ทุกวัน…ตั้งแต่เช้าจรดบ่ายในห้องค้าหลักทรัพย์ของบริษัทหลักทรัพย์ยูเนี่ยน
จะคึกคักไปด้วยผู้คนที่มานั่งเฝ้าดูการเคลื่อนไหวราคาหุ้นตัวต่าง ๆ ที่จดทะเบียนในตลาด
หนึ่งในนั้นเป็นชายร่างสูงมีอดีตเป็นเลขาธิการพรรคการเมืองใหญ่ และรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์
บุคลิกของเขาบ่งบอกถึงความเป็นคนใจดี ตื่นตัวต่อการเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ตลอดเวลา
บุคคลคนนั้นคือ โกศล ไกรฤกษ์ ผู้หลงใหลการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ด้วยเหตุผลสั้น
ๆ ว่า "ผมมีเวลาว่างมาก" แต่เหตุผลเบื้องลึกที่ซ่อนตัวอยู่ภายในความนึกคิดที่จูงใจให้เขาเข้ามาสู่วงการนักลงทุนหลักทรัพย์ที่ในภายหลังเขาได้ยอมรับกับ
"ผู้จัดการ" ว่า เป็นเพราะเห็นว่าเป็นแหล่งในการกระจายโภคทรัพย์สู่มหาชนที่น่าจะช่วยกันทะนุถนอม
และพัฒนาให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น… เหตุผลของเขาเจือปนด้วยอุดมคติแบบนักการเมืองยังอัดแน่นอยู่
ทั้ง ๆ ที่เป็นเรื่องของผลประโยชน์ทางธุรกิจ
หลายคนที่เข้าสู่วงการค้าหุ้น มองว่า เขาเข้ามาในวงการด้วยภูมิหลังที่ได้เปรียบกว่าคนอื่นๆ
ด้วยครั้งหนึ่งในฐานะเป็นรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ที่มีโอกาสรู้ข้อมูลของบริษัทต่าง
ๆ ทั้งด้านลึกและด้านกว้าง ซึ่งแน่นอนว่าย่อมนำมาใช้เป็นบรรทัดฐานประกอบการตัดสินใจได้ดี
ซึ่งเขาก็ยอมรับในจุดนี้มากทีเดียว แต่สิ่งนี้ก็เป็นเพียงปัจจัยเดียวเท่านั้น
ซึ่งไม่ได้หมายความว่า การตัดสินใจลงทุนของเขาจะไม่ล้มเหลวเสียเลย
"ก่อนผมเข้ามาลงทุนในตลาด ผมใช้เวลาศึกษาหุ้นแต่ละตัวและเกมการเล่นต่าง
ๆ ในตลาดหุ้นอยู่ 5 วัน" เขากล่าวกับ "ผู้จัดการ" เหมือนกับต้องการจะชี้ให้เห็นว่าเขาเข้ามาลงทุนแบบมีการเตรียมตัวศึกษาด้วยตนเอง
มิใช่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย
เมื่อถูกถามถึงเทคนิคการลงทุนและตอบอย่างไม่ปิดบังเลยว่า เขาเชื่อมั่นในกฎเกณฑ์การวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานของหุ้นแต่ละตัว
โดยอาศัยข้อมูลบางส่วนจากอดีตที่เขาเคยรู้มา เขาไม่มีความเห็นในเรื่องการใช้เทคนิคทางกราฟเป็นเครื่องมือในการตัดสินใจลงทุนที่กลุ่ม
TECHNICAL INVESTOR CLUB ใช้อยู่ ด้วยเหตุผลสั้น ๆ ว่า "ผมไม่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องนี้เลย"
ความที่เชื่อมั่นในกฎเกณฑ์วิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานหุ้น เขาจึงใช้เวลานานพอสมควรในการศึกษาวิเคราะห์ก่อนการตัดสินใจ
แม้ว่าเขาจะมีข้อมูลด้านลึกในความได้เปรียบด้านตลาดและเทคนิคการผลิตของการดำเนินการธุรกิจของหุ้นบางตัวอยู่ก่อนแล้วก็ตาม
แต่ด้วยความตระหนักถึงภาวะตลาดหุ้นที่เป็นเรื่องการ MASS PSYCHOLOGY เขาจึงต้องดูทิศทางราคาที่ผันผวนไปประกอบด้วย
และสิ่งนี้คือ เหตุผลที่เขาต้องมานั่งเฝ้าราคาอยู่หน้ากระดานหุ้นในห้องค้าของบริษัทนายหน้าที่เขาเป็นลูกค้าอยู่ทุกวัน
เขายืนยันว่า เป้าหมายการลงทุนของเขาอยู่ที่การหวังผลตอบแทนระยะยาวมากกว่าระยะสั้น
ๆ ในพอร์ตการลงทุนของเขาจะกระจายการลงทุนไปในหุ้นบางตัวที่มีความผันผวนของราคาต่ำ
ซึ่งกระจายหุ้นตามหมวดธุรกิจต่าง ๆ แต่ที่เน้นหนักมากก็ได้แก่ หมวดอุตสาหกรรมด้วยความเชื่อมั่นในข้อมูลด้านลึกของตัวเองนั่นเอง
และจากผลการลงทุนตั้งแต่กันยายนปีที่แล้ว จนถึงปัจจุบัน 12 เดือนเต็มด้วยความเชื่อมั่นในหลักเกณฑ์และข้อมูลของตนเองเป็นสำคัญ
ซึ่งหลายคนมองว่า เขาสำเร็จมากกว่าล้มเหลวนี้เองที่เขาบอกกับ "ผู้จัดการ"
ด้วยเสียงหัวเราะว่า ผมรู้ข้อมูลดีกว่า BROKER เสียอีก และสิ่งนี้เองกระมัง
คือ กลเม็ดเด็ดพรายการลงทุนของเขา