|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
“ปีนี้หนัก บอกตรงๆ ปีนี้เป็นปีของ CFO วิกฤติก็ต้องตัดต้นทุน แต่ธุรกิจก็ต้องขยาย ต้องดูแลบาลาสซ์ดีๆ ไม่ใช่ฝ่ายอื่นไม่เหนื่อย แต่ CFO ต้องเหนื่อยจริงๆ”
แทนที่จะได้นั่งโต๊ะทำงานตรวจเช็ก ตัวเลขในงบการเงินอย่างละเอียดถี่ยิบ แต่ยิ่งมีวิกฤติ ปรารถนา มงคลกุล CFO สาว แห่งเครือไมเนอร์ กลับยิ่งต้องเดินทางบ่อยขึ้น โดยเฉพาะเดินทางไปต่างประเทศ ไม่ว่าจะไปโรดโชว์ เทกโอเวอร์ เจรจาข้อตกลง ร่วมทุน ดึงสัญญาบริหารโรงแรมเข้ามา ฯลฯ
"สินทรัพย์ 50 ล้านเหรียญ 100 ล้านเหรียญ บางทีก็ต้องบินไปดูเอง ต้อง เห็นกับตาจะได้รู้ว่าเป็นยังไง" เธอพูดถึงทริปที่ไปเทกโอเวอร์โรงแรมมีปัญหาในต่างประเทศที่จะมีบ่อยขึ้นในช่วงที่มีวิกฤติ
ในฐานะผู้คุมบังเหียนการเงินของอาณาจักรยักษ์ใหญ่ระดับ 2.5 หมื่นล้าน เธอสรุปสั้นๆ ว่า "ปีนี้เป็นปีของ CFO" ด้วยนัยที่ว่า CFO ต้องฝีมือและต้องทำงาน หนักขึ้น
ไม่ว่าจะด้วยเหตุนี้หรือเหตุบังเอิญ COO คนใหม่ของกลุ่มไมเนอร์ โฮเทล เติบโตมาจากตำแหน่ง CFO ของกลุ่มโรงแรม ซึ่งถูกระดมเข้ามาหลังจากที่กลุ่มไมเนอร์ได้เปิดฝ่าย Hotel Management เมื่อ 4 ปีก่อน เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับทีมงานที่มีหน้าที่เจรจาและดึงสัญญาบริหารโรงแรมมาให้เชนอนันตรา
หลังจากเป็น CFO มาปีครึ่ง ทันทีที่ตำแหน่ง COO ของกลุ่มโรงแรมว่าง ปรารถนาก็รีบเสนอชื่อดิลลิป ราชากาเรีย ให้วิลเลียม ไฮเนคกี้ พิจารณาและได้รับตำแหน่งเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
"คุณดิลลิปเป็น CFO มาก่อน อย่างน้อยพื้นฐานเรื่องค่าใช้จ่ายต้องเข้มงวดอยู่แล้ว เขามีประสบการณ์ในการดำเนินงานทางด้านโรงแรมระหว่างประเทศมามาก เพราะบริษัทเก่าของเขาเป็นเจ้าของโรงแรมมากกว่า 50 แห่งทั่วโลก แม้อยู่ที่นั่นจะเป็นผู้ช่วย CFO แต่เขาก็ทำด้านเทกโอเวอร์มาด้วย เขายังดูเรื่อง hotel operation เป็นคนอนุมัติงบ ของ GM ก็เหมือนที่พี่ทำเมื่อก่อน"
ปรารถนาเล่าเบื้องหลังว่า กว่าจะหา CFO ของกลุ่มโรงแรม เพื่อมาเป็นผู้ช่วยเธอได้ ต้องใช้เวลาร่วม 2 ปี ต้องสัมภาษณ์คนไม่รู้กี่สิบคน เธอว่าไม่ใช่เพราะเรื่องมากแต่เธอเลือกมาก ถ้าไม่ดีก็ไม่เอา จนในที่สุดก็ได้ "นักการเงินที่บริหารโรงแรมเป็น" มาเป็นมือขวา
นอกจากคุณสมบัติ "นักการเงินที่เคยบริหารโรงแรม" คำตอบของดิลลิประหว่างการสัมภาษณ์น่าจะเป็นอีกเหตุผลที่คลิกกับสิ่งที่ปรารถนาต้องการฟัง
"เราถามเขาว่า เวลายูเทกโอเวอร์ทำยังไง เขาบอกว่าก็ดู IRR (Internal Rate of Return) ดู Destination ดู Location ว่าดีหรือเปล่า เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของเราไหม ฯลฯ คือคุยภาษาเดียวกันกับเรา"
ดูจากคำถามสัมภาษณ์ก็น่าจะเดาไม่ยากว่า อีกสิ่งหนึ่งที่ปรารถนาให้ความคาดหวัง มากกับ COO คนใหม่คนนี้คือ การเป็นผู้ช่วย "ล่า" โรงแรมดีๆ ที่มีปัญหาและราคาไม่แพง เพื่อนำกลับมาทำกำไรและเพื่อขยายเครือข่ายไปพร้อมกัน
ถึงจะเป็นปีที่หนักสำหรับธุรกิจโรงแรม แต่ ณ วันนี้ สมาธิของ CFO สาวแห่งเครือ ไมเนอร์กำลังโฟกัสอยู่ที่การขยายธุรกิจ โดยเฉพาะบุกตลาดต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการสรรหาทุกวิถีทางระดมทุนเพื่อรักษาสภาพคล่อง การเทกโอเวอร์โรงแรม การตั้งทีมดูแลสถาบันการเงินระหว่างประเทศออกมาเฉพาะ และการแสวงหาพาร์ตเนอร์ ทั้งที่เป็น กลุ่มเจ้าของโรงแรมและกลุ่มผู้มีเงินที่อยากนำเงินมาฝากให้เครือไมเนอร์ดูแลบริหารให้ ซึ่งเป็นกลุ่มใหม่ที่ปรารถนาแสวงหาอยู่ ฯลฯ
ด้วยแผนการเงินที่แข็งแรงซึ่งเธอวางแผนมาเป็นอย่างดี บวกกับการเป็นคนมองโลก ในแง่ดี วิกฤติครั้งนี้ปรารถนาก็ยังดูสดใส จนเคยถูกสื่อต่างประเทศตั้งคำถามว่า มาถึงวันนี้คุณกลัวเหตุการณ์อะไรที่สุด เธอตอบสั้นๆ
"World War III"
|
|
|
|
|