|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ถิรไทย เทรดวอร์แรนต์วันแรกจำนวน 67 ล้านหน่วย กำหนดราคาใช้สิทธิหุ้นละ 3 บาท คาดได้เงินกว่า 200 ล้านบาท หวังใช้เป็นทุนรองรับการขยายงาน เล็งเพิ่มส่วนงานส่งออกเป็น 45% ฟุ้งปีนี้กวาดรายได้ตามเป้า 2.6 พันล้านบาท จากงานที่มีในมือกว่า 2.2 พันล้านบาท
นายสัมพันธ์ วงษ์ปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TRT เปิดเผยถึง ว่าใบสำคัญแสดงสิทธิ (วอร์แรนต์) ที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัท เมื่อ 14 พ.ค. เพื่อใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญครั้งที่ 1 (TRT-W1) จำนวน 67,547,500 หน่วย อายุ 2 ปี นับจากวันที่ออกวอร์แรนต์ ซึ่งใช้สิทธิแปลงเป็นหุ้นสามัญได้ทุกๆ 6 เดือน และกำหนดราคาใช้สิทธิหุ้นละ 3 บาท จะเข้าซื้อขายวันนี้ ( 9 กรกฎาคม 52 ) เป็นวันแรก คาดว่าจะได้รับเงินจากการแปลงวอร์แรนต์กว่า 200 ล้านบาท
โดยเงินที่ได้จะใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน และรองรับการขยายตัวของธุรกิจที่เพิ่มขึ้นในส่วนของการผลิตหม้อแปลงไฟฟ้ากำลังขนาดใหญ่และยังช่วยสร้างฐานะทางการเงินให้มั่นคง โดยตั้งเป้า 2 ปีข้างหน้าอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน ( D/E RATIO ) ลดลงเหลือ 1 เท่า จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.3-2 เท่า
สำหรับปีนี้บริษัทมั่นใจว่ารายได้จะเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ 2,600 ล้านบาท จากการรับรู้รายได้งานในมือ (Back Log) ที่มีอยู่มูลค่ากว่า 2,200 ล้านบาท ส่วนของผลการดำเนินงานช่วงไตรมาส 2/52 คาดว่าจะทำได้ใก้ลเคียงกับไตรมาส 1/52 ที่ผ่านมา และบริษัทก็พยายามที่จะรักษาอัตราการเติบโตของกำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ในปีนี้ใกล้เคียงกีบปีก่อนที่ 20-25%
ทั้งนี้รายได้หลักปีนี้จะมาจากงานภาครัฐ เอกชน และส่งออกต่างประเทศ ซึ่งมีสัดส่วนประมาณ 33% เท่าๆกัน ซึ่งไตรมาส2 บริษัทได้รับงานผลิตหม้อแปลงไฟฟ้ากำลังขนาดใหญ่ 300 MVA แรงดัน 230 Kv จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิต 2 ตัว โดยมีมูลค่าโครงการกว่า 200 ล้านบาท คาดสามารถรับรู้รายได้ในปีหน้า
นอกจากนี้บริษัทมีงานอยู่ระหว่างการดำเนินงานหลายโครงการ อาทิ งานการไฟฟ้านครหลวง ที่มูลค่างาน 176 ล้านบาท งานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มูลค่างาน 210 ล้านบาท งานไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย มูลค่างาน 21 ล้านบาท โครงการ Hi-Tech Systems ประเทศอินเดีย มูลค่างาน 129 ล้านบาท และโครงการStone & Webster ประเทศสิงคโปร์ มูลค่างาน 108 ล้านบาท คาดว่าปีนี้บริษัทน่าจะเติบโตไม่น้อยกว่า 20% และตลาดยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะยาวไปได้อีก
" แม้เศรษฐกิจโลกจะมีการผันแปรไปตามสภาพ แต่บริษัทเราก็ถือว่ายังอยู่ในสภาพที่โชคดีกว่าธุรกิจอื่นๆ เพราะด้วยความที่ธุรกิจเรายังอยู่ในประเภทสาธารณูปโภคที่ยังมีความจำเป็นของประเทศและภูมิภาค ซึ่งเราเป็นส่วนหนึ่งของการขยายตัวของภาคการไฟฟ้า ในส่วนการส่งออกก็ยังคงมีการขยายไปเรื่อยๆ ตามอาเซียน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และในเอเชียใต้" นายสัมพันธ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการส่งออกต่างประเทศในอีก 2 ปีข้างหน้าเพิ่มขึ้นเป็น 40-45% จากปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่ประมาณ 33% เนื่องจากตลาดในประเทศมีอัตราการเติบโตจำกัด ขณะตลาดต่างประเทศค่อนข้างกว้างขวางกว่าและยังขยายไปได้อีกไกล โดยบริษัทฯจะมุ่งเน้นในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียใต้ โดยจะเน้นในส่วนของสินค้าหม้อแปลงขนาดใหญ่ ซึ่งอนาคตรายได้จากหม้อแปลงขนาดใหญ่จะเพิ่มสูงขึ้นตามการขยายตัวของตลาด ซึ่งน่าจะมีสัดส่วนไม่เกิน 20% ปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้จากหม้อแปลงขนาดใหญ่อยู่ที่ประมาณ 10-20% ต่อปี
|
|
|
|
|