนเข้าจด ในไตรมาส 3 พบว่า ยังไม่มีรายใดขอเลื่อนแผนการเข้าจดทะเบียนออกไป

ปัจจุบัน มีบจ.อยู่ระหว่างกำหนดวันเปิดจองซื้อหุ้นและเข้าจดทะเบียน 10 แห่ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลประกอบการไตรมาส 2 ที่จะใช้ประกอบการตัดสินใจในการกำหนดราคาและวันเปิดจอง เพราะผู้บริหารมั่นใจผลประกอบการจะอยู่ในเกณฑ์ดีและเป็นปัจจัยที่จะสร้างความสนใจให้นักลงทุนเข้ามาซื้อหุ้นไอพีโอ ซึ่งคาดว่าจะหลายบริษัทที่จะเปิดจองในช่วงปลายเดือนสิงหาคม และเข้าซื้อขายได้ในเดือนกรกฎาคมนี้

อย่างไรก็ตามแม้ผลประกอบการไตรมาส2 ของบางบริษัทจะออกมาไม่ดี เชื่อว่าบริษัทดังกล่าวยังคงเดินหน้าเข้าจดทะเบียนตามกำหนดเดิม เพราะจะครบกำหนดระยะเวลาที่ก.ล.ต.อนุญาตให้เสนอขายหุ้น และปีนี้จะเป็นปีสุดท้ายที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ทำให้บริษัทที่ได้รับการอนุญาตแล้วต้องเดินหน้าเข้าจดทะเบียนต่อไป

**ฝ่ายไอบีเชื่อภาวะหุ้นQ3ไม่กระทบIPO

นายเอกจักร บัวหภักดี ผู้จัดการฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.พัฒนสิน กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยที่อาจจะปรับตัวลดลงในช่วงไตรมาส 3/52 อาจมีผลต่อการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนเช่นกัน แต่คงไม่มากนัก เนื่องจากทุกฝ่ายเข้าใจสถานการณ์ดี และมีความพร้อมในเข้าจดทะเบียนอยู่แล้ว

ส่วนความกังวลว่าหากนำหุ้นเข้ามาซื้อขายในช่วงภาวะตลาดไม่ดี และอาจทำให้ราคาในวันแรกปิดต่ำกว่าราคาที่เสนอขายนั้น เชื่อว่าทุกอย่างอยู่ที่จังหวะเวลาในการเข้าจดทะเบียน และไม่มีผลต่อบริษัทมากนัก เนื่องจากทุกบริษัทที่บล.พัฒนสินเป็นที่ปรึกษา ล้วนมีพื้นฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง โดยในไตรมาส 3 นี้ มีจำนวน 2 บริษัทได้แก่ บมจ.ยูบิลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ และ บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต

นายชูพงศ์ ธนเศรษฐกร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.คันทรี่ กรุ๊ป กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นที่ไม่ค่อยดีนักในไตรมาส 3 นี้จะไม่มีผลกระทบต่อแผนการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนแต่อย่างใด เนื่องจากดีลของบริษัทล้วนมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง โดยในเดือนสิงหาคมนี้ บมจ.เซาท์เทิร์นสตีล ซึ่งบริษัทรับเป็นที่ปรึกษา จะเดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ตามกำหนดการเดิม ส่วนเป้าการนำบริษัทเข้ามาจดทะเบียนในปี 2552 นั้น ทางบล.คันทรี กรุ๊ป ไม่ได้กำหนดตัวเลขที่ตายตัว แต่ขอเลือกนำเข้าจากความพร้อม และสภาพธุรกิจที่ความแข็งแกร่งมากกว่า

นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM กล่าวว่า แนวโน้มหุ้นไอพีโอในไตรมาส3/52 ยังอยู่ในช่วงขาขึ้น แม้จะไม่หวือหวาเหมือนในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา แต่เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี ซึ่งโดยส่วนใหญ่หุ้นไอพีโอที่เข้ามาระดมทุนในช่วงนี้จะเป็นหุ้นของบริษัทที่มีพื้นฐานดี ที่เป็นเครื่องดึงดูความสนใจของนักลงทุนได้ อีกทั้งปัจจัยในเรื่องของการลดหย่อนภาษีอาจมีส่วนเข้ามาเป็นจุดกระตุ้นการเข้าระดมทุนของบรรดาบริษัทจดทะเบียนได้ รวมถึงในเรื่องของดอกเบี้ยเงินฝากที่ต่ำก็อาจเป็นจุดที่ส่งผลให้นักลงทุนต่างหันมาลงทุนในตลาดหุ้นแทนการนำเงินไปออมในธนาคาร

สำหรับในปีนี้บริษัทคาดการณ์รายได้ของธุรกิจวาณิชธนกิจ (FA) ที่เติบโตขึ้น 20-30% จากปีก่อนที่มีรายได้ประมาณ 40-50 ล้านบาท โดยในปีนี้ตั้งเป้านำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ประมาณ 3-5 บริษัท ซึ่งที่ผ่านมาได้นำบมจ. เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE) เข้าจดทะเบียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และในช่วงเดือนกรกฎาคมจะนำบมจ. เสนาดีเวลลอปเม้นท์ หรือ SENA เข้าจดทะเบียนอีก 1 บริษัท โดยจะเข้าเทรดในวันที่ 28 กรกฎาคมนี้ และบมจ. สยามโกลบอลเฮ้าส์ ในช่วงเดือนสิงหาคมนี้

นอกจากนี้ ภายในปีนี้ยังมีอีกประมาณ 2 ราย คือ บมจ. ธีระมงคลอุตสาหกรรม หรือ TMI บมจ. ซีทีวี ดอลล์ รวมทั้งได้ตั้งเป้าในปี 53 อีก 3-5 บริษัท อาทิ บริษัท คาตัลอุตสาหกรรม จำกัด (CARL TON),บริษัท UNITRIO , บริษัทนิลโกศล จำกัด ,บริษัท ZEMAT จำกัด และบริษัท กระปุกดอทคอม จำกัด ทั้งนี้ แต่ละบริษัทจะมีกองทุนเข้าร่วมถือหุ้นด้วยในสัดส่วนประมาณ 10-15%

ด้านนายวิชา โตมานะ หัวหน้าฝ่ายวาณิชธนกิจ บล. ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไอพีโอในช่วงไตรมาส 3 นี้คงไม่คึกคักเท่าที่ควร เนื่องจากกระแสของการเลื่อนเข้าจดทะเบียนที่ส่งสัญญาณมาตั้งแต่ในช่วงปลายปีที่แล้ว ทำให้ตลาดซบเซาลงไป โดยในปีนี้บริษัทมีดีลที่จะนำเข้าจดทะเบียนอยู่จำนวน 2 ราย คือ บมจ. ควอลลีเทค (QLT) ที่นำเข้าจดทะเบียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และบมจ.เกียรติธนาขนส่ง ที่คาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดเอ็มเอไอได้ปลายไตรมาส 3 ส่วนปีหน้าบริษัทมีแผนที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนจำนวน 3 บริษัท โดยทั้งหมดนี้จะเข้าจดทะเบียนในตลาดเอ็ม เอ ไอ ซึ่งเป็นธุรกิจประเภทวัสดุอุตสาหกรรม ธุรกิจเกษตร และธุรกิจสื่อสาร

“ผมประเมินว่าในไตรมาส 3 นี้ มีความเป็นไปได้ที่หุ้นใหม่จะเข้าจดทะเบียนไม่ถึง 10 บริษัท ตามที่หลายฝานคาดการณ์ไว้ ซึ่งจะส่งผลต่อเป้าหมายทั้งปีของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ตั้งไว้ 37 บริษัทด้วย แต่ยังมีโอกาสดีขึ้นกว่าช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2549 -2551) ซึ่งจำนวนบริษัทเข้าจดทะเบียนเพียง 18 , 13 และ 12 รายตามลำดับ”   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us