Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTVผู้จัดการรายวัน9 กรกฎาคม 2552
F&Nทุ่ม2พันล.ผุดโรงงานใหม่แตกไลน์"รังนกผสมนม-มอลต์ "             
 


   
search resources

Food and Beverage
เอฟแอนด์เอ็น แดรี่ส์ (ประเทศไทย), บจก.
สมศักดิ์ ชายะพงศ์




เอฟแอนด์เอ็น ทุ่ม 2,000 ล้านบาท ผุดโรงงานแห่งใหม่ ที่ จ.อยุธยา เร่งขยายกำลังผลิตรับรองกลุ่มนมและนโยบายปั้นสินค้าใหม่ลงตลาด แตกไลน์”เครื่องดื่มรังนกผสมนมไขมันต่ำและมอลต์สกัด หวังกินรวบตลาดรังนก นมแคลเซียม เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ 7,000 ล้านบาท ตั้งเป้า 3-5ปี กวาดแชร์ 10-20% จากตลาดรังนก ส่วนรายได้รวมทั้งปีโต 17% จากยอดร่วม 1 หมื่นล้านบาทปีที่ผ่านมา

นายสมศักดิ์ ชายะพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอฟแอนด์เอ็น แดรี่ส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายนมตราหมีสเตอรีไรส์ นมข้นคาร์เนชั่น เปิดเผยว่า จากนโยบายการดำเนินธุรกิจของบริษัท มุ่งเน้นการผลิตอาหารและเครื่องดื่มโดยไม่จำกัดเฉพาะการทำตลาดนมเท่านั้น ล่าสุดบริษัทได้ทุ่มงบ 2,000 ล้านบาท สร้างโรงงานแห่งใหม่ขึ้น ที่ จังหวัดอยุธยา อ.โรจนะ เพื่อขยายกำลังการผลิตภัณฑ์นมข้นคาร์เนชั่น นมสดตราหมี และสินค้าใหม่ๆ ที่บริษัทวางแผนจะเปิดตัวในอนาคต ซึ่งคาดว่าจะเริ่มใช้กำลังการผลิตโรงงานใหม่ในปีหน้านี้ จากปัจจุบันบริษัทมีโรงงาน ที่ ปากช่อง โดยผลิตนมพาสเจอร์ไรส์ และน้ำผลไม้ เป็นต้น

“นโยบายการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย การเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ ในระหว่าง 3-5 ปี จะต้องสร้างรายได้ 300 – 1,000 ล้านบาท ซึ่งหากต่ำกว่าเป้าหมาย บริษัทจะเลิกทำตลาดสินค้าดังกล่าวทันที โดยในช่วงครึ่งปีหลังจากนี้ จะมีสินค้าออกมาหลากหลายมากขึ้น”

ล่าสุดบริษัทได้ทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาท แตกโปรดักส์ไลน์เครื่องดื่มรังนกผสมนมไขมันต่ำและมอลต์สกัด ภายใต้แบรนด์”เอฟแอนด์เอ็น โกลด์” วางตำแหน่งตลาดเป็นเครื่องดื่มรังนก โดยแนวทางการตลาดบริษัทสร้างพฤติกรรมให้ผู้บริโภคสามารถดื่มได้ทุกวัน ภายใน 3-5 ปี ด้วยการใช้กลยุทธ์ราคาถูกกว่าสินค้าคู่แข่ง 50% หรือ 130 ซีซี ราคา 68 บาท ส่วนสินค้าอื่นๆ 72 ซีซี ราคา 140 บาท เนื่องจากพฤติกรรมปัจจุบันเป็นการซื้อฝากเป็นของขวัญ และมีการดื่มเพื่อการบำรุง 1 เดือนต่อครั้งเท่านั้น อีกทั้งสินค้ายังมีข้อจำกัดด้านรสชาติที่คล้ายยา

การเปิดตัวสินค้าใหม่ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจไม่ดี บริษัทมองว่าเป็นโอกาสทางการตลาด อีกทั้งบริษัทมีความเชี่ยวชาญพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์นมอยู่แล้ว ประกอบกับตลาดรังนกมูลค่า 2,000 ล้านบาท มีการเติบโต 20-30% ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพ นอกจากนี้บริษัทยังมองการขยายฐานลูกค้าไปสู่ตลาดนมแคลเซียมมูลค่า 2,000 ล้านบาท และตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพมูลค่า 3,000 ล้านบาท โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเจาะกลุ่มเป้าหมายผู้ที่เริ่มเข้าสู่วัยทำงานอายุ 25 ปีขึ้นไป และนักเรียน นักศึกษา เป็นต้น จำหน่ายผ่านช่องทางห้างสรรพสินค้า โมเดิร์นเทรด และตู้แช่ต่างๆ

“พฤติกรรมของผู้บริโภคชื่นชอบการทดลองสินค้าใหม่ๆ แต่ขณะเดียวกันการทำตลาดเครื่องดื่มหรือของกินก็ต้องมีรสชาติที่อร่อย และราคาที่คุ้มค่ากับมูลค่าสินค้าที่จะได้รับ ดังนั้นแม้ว่าเศรษฐกิจถดถอย บริษัทมองว่าเป็นโอกาสทางการตลาดมากกว่า”

ทั้งนี้บริษัทได้ดำเนินการสื่อสารตลาด 360 องศา เพื่อสร้างการรับรู้และการจดจำแบรนด์ ผ่านการโฆษณาประชาสัมพันธ์ การจัดกิจกรรม ณ จุดขาย การจัดคาราวานโรดโชว์ การแจกสินค้าตัวอย่างจำนวน 1 หมื่นขวดทั่วประเทศ เพื่อให้เกิดการทดลอง และจากการใช้กลยุทธ์ราคาและการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่แปลกใหม่ คาดว่าผลักดันรายได้ 300-1,000 ล้านบาท ใน 3-5 ปี หรือมีส่วนแบ่ง 10-20% จากตลาดรังนก และขณะนี้ประเทศเอฟแอนด์ เอ็น ในมาเลเซีย และสิงคโปร์ กำลังอยู่ระหว่างพิจารณานำสินค้าดังกล่าวไปทำตลาด

สำหรับผลประกอบการปีนี้ บริษัทตั้งเป้ามีอัตราการเติบโต 16-17% ซึ่งการเติบโตเท่ากับปีที่ผ่านมาจากการมีรายได้ร่วม 1 หมื่นล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทมีด้วยกัน 3 กลุ่ม หลัก ได้แก่ กลุ่มนมภายใต้แบรนด์ เอฟแอนด์เอ็น แมกโดเลีย กลุ่มกาแฟภายใต้เอฟแอนด์เอ็น ครีเอชั่น และกลุ่มผลิตภัณฑ์เอฟแอนด์เอ็น โกลด์ เป็นผลิตภัณฑ์พรีเมียม โดยปัจจุบันนมตราหมีเป็นผู้นำตลาดสเตอริไรส์ ตราหมีโกลด์ มีส่วนแบ่งเพิ่มจาก 15% เป็น 30% โดยขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดแทนที่โฟร์โมสต์   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us